จับตา.....วัดทุ่งนาใหม่ เมืองคอน มีวันนี้ด้วยบารมีแห่ง "หลวงปู่อิ่ม-หลวงตาเจียม"
จับตา.....วัดทุ่งนาใหม่ เมืองคอน มีวันนี้ด้วยบารมีแห่ง "หลวงปู่อิ่ม-หลวงตาเจียม" คอลัมน์... ตามรอยตำนานแผ่นดิน โดย... เอก อัคคี
ผมเชื่อว่า สำหรับนักสะสมพระเครื่องวัตถุมงคลรุ่นใหม่ๆไม่มีใครปฏิเสธความเข้มขลังของพระเกจิอาจารย์แดนใต้อายุกว่า ๑๐๐ ปี อย่างหลวงปู่อิ่ม วัดทุ่งนาใหม่ อย่างแน่นอน เพราะท่านเดินตามรอยพระอริยาสงฆ์รุ่นครูบาอาจารย์อย่างเคร่งครัดคือ เปี่ยมด้วยความเมตตา กรุณาและมีอุเบกขายิ่งนัก โดยส่วนตัวผมเองก็ได้มีโอกาสไปกราบขอพรท่านหลายครั้งและท่านก็เมตตาจารอักขระเลขยันต์ลงบนแผ่นชนวนและปลุกเสกวัตถุมงคลที่ผมสร้างเพื่อช่วยวัดวาอารามต่างๆก็หลายหน อาทิ พระกริ่งอู่ทอง,ไอ้ไข่โคตรรวย วัดบางแพรก ฯลฯ
เพราะฉะนั้น จึงเป็นเรื่องที่น่าจะนำมาเล่าสู่กันฟังเป็นอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องราวของท่านและวัดที่ท่านอยู่ที่เสมือนร่มโพธิร่มไทรให้ลูกศิษย์ได้ไปกราบขอพรชมบารมี นั้นคือที่วัดทุ่งนาใหม่ จ.นครศรีธรรมราช ต.ยางค้อม อ.พิปูน
หลวงปู่อิ่ม พระเกจิดังแห่งเมืองนคร
หลวงปู่อิ่ม ท่านเป็นศิษย์ของพระอาจารย์ปลอด วัดนาเขลียง เคยบวชเมื่ออายุ 21 ปี หลังจากนั้นได้ลาสิกขาไปช่วยพ่อแม่ทำสวน จนเมื่ออายุ 69 ปี ท่านคิดคิดว่าจะบวชอีกครั้ง เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2527 โดยพระครูเชาวนาภิธาน เป็นพระอุปัชฌาย์ ณ วัดยางค้อมและ เมื่อ พ.ศ.2536 ท่านได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งนาใหม่ นับเป็นอริยสงฆ์แห่งต้นน้ำตาปี เมื่องคอน อายุ 101 ปี ศิษย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขันที่มากด้วยบารมีและวิทยาคม เรื่องราวที่น่าสนใจของวัดทุ่งนาใหม่ คือ เป็นวัดที่มีพระเกจิอาจารย์มากกว่าหนึ่งรูป คือ นอกจากมีหลวงปู่อิ่ม เป็นพระอริยสงฆ์อาวุโสแล้ว ที่วัดแห่งนี้ยังมี หลวงตาหลวงเจียม โอภาโส อายุ 102 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดทุ่งนาใหม่ รูปที่ 14 อยู่เป็นมิ่งขวัญชาวบ้านอีกด้วย
หลวงตาเจียมนั้น ท่านใฝ่เรียนมาตั้งแต่เด็ก เรียนตำราหมอบ้านสมุนไพรจากบิดาตั้งแต่เด็ก อายุ 15 ปี ได้ติดตามพระครูรังสรรค์อธิมุติเป็นเด็กวัดตั้งแต่สมัยท่านอยู่วัดทุ่งหม้าย ช่วงนี้ก็ตามติดไปช่วยพ่อท่านคล้าย ช่วยงานเป็นประจำ จนกระทั่งปี 2480 อายุ 18 ปี ก็บวชเป็นสามเณร ณ วัดยางค้อมโดยพระครูรังสรรค์อธิมุติ
หลวงตาเจียม ศิษย์พ่อท่านคล้าย
แล้วถือโอกาสมาช่วยพ่อท่านคล้าย สร้างพระอุโบสถวัดทุ้งนาใหม่ และ สร้างถนน สร้างสะพาน ก่อนจะกลับไปปรนนิบัติพระอุปัชฌาย์ต่อ จนปี 2482 ก็ได้ขึ้นผ้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ และ เรียนจบนักธรรมและอักขระขอมต่างคาถาต้างๆ จากพระครูรังสรรค์อธิมุต
ว่ากันว่า เป็นตำราที่พระครูรังสรรค์อธิมุต ได้คัดลอกจดบันทึกมาจากของพระครูกลาย วัดหาดสูง หลังจากนั้นท่านได้มาซ่อมสะพานที่พ่อท่านคล้ายสร้างไว้ ณ วัดทุ่งนาใหม่ และ ตามพ่อท่านคล้ายสร้างถนน สร้างบ่อน้ำและสาธารณประโยชน์มากมาย ในช่วงขณะนี้แหละ ที่ท่านว่า ท่านได้อะไรจากพ่อท่านคล้ายมาก เพราะ เมื่อพ่อท่านแสดงอะไรพิสดารท่านจะต้องเข้าถามตลอด
ต่อมาชาวบ้านที่ศรัทธาท่านหลวงตาเจียม ก็นิมนต์ท่านมารักษาการเจ้าและดูแลวัดทุ่งนาใหม่ ในปี 2485-2492 ในปี 2492 ได้เกิดเหตุกับท่าน คือ ไม้หมากตกใส่ศรีษะท่าน ไม่มีแผลใดๆ แต่ท่านเกิดอาการสติฟั่นเฟือน จนชาวบ้านต้องรีบพาท่านไปหาพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ พ่อท่านรับตัวท่านไว้ บอกให้ท่านนั่งกัมฐานกำกับสติ โดยก่อนนั่งกัมมฐานให้บริกรรมคาถาว่า "นะมะอะอุ สิวังทุสัง เทวภุมมานัง พรัมมัง" แล้วหลับตาพิจารณา สังขาร เมื่อครบ 3 เดือน อาการก็ดีขึ้นแล้วไปรับการรักษาจากหมอสมพร อีกด้วย เมื่อหลวงตาเจียม หายดีแล้ว เข้ากราบพ่อท่านคล้าย พ่อท่านให้พรท่านว่า" ป่วยหายเอง อายุยืน ภายหน้าแก่ตัวไปมีคุณ ไปให้พรคนนะ พระนะดีสำเร็จ"
พระใบฎีกาวิรัตน์ พระนักพัฒนาผู้ใฝ่วิทยาคม
หลังจากนั้นท่านกลับมาลาสิกขาในปี 2495 เนื่องจากสุขภาพที่ยังไม่สมบูรณเต็มที่ และ เดินทางไปจังหวัดยะลาโดยไม่ได้ตั้งจุดหมาย ก็ปรากฎว่า ไปถึงวัดธารโต พบอาจารย์ท่านเจ้าคุณสุระ เจ้าคุณสุระเห็นที่ท่านก็บอกว่า พ่อท่านเจียมมาแล้วก็อยู่วัดปฎิบัติธรรม นำโยมไว้พระทำบุญ ท่านก็อยู่ปฎิบัติธรรมกับหลวงปู่สุระ 30 ปี จึงเดินทางกลับมานครศรีธรรมราช มาบวชอีกครั้ง จนถึงปัจจุบัน ท่านอยู่แบบสมถะ ไม่บ่นร้อน บ่นหนาว ไม่โกรธ ไม่โลภ ไม่หลง แม้อายุจะล่วงเลย100 ปีมาแล้ว แต่วัตรปฏิบัติทุกอย่างไม่ขาดสาย บิณฑบาตร สวดมนต์ เข้มขลัง สละปัจจัย ค่าน้ำ ค่าไฟ เรียบง่าย สมถะ
ส่วนพระใบฎีกาวิรัตน์ อิสฺสรธมฺโม รักษาการเจ้าอาวาสวัดทุ่งนาใหม่ นั้น ท่านเป็นคนรุ่นใหม่ที่บวชเรียนแล้วก็สนใจใฝ่ศึกษา วิชาอาคมคาถาต่างๆมาจากทวดนุ่ม รัตนี สมัยก่อนโน้นทวดนุ่มเป็นที่พึ่งของชาวบ้านกล่าวกันว่า เวลาของหายผู้คนจะมาหาท่านให้ดูให้แค่ท่านรินเหล้าขาวใส่แก้วก็รู้ได้ทันทีว่าคนลักษณะอย่างไรเอา เอาไปทางไหน และ ได้เรียนรู้ตำราวิชาของทวดแดง ผู้ที่สามารถหายตนเองลงทางรูร่องช่องของบ้านได้
เหรียญอิ่ม ไข่ เต่า ที่โด่งดังของหลวงปู่อิ่ม
เมื่ออายุย่าง 12 ปี พระใบฎีกาวิรัตน์ อิสฺสรธมฺโม ก็ได้บรรชาเป็นสามเณร ได้เข้าศึกษาในโรงเรียนปริยัติ วัดมะนาวหวาน ก่อนจะย้ายมาอยู่วัดมะเฟื่องใต้ สมัยหลวงพ่อสนองเป็นเจ้าอาวาส ได้เรียนรู้ตำราพ่อท่านเด้ง อดีตเจ้าอาวาส พร้อมกับเป็นสามเณรนักเทศ
จนกระทั่ง ปี 2543 มีเหตุต้องลาสิกขา มาเรียนต่อปริญญาตรี และ เมื่อปี 2549 ก็เข้าอุปสมบทอีกครั้ง ณ วัดค้วนส้าน โดย พระครูสุภัทราภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ มาจำพรรษาอยู่วัดราษฎร์บำรุง หรือ วัดคุดด้วน ในอดีต ช่วงที่บวชอยู่นั้น นอกจากเรียนปริยัติจบ นักธรรมตรี โท เอก ตามลำดับแล้ว
พระใบฎีกาวิรัตน์ อิสฺสรธมฺโม นับว่าไม่ธรรมดา มีครูบาอาจารย์คอยแนะนำสั่งสอนมาก อาทิ พ่อท่านนวล ปริสุทฺโธ วัดไสหร้า ท่านแนะนำให้ยึดหลักวิปัสนาเป็นอารมณ์, พ่อท่านเอื้อม กตปญฺโญ วัดบางเนียน แนะนำการกำหนดจิต กำหนดคาบในการเสกของควบคุมจิตขณะภาวนาคาถาและวิธีดึงลมหายใจมากำกับ ,พ่อท่านสังข์ กตปญฺโญ สอนการนั่งสมาธิให้เข้าถึงยกจิตให้เหนือจิต , หลวงปู่พุ่ม กตปญฺโญ สอนวิชาคาถาอาคมทุกอย่าง เสกหมากเสกพลูเขียนยันต์บอกกัมมฐาน คาถาต่างๆ ซึ่งท่านให้เรียกว่า ทวด เพราะความผูกพันธ์ ต่อกัน,พ่อท่านบุญให้ ปทุโม แนะนำสอนสั่งบอกคาถา สอนเปิดเนตรพระ ผูกข้อมือ ผูกสายเอว
หลวงปู่อิ่ม ขณะปลุกเสกไอ้ไข่โคตรรวยให้วัดบางแพรก จ.นนทบุรี
ที่สำคัญปัจจุบันนี้ มีโอกาสได้รับใช้และ ปฎิบัติ หลวงปู่อิ่ม หลวงตาเจียม แห่งวัดทุ่งนาใหม่ อันเป็นพระเกจิอาจารย์อาวุโสของวัด ยิ่งทำให้ได้เรียนรู้ในศาสตร์วิทยาคมต่างๆเพื่อสะสมสรรพวิชา วิทยาคม ควบคู่ไปกับการทำงานด้านบริหารกิจการสงฆ์ในฐานะรักษาการเจ้าอาวาสวัดทุ่งนาใหม่ ถือว่าเป็นพระรุ่นใหม่นักพัฒนา ช่วยเหลือชุมชน โรงเรียน งานด้านสงเคราะห์ ซึ่งในขณะนี้ สิ่งที่วัดกำลังเร่งดำเนินการสร้าง คือ ปรับปรุงศาลาการเปรียญ และ สร้างเมรุใหม่ เหตุเพราะ เมรุหลังเก่าใช้งานมานานกว่า 30 ปี เกิดชำรุด
….....
เรียกว่า เรียนมาครบเครื่องทั้งหลักการบริหารกิจการงานวัดและสรรพวิชาวิทยาคม ให้สมกับที่ครูบาอาจารย์อาวุโสไว้วางใจ เพื่อให้วัดเป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้อย่างแท้จริง ยิ่งในระยะหลังๆนี้ผู้คนเดินทางหลั่งไหลไปวัดทุ่งนาใหม่มากยิ่งขึ้นทุกวัน...ทุกวัน เพื่อขอบารมีจากหลวงปู่อิ่ม-หลวงตาเจียม …..การบริหารกิจการภายในวัด พัฒนาวัดให้แลดูเรียบร้อยสวยงามจึงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินสติปัญญาของพระนักพัฒนานามว่า "พระใบฎีกาวิรัตน์ อิสฺสรธมฺโม"ไปได้
ชาวบ้านไปร่วมงานบุญของวัดทุ่งนาใหม่แน่นขนัดตลอดทุกงาน