ข่าว

‘น้องโบ๊ท’หนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ผู้สานต่อ เพชรยินดี เกริกไกร

‘น้องโบ๊ท’หนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ผู้สานต่อ เพชรยินดี เกริกไกร

01 ก.ย. 2558

‘น้องโบ๊ท’หนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ผู้สานต่อ เพชรยินดี เกริกไกร : คมคิดธุรกิจนิวเจน โดยสุนนท์ จันทร์ศรีทอง : เรื่อง นรินทร์ เครือคล้าย : ภาพ

           ชื่อของ ค่ายมวยเพชรยินดี นับว่าเป็นที่รู้จักของคนวงการมวย เนื่องจากเป็นค่ายมวยเก่าแก่ และได้สร้างทั้งนักชกชื่อดัง ระดับแชมป์เวทีมาตรฐาน และยอดมวยเงินแสน บวกกับนักชกมวยสากลอาชีพก้าวไปเป็นแชมป์โลกสถาบันหลักมากมายมาหลายยุคหลายสมัย โดยหัวหน้าคณะผู้จัดของแคมป์เพชรยินดี ตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงปัจจุบัน จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจาก “เสี่ยเน้า” วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นโปรโมเตอร์มวย ศึกเพชรยินดี ณ สนามมวยลุมพินี มายาวนาน 30 กว่าปี

           ทว่าช่วงหลังๆ หากใครเป็นคนวงการมวย หรือคนที่ติดตามข่าวสารวงการมวยอยู่ตลอด จะทราบกันดีว่า "เสี่ยเน้า" นั้น ได้วางแผนให้ลูกชายคนโต "น้องโบ๊ท" ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ เข้ามาสานต่องานด้านมวยอย่างเต็มตัวแล้ว และปัจจุบันได้เนรมิตพื้นที่ค่ายมวยเดิมที่ตั้งอยู่ภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 34 แปรเปลี่ยนเป็น เพชรยินดีคิงส์ดอม หรือ เพชรยินดีอะคาเดมี่ ซึ่งทีมงานมีโอกาสได้เปิดใจทายาทของเพชรยินดี รุ่นที่ 2 กันอย่างละเอียด

           “น้องโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท เพชรยินดี บ็อกซิ่ง โปรโมชั่น เผยให้ทราบถึงประวัติส่วนตัวให้ฟังก่อน

           “ผมมีพี่น้อง 2 คน ผมเป็นคนโต อีกคนเป็นน้องสาว เกิดที่กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันอายุ 28 ปียังโสดและเรียนจบระดับปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ ที่ ม.อัสสัมชัญ หรือเอแบค ในอดีตเคยเป็นนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยอายุ 12 ปี รุ่นราวคราวเดียวกับ ธีรศิลป์ แดงดา, ศักรินทร์ จันทร์โยธา แต่ก็เล่นฟุตบอลได้ไม่นาน เพราะเรียนหนัก ในที่สุดจำต้องเลิกราไป แต่ก็ภูมิใจและเป็นเกียรติที่ชีวิตครั้งหนึ่งเคยรับใช้ทีมชาติไทยมาแล้ว”

           หลังจากหันหลังให้ฟุตบอล “น้องโบ๊ท” ก็หันมาสนใจกีฬามวยอย่างเต็มตัว เพราะส่วนสำคัญคือคุณพ่อนั้นเป็นโปรโมเตอร์มวยที่เวทีลุมพินีและอา “เสี่ยตังค์” ปิยะรัตน์ ก็คลุกคลีอยู่ในวงการมวย “น้องโบ๊ท” ในวัยเพียง 10 ปีเศษจึงเข้าออกสนามมวยบ่อยครั้ง ด้วยการตามพ่อมาดูมวย ซึ่งถือว่าเป็นการศึกษางานไปในตัว

           “ผมเข้ามาช่วยคุณพ่อตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เพราะครอบครัวชอบมวยแทบทุกคนเข้ามาก็ได้ศึกษาหาความรู้ในหลายรูปแบบ โดยการศึกษาวิชาจากคุณพ่อและคุณอา จนกระทั่งเริ่มมีประสบการณ์มากขึ้น และเริ่มเข้าใจวงการมวย”

           เมื่อมีประสบการณ์และเรียนรู้งานได้หลายอย่าง ทั้งการประกบมวยในทีมงานเพชรยินดี หรือการดูแลนักมวยในค่ายเพชรยินดี ฟิตซ้อม เมื่อจังหวะเวลาที่ดีเดินทางมาถึง "น้องโบ๊ท" ก็ได้รับการแต่งตั้งจากสนามมวยราชดำเนินให้เข้ามาทำหน้าที่โปรโมเตอร์จัดมวย ในวัยเพียง 25 ปีเท่านั้น โดยใช้ชื่อศึกว่า เพชรวิเศษ

           “ถึงตอนนี้ 3 ปีแล้วกับอาชีพโปรโมเตอร์จัดมวยนับเป็นงานที่ท้าทายมาก สภาพร่างกายจิตใจ ต้องเข้มแข็ง เพราะเป็นงานที่ต้องใช้สมองคิดอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะให้ผลงานออกมาดี แม้ว่าบางทีจะมีท้อบ้างแต่โชคดีที่มีผู้ใหญ่ใจดีหลายท่านและคนในครอบครัวคอยให้คำปรึกษาตลอด ทำให้งานที่ออกมาดีทำให้มีพลังที่เดินหน้าสร้างสรรค์สิ่งที่ดีต่อไป”

           นอกจากการเป็นโปรโมเตอร์หนุ่มที่สุดแล้ว ปัจจุบัน “น้องโบ๊ท” ยังเข้ามาควบคุมดูแลกิจการยิมมวยสุดหรู ในนาม “เพชรยินดีคิงส์ดอม” ที่ตั้งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 34 ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัว เล่าให้ฟังว่า

           "ทางคุณพ่อได้ให้ผมเข้ามาดูแลยิมแห่งนี้ ซึ่งเป็นค่ายมวยเพชรยินดีเดิม โดยได้ขยายพื้นที่ให้กว้างขวางขึ้นและทำใหม่ทุกอย่าง บนเนื้อที่ 1.5 ไร่ มีทั้งลานจอดรถ ยิมมวย ฟิตเนส เซาน่า พร้อมห้องพัก 24 ห้อง งบประมาณในการก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 100 ล้านบาท

           เวลานี้อย่างที่ทุกคนทราบดีคือ มวยไทยของเราดังไกลไปทั่วโลก และเป็นธุรกิจเต็มตัว ซึ่งทางยิมของเรานั้น คำนึงถึงเรื่องของคุณภาพเป็นที่หนึ่ง นอกจากจะมีนักมวยไทยและมวยสากลที่มีชื่อเสียง และมวยดาวรุ่งซ้อมเป็นประจำแล้ว ยังมีชาวต่างชาติติดต่อมาซ้อมอยู่ตลอดเวลา ไม่ขาดสายทั้งจาก ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, จีน, อเมริกา มากันเยอะมาก ส่วนหนึ่งคือเขาอยากมาซ้อมเพื่อต้องการขึ้นเวทีชกในเมืองไทย โดยยิมของเราก็ให้การสนับสนุน นอกจากนั้นเรื่องของห้องอาหาร ที่พักก็มี เท่านั้นยังไม่พอยังมีคนทั่วไป เช่น พนักงานออฟฟิศ, นักเรียน นักศึกษา หรือนักแสดง ที่รักในศิลปะมวยไทยทั้งชายหญิงหลายวัยมาฝึกมวย แบบมาออกกำลังกายเป็นคอร์ส เป็นวัน เดือน ปี ก็แล้วแต่จะเลือก มากันเยอะเช่นกัน เพราะทางเรามีบุคลากร ครูมวย ที่มีคุณภาพสอนให้ทั้งในแบบมวยไทยและมวยสากล"

           ทายาทรุ่นใหม่เพชรยินดี กล่าวต่อว่า เพชรยินดีคิงส์คอม ค่อยๆ เติบโตไปเรื่อยๆ ถึงตอนนี้แม้ว่าผ่านไปไม่ถึงปี แต่เริ่มลงตัวแล้ว เพราะเรามีพื้นฐานที่ดีที่คุณพ่อสร้างมาก่อน ทั้งเรื่องของครูมวยที่มีประสบการณ์ ครูพยัคฆ์ ช.พิมล, ครูกังวาลเล็ก, ครูจิมมี่, ครูอู๊ด, ครูพิชิต ศิษย์บางระจันทร์ และตัวนักมวยที่มีชื่อเสียงเช่น สามเอ ไก่ย่างห้าดาว, เพชรมรกต ว.สังข์ประไพ, อาชาไนย เพชรยินดีอะคาเดมี่, ไชโย เพชรยินดีอะคาเดมี่ หรือ นักมวยสากล เช่น ยอดมงคล ซีพีเฟรชมาร์ท, เพชร ซีพีเฟรชมาร์ท ก็ซ้อมอยู่ที่นี่ นอกจากนั้น ยังมีพนักงานด้านอื่นๆ รวมแล้ว 50 คน ซึ่งเราอยู่กันแบบครอบครัว

           "ผมเข้ามาทำงานด้านนี้ด้วยใจรักเพราะเป็นอาชีพของคุณพ่อ โดยที่ผ่านมาตั้งแต่เรียนจบก็ไม่เคยทำงานด้านอื่นมาก่อน ดังนั้นจึงทุ่มเทอย่างสุดหัวใจเพื่อให้งานออกมาดี เหมือนที่คุณพ่อเคยทำไว้ แต่ยอมรับว่ายังต้องหาประสบการณ์อีก ซึ่งเพชรยินดีคิงส์ดอม นอกจากจะเน้นตลาดมวยไทยแล้ว เรื่องของตลาดต่างแดนก็ต้องเดินหน้าต่อไป ที่ผ่านมาเราเน้นตลาดประเทศญี่ปุ่น เคยพา ณัฐพล นาเชือกวิทยาคม ไปชกป้องกันแชมป์ลุมพินีหลายครั้ง หรือ เพชรมรกต ว.สังข์ประไพ ยอดนักเงินแสน ก็ไปชกมาแล้ว แต่ต่อไปคือตลาดทางยุโรป หรือเมืองจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่มาก มีกำลังซื้อมาก ต้องไปแน่นอน เพราะอยู่ไม่ไกลจากเมืองไทย"

           นอกจากการสร้างมวยทั้งมวยไทยและมวยสากลแล้ว เพชรยินดียังช่วยดูแลนักมวยในสังกัด หลังเลิกราอาชีพชกมวย โดย "น้องโบ๊ท" กล่าวว่า นักมวยของเราเหมือนคนในครอบครัวเรา หลังเลิกมวยแล้ว หลายคนเดินทางไปเป็นครูมวยในต่างประเทศ เช่น กังวาลเล็ก เพชรยินดี ก็ไปที่มาเก๊า หรือรายอื่นๆ ก็ไปกัน เพราะเราสนับสนุนเต็มที่ ตรงไหนที่นักมวยไปแล้วดี มีรายได้เสริม ก็ต้องให้เขาไป เพราะเราเปิดกว้าง อยากให้นักมวยประสบความสำเร็จ

           ท้ายที่สุด ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ ฝากถึงผู้ที่สนใจเรียนมวยไทย หรือเรียนมวยสากล กับครูมืออาชีพ ซึ่งจะมาเรียนด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม หรือจะมาออกกำลังกาย เล่นฟิตเนส อบเซาน่า เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเสริมสร้างความแข็งแรงและยังได้พักผ่อนสมอง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลข 0-2886-0001-5 “เพชรยินดีคิงส์ดอม” ยินดีต้อนรับด้วยความประทับใจเสมอ ซึ่งผู้ที่มาเรียนก็เหมือนเป็นการสืบสานต่อและร่วมกันอนุรักษ์มวยไทย ศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทยเหมือนกัน

วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์

           “ความเป็นมา”     “เสี่ยเน้า” วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ผู้บุกเบิกค่ายมวยเพชรยินดี กล่าวว่า ชื่อ “เพชรยินดี” มาจากชื่อร้านของครอบครัว ซึ่งประกอบอาชีพค้าขายเพชร ตั้งอยู่ที่พาหุรัด มานานกว่า 70 ปีแล้ว

           "โดยส่วนตัวก็ชื่นชอบมวยตั้งแต่เล็ก โตขึ้นเมื่อมีโอกาสก็เข้ามาสนับสนุนมวยและตั้งค่ายมวยตามลำดับ นักมวยรุ่นแรกๆ คือ จีรศักดิ์, ทองไท จากนั้นเมื่อก้าวขึ้นมาเป็นโปรโมเตอร์ลุมพินีปี 2525 และมีค่ายของตนเองแล้ว ก็มีมวยดังเข้ามาทั้งการใช้สีเสื้อหรือเข้ามาซ้อมที่ค่าย ไม่ว่าจะเป็น วิชาญน้อย, สกัด, จอมไตร, ทอง, มันส์, ทวีศักดิ์เล็ก สถานที่ตั้งค่ายแรกเริ่มอยู่ที่ซอยศาสนา และก็มาที่ท้ายสุด ซอยจรัญสนิทวงศ์ 34 จนถึงปัจจุบัน"

           ค่ายเพชรยินดีนั้น นอกจากสร้างมวยไทยชื่อดังระดับแชมป์เวทีมาตรฐานและก้าวเป็นนักชกเงินแสนหลายต่อหลายคน ยังได้สร้างนักชกก้าวเป็นแชมป์โลกสถาบันหลักอีกหลายคนเช่นกัน อย่าง แซมซั่น, ฉัตรชัย, พงษ์ศักดิ์เล็ก ก็โด่งดังสุดๆ ถือเป็นความภูมิใจของเพชรยินดี และสิ่งที่ภาคภูมิใจอีกอย่างคือตลอดระยะเวลา 30 กว่าปี นักชกเพชรยินดีไม่เคยโดนไล่ลงแม้แต่คนเดียว อีกทั้งเรื่องของรางวัลเกียรติยศต่างๆ ก็ได้รับมากมาย

           “ตอนนี้ได้วางแผนให้ลูกชายคือ น้องโบ๊ท และหลานชายคือ เสี่ยตังค์ หรือ ปิยะรัตน์ เข้ามาช่วยงานสานต่อความยิ่งใหญ่ของเพชรยินดี โดยเราตั้งมั่นในความซื่อสัตย์ ไม่เอาผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง สิ่งที่ได้มาต้องได้มาด้วยความภาคภูมิใจ ส่วนเรื่องของน้องโบ๊ทนั้น ขณะนี้เข้ามาช่วยงานเต็มตัวแล้ว ผมภูมิใจในตัวเขามาก ด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ มีความตั้งใจ ซื่อสัตย์ มีสัมมาคารวะ และรักมวยจริงๆ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เขาจะมาสานต่อให้เพชรยินดี ก้าวเดินหน้าอย่างมั่นคงแน่นอน”