ศุกร์กับเซ็กส์ - กะเทยแท้-กะเทยเทียม

ตอบ
 คำว่ากะเทยคนทั่วไปมักจะคิดถึงชายที่มีจิตใจและอากัปกิริยาเป็นหญิง แต่ความหมายของกะเทยทางการแพทย์ไม่ใช่เช่นนั้น กะเทยทางการแพทย์แบ่งเป็นสองประเภท คือ กะเทยแท้และกะเทยเทียม โดยกะเทยแท้พบได้น้อย หมายถึงคนคนเดียวมีต่อมเพศสองเพศ คือมีรังไข่ของเพศหญิงและมีลูกอัณฑะของเพศชาย อวัยวะเพศก็มีทั้งของหญิงและชาย หน่วยพันธุกรรมหรือโครโมโซมก็มีทั้ง 46XX ของเพศหญิงและ 46XY ของเพศชาย ส่วนกะเทยเทียม หมายถึงคนที่มีต่อมเพศกับลักษณะของอวัยวะเพศตรงข้ามกัน แบ่งเป็นสองแบบคือ

 กะเทยเทียมชาย คือคนผู้ที่มีลูกอัณฑะและมีโครโมโซมเป็นเพศชาย แต่อวัยวะเพศภายนอกเป็นหญิง มีเต้านมเหมือนหญิง เช่น ภาวะร่างกายไม่รับฮอร์โมนเพศชาย (Androgen insensitivity syndrome) ภาวะนี้เป็นความผิดแต่กำเนิดที่มีผลจากกรรมพันธุ์ พบได้ 1 รายต่อผู้หญิง 20,000 ราย ร่างกายเป็นผู้หญิงทุกประการมีโครโมโซมเป็นเพศชายมีลูกอัณฑะ ไม่มีรังไข่ ไม่มีมดลูก ไม่มีช่องคลอด หรือมีเพียงรูบุ๋มที่ช่องคลอดและไม่มีประจำเดือน ภาวะนี้ต้องพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย รักษาโดยการตัดต่อมเพศ (ลูกอัณฑะ) ที่มักอยู่ที่ขาหนีบ หรือในช่องท้องออก แล้วเสริมฮอร์โมนเพศหญิง หากจะแต่งงานต้องขยายหรือทำช่องคลอดใหม่

 กะเทยเทียมหญิง คือคนผู้ที่มีรังไข่และมีโครโมโซมเป็นเพศหญิง แต่อวัยวะเพศภายนอกเห็นเป็นผู้ชาย เช่น ภาวะขาดเอ็นไซมน์ 21-hydroxylase ทำให้ต่อมหมวกไตหนาตัวขึ้นตั้งแต่กำเนิด (Congenital adrenal hyperplasia) และสร้างฮอร์โมนเพศชายสูงจนทำให้อวัยวะเพศเด็กหญิงดูคล้ายอวัยวะเพศเด็กชาย

 ในกรณีของคุณ หากคุณเคยไปพบแพทย์แล้ว ก็ไม่น่าจะเป็นกะเทยเทียมชาย หากเป็น แพทย์คงตัดต่อมเพศ (ลูกอัณฑะ)ให้คุณไปแล้ว แต่น่าจะเป็นภาวะไม่มีมดลูกจากกลุ่มอาการของโรค เมเยอร์-โรกิแทนสกี้- คัสเตอร์- ฮอเซอร์( MRKH) ซึ่งไม่เกี่ยวกับกะเทย

 กลุ่มอาการ MRKH นี้พบได้มากถึง 1 ในผู้หญิง 5,000 ราย เป็นความผิดปกติแต่กำเนิดที่มีผลมาจากพันธุกรรม ทำให้มดลูก ปากมดลูกและช่องคลอดฝ่อหายไปบางส่วน แต่มีรังไข่และฮอร์โมนเพศหญิงปกติ ภายนอกจึงเป็นสาวปกติแต่ไม่มีประจำเดือน

 จะรู้ว่าเป็นกลุ่มอาการนี้ต้องไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัย หากมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ เพราะช่องคลอดสั้นตีบหรือตัน อาจต้องทำช่องคลอดโดยการขยายของเดิม หรือทำขึ้นมาใหม่
กลุ่มอาการนี้ระบบฮอร์โมนปกติดี จึงไม่ต้องรับประทานยาหรือฮอร์โมนอะไรเสริม แต่เพราะไม่มีมดลูกจึงไม่สามารถมีลูกเองได้ หากอยากมีลูกต้องใช้วิธีอุ้มบุญ คือแพทย์จะใช้ไข่ของคุณผสมอสุจิสามี เมื่อปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนก็จะใส่ไปในมดลูกของผู้ที่รับอุ้มบุญ (เด็กหลอดแก้ว) แต่จะเลือกใครอุ้มบุญต้องตกลงกันให้ดี เพราะตามกฎหมายทารกอยู่ในครรภ์ของใครผู้นั้นคือแม่ ดังนั้นคนที่อุ้มบุญให้คุณมีสิทธิ์ในตัวเด็กตามกฎหมาย 

"พญ.ชัญวลี ศรีสุโข"
([email protected])