ไลฟ์สไตล์

 มารู้จักสุนัขป่า"โคโยตี้”

 มารู้จักสุนัขป่า"โคโยตี้”

15 พ.ย. 2560

 มารู้จักสุนัขป่า"โคโยตี้”

 

         สุนัขป่าโคโยตี้เป็นสมาชิกในวงศ์คานิเด มีนิสัยหลายอย่างเหมือนญาติๆ ทั้งสุนัขบ้าน สุนัขป่า สุนัขจิ้งจอก และหมาไน พวกมันมีจมูกแคบยาว ลำตัวเพรียว ตาสีเหลือง หางพุ่ม ขนหนา มีกิตติศัพท์เรื่องการเห่าหอนเมื่อเห็นดวงจันทร์เพราะพวกมันล่าเหยื่อยามค่ำคืน และหอนเพื่อบอกที่ตั้ง มีคนหาว่าพวกมันเจ้าเล่ห์ แท้จริงแล้วโคโยตี้เป็นสัตว์ที่ฉลาดมาก และมีประสาทรับเสียง กลิ่น และการมองเห็นดีเยี่ยม

        โคโยตี้ตัวใหญ่สุดเท่าสุนัขขนาดกลาง แต่ตัวเล็กกว่าสุนัขป่า ความยาวตั้งแต่หัวจรดตะโพก 32-37 นิ้ว หากรวมหางด้วยก็เพิ่มอีก 16 นิ้ว น้ำหนักราว 9-23 กก. ส่วนขนอาจมีสีเทา ขาว น้ำตาลไหม้ ขึ้นอยู่กับถิ่นที่อยู่ หากอยู่ในแถบภูเขาจะมีสีเข้มกว่าโคโยตี้แถวทะเลทราย

        สุนัขป่าโคโยตี้อาศัยอยู่ในอเมริกาเหนือตระเวนไปตามที่ราบ ป่า เขา และทะเลทรายในแคนาดา สหรัฐ เม็กซิโก ไปจนถึงอเมริกากลาง แม้แต่แถบบรรยากาศเขตร้อน เมื่อมนุษย์เข้าไปยึดพื้นที่ชนบทมากขึ้น โคโยตี้ก็ต้องปรับตัวมาอยู่ในเมืองเพื่อหาอาหาร ทำให้มีคนพบเห็นพวกมันในเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์กและลอสแองเจลิสมากขึ้นทุกทีด้วย

        โคโยตี้เป็นสัตว์สันโดษ ใช้ปัสสาวะบ่งบอกเขตแดน แต่เมื่อล่ากวางพวกมันกลับทำงานเป็นทีม ช่วยกันไล่ต้อนจนกวางอ่อนแรง หรือไล่เหยื่อไปหาสมาชิกฝูงที่ซ่อนตัวอยู่

        พวกมันไม่เลือกกินอาหาร กินได้ตั้งแต่สัตว์เล็กจำพวกหนู กระต่าย ปลา กบ ไปจนถึงสัตว์ใหญ่อย่างกวาง โดยมักจะกินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นอาหารราว 90% หลายคนคิดว่าโคโยตี้กินเนื้อเป็นอาหาร จริงๆ แล้วมันกินได้ทั้งสัตว์และพืช หากวันไหนหาเหยื่อตัวใหญ่ไม่ได้ ก็กินงู แมลง ผลไม้ หญ้าไปพลาง แถมบางครั้งยังลามไปถึงปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงแต่พวกมันก็มีประโยชน์ที่ช่วยควบคุมสัตว์ทำลายพืชผลทางการเกษตร เช่น หนู เมื่ออยู่ในเมืองโคโยตี้จะกินอาหารสัตว์เลี้ยงหรือขยะ

       สุนัขป่าชนิดนี้ผสมพันธุ์ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิโคโยตี้ตัวเมียจะสร้างโพรงไว้ต้อนรับลูกน้อย ครั้นลูกคลอดตัวผู้จะหาอาหารมาให้ตัวเมียและลูก พร้อมช่วยดูแลให้รอดพ้นเงื้อมมือนักล่า