Lifestyle

ถ่ายเป็นเลือดอาจเสี่ยงริดสีดวงหรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย(1)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อาการถ่ายเป็นเลือด อาจเสี่ยงริดสีดวง หรือ มะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย(1) คอลัมน์...  ดูแลสุขภาพ  

 

 

          หากขับถ่ายแล้วมีเลือดออก หลายคนมักคิดว่าเป็นโรคริดสีดวงทวาร ไม่ทันคาดคิดว่าอาจเป็นสัญญาณเตือนของเนื้องอกหรือโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ทั้งที่บางอาการอาจมีความคล้ายคลึงกัน ดังนั้น ควรหมั่นสังเกตและไม่ควรชะล่าใจในการเข้ารับการตรวจวินิจฉัยกับแพทย์ เพื่อทำการรักษาได้ถูกวิธีก่อนสายเกินแก้ ในโอกาสนี้ รพ.กรุงเทพ และ รพ.วัฒโนสถ เล็งเห็นความสำคัญ ผนึกกำลังทีมแพทย์สหสาขาวิชาชีพ วางแผนวินิจฉัยการรักษาโรคริดสีดวง หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลายด้วยเทคนิคเก็บกล้ามเนื้อหูรูด เพื่อจะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี

 

 

          ศ.(พิเศษ) นพ.อัฑฒ์ หิรัณยากาศ ศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ผู้อำนวยการคลินิกศัลยกรรมลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ศูนย์ศัลยกรรม รพ.กรุงเทพ กล่าวว่า เมื่อคนไข้สังเกตว่า มีเลือดออกปนมากับอุจจาระ คนส่วนใหญ่อาจคิดเอาเองว่าเป็นอาการของโรคริดสีดวงทวารหนัก ซึ่งริดสีดวงทวารหนักคือ กลุ่มของหลอดเลือดบริเวณทวารหนักที่มีลักษณะโป่งพอง โดยปกติ ริดสีดวงทวารหนัก จัดเป็นอวัยวะอันหนึ่งของร่างกายมนุษย์ แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ ริดสีดวงทวารหนักภายใน (internal hemorrhoid) ตามปกติจะไม่โผล่ออกมาให้เห็นและคลำไม่ได้และมักจะถูกคลุมด้วยเยื่อลำไส้ใหญ่ตอนปลายสุดจะไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดในขณะที่ยังไม่มีอาการแทรกซ้อน ส่วนริดสีดวงทวารหนักภายนอก (external hemorrhoid) จะเกิดขึ้นบริเวณปากรอยย่นทวารหนัก จากการที่กลุ่มหลอดเลือดดำใต้ผิวหนังปากทวารหนักโป่งพอง สามารถมองเห็นและคลำได้ อาจมีอาการเจ็บปวด อาการของโรค อาจพบได้ตั้งแต่ รู้สึกไม่สุขสบายบริเวณทวารหนัก คลำได้ก้อน อาการปวด อาการคัน หรืออาจมีเลือดสดติดกระดาษชำระขณะเช็ดทำความสะอาด พบเลือดในโถส้วม หรือปนออกมากับอุจจาระ

 

 

          แต่สำหรับมะเร็งลำไส้ตรงหรือลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย (rectal cancer) คือมะเร็งที่เกิดขึ้นบริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ใกล้กับทวารหนัก พบได้บ่อยทั้งในเพศชายและเพศหญิง กลุ่มเสี่ยงที่สำคัญคือ ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคมะเร็ง ผู้ป่วยที่เป็นโรคอาจแสดงอาการได้หลายแบบ เช่น ถ่ายมีเลือดสดปนกับอุจจาระ หากเป็นมากอาจมีก้อนอุจจาระขนาดเล็กลง ท้องผูก รู้สึกถ่ายอุจจาระไม่สุด อาจมีอาการท้องผูกสลับกับท้องเสีย ปวดท้องน้อย อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ซึ่งอาการแสดงขึ้นอยู่กับขนาดของก้อน และตำแหน่งของก้อนมะเร็งที่พบ





          อาการของริดสีดวงทวารที่แตกต่างจากโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย คือ ถ่ายเป็นเลือด อาจคลำได้ก้อนเนื้อในรูทวารหนัก อาจมีก้อนเนื้อปลิ้นและยุบกลับเข้าไปทวารหนักได้ (มะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลายจะไม่มีก้อนเนื้อปลิ้นออกมา) อาจมีอาการปวดก้น (มะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลายจะไม่มีอาการปวดก้น) ถ่ายไม่ค่อยออก ต้องเบ่ง หรือถ่ายบ่อย คันหรือระคายเคืองรอบปากทวารหนัก เจ็บ เป็นต้น


          การรักษาโรคริดสีดวงขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรค ประกอบด้วย 2 วิธีหลักใหญ่ๆ ได้แก่ 1.ผ่าตัด และ 2.ไม่ผ่าตัด แต่ในกรณีที่แพทย์สงสัยว่าจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย การส่องกล้องลำไส้ใหญ่จะเป็นวิธีที่ช่วยแยกโรคให้ชัดเจนขึ้นเพื่อนำไปสู่การรักษาที่เหมาะสม ปกติแล้วหน้าที่ของกล้ามเนื้อหูรูดจะเป็นตัวที่ช่วยในเรื่องของการกลั้น หรือการขับถ่าย หากก้อนมะเร็งอยู่ตรงบริเวณกล้ามเนื้อหูรูด แพทย์จะทำการล้วงเข้าไปบริเวณทวารเพื่อตรวจตำแหน่งของก้อนมะเร็ง จากนั้นทำการตัดชิ้นเนื้อเพื่อนำไปตรวจทางพยาธิวิทยา

 

          หากเป็นวิธีการรักษาแบบเดิม แพทย์อาจต้องผ่าตัดกล้ามเนื้อหูรูดออกไปด้วยเพื่อให้สามารถตัดก้อนออกได้หมด ซึ่งจะทำให้คนไข้ต้องใช้การขับถ่ายผ่านถุงทางหน้าท้องไปตลอดชีวิต แต่ด้วยความก้าวหน้าเทคโนโลยีและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ชำนาญการ

 

          ในปัจจุบัน มีการผ่าตัดรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ด้วยเทคโนโลยีผ่าตัดผ่านกล้องรักษาเนื้องอกหรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย แบบเก็บกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนัก (Sphincter Saving Surgery) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการรักษา เพื่อป้องกันไม่ให้คนไข้ต้องขับถ่ายผ่านทางถุงหน้าท้องไปตลอดชีวิต การผ่าตัดในรูปแบบนี้จะใช้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลายเป็นหลัก ซึ่งการผ่าตัดเก็บกล้ามเนื้อหูรูด ต้องอาศัยความร่วมมือกันของแพทย์ผู้ชำนาญการและบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องเป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้

 

          เพราะการร่วมกันวิเคราะห์โรคและสรุปแนวทางการรักษาของผู้ป่วยแต่ละราย โดยทีมแบบสหสาขาวิชาชีพ (Multidisciplinary Team) ซึ่งประกอบด้วย ศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก อายุรแพทย์ทางเดินอาหาร อายุรแพทย์มะเร็ง รังสีแพทย์ แพทย์รังสีรักษา พยาธิแพทย์ จะทำให้ได้แผนการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า การรักษาโรคนี้ด้วยการฉายรังสีร่วมกับการรักษาด้วยเคมีบำบัดอย่างเหมาะสมก่อนการผ่าตัดรักษา จะเพิ่มโอกาสการผ่าตัดเก็บกล้ามเนื้อหูรูดในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ไม่ต้องใช้การขับถ่ายผ่านถุงหน้าท้อง

โรงพยาบาลกรุงเทพ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ