มะเร็งหลังโพรงจมูก ภัยเงียบที่ต้องระวัง
มะเร็งหลังโพรงจมูก ภัยเงียบที่ต้องระวัง คอลัมน์... ดูแลสุขภาพ
มะเร็งหลังโพรงจมูก (Nasopharynx cancer) ภัยเงียบที่ควรระวัง เพราะเกิดขึ้นกับอวัยวะภายในยากแก่การมองเห็น แต่อย่างน้อยลองสำรวจอาการตัวเองในเบื้องต้นว่าเราเสี่ยงเป็นมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะคนที่หูอื้อ คัดจมูกบ่อย มีน้ำมูกปนเลือด และคนชอบกินของหมักดอง
๐ มะเร็งหลังโพรงจมูก (Nasopharynx cancer) เป็นมาอย่างไร
โรคมะเร็งหลังโพรงจมูก (Nasopharynx cancer) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศจีน ฮ่องกง และไต้หวัน รวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างบ้านเราด้วย โดยโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกมักจะพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิงประมาณ 2 เท่า ซึ่งผู้ป่วยส่วนมากจะอยู่ในกลุ่มอายุ 2 ช่วงด้วยกัน คือ ช่วงอายุ 15-25 ปี และ 50-60 ปี
๐ มะเร็งหลังโพรงจมูก สาเหตุคืออะไร
สาเหตุของโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก ได้แก่
1.พันธุกรรม
เนื่องจากโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกมีความชุกสูงเฉพาะในเขตภูมิศาสตร์ เช่น ประเทศจีนตอนใต้ และพื้นที่ที่มีชาวจีนอพยพไปอยู่ เช่น ฮ่องกง ไต้หวัน ทำให้มีการสันนิษฐานว่า พันธุกรรมอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกได้
2.อาหารการกิน
สารก่อมะเร็งไนโตรซามีน (Nitrosamine) เป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก โดยหากสูดดมสารนี้เข้าไปสัมผัสกับเยื่อบุหลังโพรงจมูก อาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ DNA ของเซลล์เยื่อบุผิว จนเกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์ได้ ซึ่งเราจะพบสารก่อมะเร็งชนิดนี้ปนเปื้อนอยู่ในอาหารหมักดอง เช่น ปลาเค็ม เนื้อเค็ม แหนม ไส้กรอกอีสาน หรือแม้แต่อาหารปิ้งย่างต่างๆ ก็มี
3.เชื้อไวรัส
จากการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งหลังโพรงจมูกจะมีสารภูมิคุ้มกันต่อไวรัสเอปสไตน์บาร์ (Epstein-Barr virus - EBV) ในปริมาณที่สูงกว่าประชากรทั่วไปที่มีสุขภาพดี จึงสันนิษฐานว่าเชื้อไวรัสตัวนี้เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกด้วย
4.สิ่งแวดล้อม
ปัจจัยทางแวดล้อม เช่น ฝุ่นละออง ควันไฟจากการเผาไม้หรือหญ้า สารเคมีต่างๆ รวมไปถึงควันจากมวนบุหรี่ อาจมีผลต่อการเกิดมะเร็งหลังโพรงจมูกได้เช่นกัน
5.สุขภาพช่องปากที่ไม่ดี และภาวะอักเสบเรื้อรังของโพรงจมูก
สุขอนามัยทางช่องปากที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างที่ควร รวมไปถึงการอักเสบเรื้อรังของโพรงที่อยู่หลังจมูก ก็เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกได้
๐ มะเร็งหลังโพรงจมูก อาการเป็นอย่างไร
อาการแสดงของโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 กลุ่ม ดังนี้
1.อาการทางจมูก
มีอาการระคายเคืองหลังโพรงจมูก มีน้ำมูกปนเลือด มีเลือดออกทางจมูกบ่อยๆ แน่นจมูก หายใจไม่ค่อยสะดวก หรือคัดจมูก มีน้ำมูกไหลลงคอเรื้อรัง หรือเสียงเปลี่ยนไป ซึ่งอาการเหล่านี้อาจทำให้ผู้ป่วยหลายรายต้องเข้ารับการรักษาแบบเดียวกับโรคโพรงจมูกอักเสบ หรือไซนัสอักเสบเรื้อรังมาก่อน
2.อาการทางหู
การได้ยินบกพร่อง มีเสียงดังในหู รู้สึกปวดหู หรือมีของเหลวไหลออกจากหู อันเนื่องมาจากการทำงานผิดปกติของท่อเชื่อมหูชั้นกลาง เพราะการลุกลามของมะเร็ง เป็นผลให้ความกดอากาศในหูชั้นกลางลดลง ก่อให้เกิดอาการหูอื้อ และอาการนี้จะมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
3.ก้อนที่คอ
เป็นอาการที่สังเกตได้ค่อนข้างชัดของโรคนี้ โดยเฉพาะอาการของโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกระยะที่ลุกลามไปถึงต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ ซึ่งจะตรวจพบก้อนที่คอเพียงก้อนเดียว หรือหลายก้อนแบบติดกัน ห่างกันก็ได้ ทว่าเคสที่พบบ่อยมักจะเจอก้อนที่คอเพียงก้อนเดียว มีลักษณะแข็ง ไม่เจ็บ และเคลื่อนไหวไป-มาได้
4.อาการทางระบบประสาท
ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดศีรษะ มองเห็นภาพซ้อน ชาที่ใบหน้า เจ็บเสียวที่แก้มข้างเดียวกับตำแหน่งที่เป็นมะเร็ง และในรายที่อาการลุกลามมาก ผู้ป่วยอาจเป็นอัมพาตที่กล้ามเนื้อใบหน้า เวียนศีรษะ เสียงแหบ กลืนลำบาก หรือสำลักอาหาร รวมทั้งมีการรับกลิ่นและรสเปลี่ยนไปได้
5.อาการอื่นๆ
เช่น น้ำหนักลด เบื่ออาหาร มีไข้ต่ำๆ และอาจมีอาการอ้าปากไม่ขึ้น สำลักน้ำขึ้นจมูก เป็นต้น ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากการลุกลามของเซลล์มะเร็งไปยังอวัยวะตำแหน่งอื่น
หากสังเกตว่าตัวเองมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะคลำเจอก้อนที่คอ ร่วมกับรู้ตัวว่ามีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก ก็ควรรีบเข้าไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยและซักประวัติเพิ่มเติม ทั้งนี้ เพื่อการรักษาที่รวดเร็วในกรณีที่มีเซลล์มะเร็งซ่อนตัวอยู่
๐ มะเร็งหลังโพรงจมูก รักษาหายไหม
โรคมะเร็งหลังโพรงจมูกสามารถรักษาให้หายขาดได้ ในกรณีที่ตรวจพบรอยโรคในระยะเริ่มแรก นั่นหมายความว่า ยิ่งรู้ตัวว่าป่วยเร็วเท่าไร โอกาสในการรักษาโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกให้หายขาดก็ยิ่งมีความหวังมากเท่านั้น ซึ่งแนวทางการรักษาโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก มีดังนี้
1.การฉายรังสี
เนื่องจากบริเวณหลังโพรงจมูกเป็นตำแหน่งที่ยากต่อการผ่าตัด ดังนั้น การรักษาหลักๆ จึงเป็นการฉายรังสี โดยการฉายรังสีเพื่อรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก ระยะที่ 1 พบผลการรักษาที่น่าพอใจ เพราะช่วยควบคุมโรคเฉพาะที่ได้กว่า 90% นั่นหมายความว่ามีโอกาสตัดเซลล์มะเร็งทิ้งไปได้เกือบทั้งหมด
2.การฉายรังสีร่วมกับเคมีบำบัด
สำหรับกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกในระยะที่ 2 ขึ้นไป แพทย์อาจต้องใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับการฉายรังสีควบคู่กันเพื่อประสิทธิภาพการรักษาที่ดีขึ้น
3.การผ่าตัด
ในกรณีที่สามารถควบคุมเซลล์มะเร็งหลังโพรงจมูกได้แล้ว แต่ยังคงมีก้อนที่คออยู่ หรือในเคสที่ผู้ป่วยมีมะเร็งเกิดซ้ำหรือหลงเหลือเซลล์มะเร็งในบริเวณที่จำกัด เคสแบบนี้จะสามารถใช้การผ่าตัดทำการรักษาได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยแต่ละบุคคล รวมไปถึงการวินิจฉัยจากแพทย์ด้วย
พญ.พิชชาพร ธนาพงศธร
โสต ศอ นาสิกแพทย์ แผนก หู คอ จมูก
โรงพยาบาลพญาไท 1