เคล็ด(ไม่)ลับ "4 ท่า" บริหาร "ดวงตา"
เคล็ด(ไม่)ลับ "4 ท่า" บริหาร "ดวงตา"
"แก้วตา" คือเลนส์ชนิดหนึ่งที่เราสามารถเห็นได้ใกล้ไกลอย่างสะดวกสบาย หากว่าเลนส์นั้นอ่อนลงหรือไม่สมบูรณ์พอหรือเกิดอุปสรรคจากการกระทบกระเทือนอย่างหนัก เป็นต้นว่าหกล้มศีรษะฟาดพื้นหรือถ้าเป็นนักมวยถูกคู่ต่อสู้ชกถูกศีรษะหรือบริเวณขอบตาบ่อยๆอะไรเทือกนี้แล้ว ย่อมทำให้ประสาทตามืดมัวหรือนัยน์ตาฝ้าฟางได้เหมือนกัน และจะมีอาการปวดศีรษะติดตามมาด้วย วันนี้เราเลยจะมาบอกวิธีการบริหารดวงตา มี 4 ท่า ดังนี้
ท่าที่ 1 นั่งบนเก้าอี้ ลำตัวตรง ใช้ข้อศอกทั้งสองตั้งบนโต๊ะและใช้ฝ่ามือทั้งสองยันไว้ใต้คาง เพ่งสายตาทั้งคู่ไปข้างหน้า เหลือบนัยน์ตาขึ้นมองเพดานและเหลือบลงมามองบนโต๊ะที่ใช้ศอกตั้งอยู่ปฏิบัติเช่นนี้สลับกันโดยเงยขึ้นประมาณ 25 ครั้ง เหลือบลง 25 ครั้ง ในครั้งแรก อย่ากลั้นหายใจ และหายใจตามปกติ
ท่าที่ 2 นั่งอยู่ในท่าเดิมโดยไม่ต้องใช้ฝ่ามือยันคาง ให้เหลือบนัยน์ตาไปด้านขวา และกวาดสายตาตามมาทางด้านซ้ายเป็นเส้นฉากตรง ทำดังนี้ข้างละเท่าๆ กันเหมือนกับท่าที่ 1
ท่าที่ 3 นั่งอยู่ในท่าเดิมอีกครั้ง ให้เหลือบสายตาขึ้นมองดูเพดานแล้วกวาดสายตาจากด้านขวามาบรรจบด้านซ้ายเป็นครึ่งวงกลม และกวาดสายตาจากซ้ายมาขวาในลักษณะเดียวกัน ทำสลับกันไปมาเหมือนกับท่าแรกๆ
ท่าที่ 4 ยืนตรงในท่าไหนก็ได้ตามสะดวกสบาย ใช้สายตาทั้งคู่เพ่งไปข้างหน้า ให้สังเกตวัตถุอะไรสักอย่างหนึ่งเป็นเป้าหมายจงพินิจพิจารณาดูให้ดีว่าสิ่งนั้นเป็นอะไร
วิธีบริหารดวงตาทั้ง 4 ท่านี้ ถ้าหมั่นปฏิบัติเพียงอาทิตย์ละ 3 วันก็พอคือ จันทร์ พุธ ศุกร์ หรือจะทำทุกวันได้ยิ่งดี อนึ่ง เวลาตื่นนอนตอนเช้าเมื่อยังนอนหงายอยู่ก็บริหารได้เหมือนกันคือเหลือบตาลง กลอกนัยน์ตาเป็นวงกลมซ้ายไปขวาและขวาไปซ้าย ชายหางตาไปทางขวาย้อนมาซ้ายสลับกัน
คนที่มีสายตาอ่อนเมื่อดูภาพยนตร์หรือโทรทัศน์และเพ่งนานๆ จะรู้สึกนัยน์ตาพร่าหรือแสบนัยน์ตาและบางทีก็อาจทำให้น้ำตาไหลได้ นั่นคือปฐมเหตุบ่งชี้ให้เห็นอย่างแจ่มแจ้งแน่ชัดแล้วว่า มันเนื่องมาจากสายตาอ่อนนั่นเอง
ที่มา มูลนิธิหมอชาวบ้าน