เปิด "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" สวรรค์ของนักเที่ยว-นักกิน
ด้วยความพร้อมในหลายๆ ด้านของ "ภูเก็ต" ไม่ว่าจะเป็นดินแดนที่มีธรรมชาติงดงาม ฟ้าสวย ทะลใส มีจุดชมวิวยามพระอาทิตย์ตกที่โรแมนติกที่สุด ทั้งยังมีสตรีทอาร์ตเท่ๆ และบ้านเรือนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สำคัญยังมี "อาหารท้องถิ่น" ที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดอีกด้วย
ดีเดย์วันนี้ (1 ก.ค.2564 ) สำหรับการเปิดประเทศตามโรลโมเดล “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” แต่เมื่อสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุด วนลูปกลับมาอีกครั้ง จึงกลายมาเป็นปัจจัยหลัก ที่ทำให้ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะเดินทางมาที่ “ภูเก็ต” อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนแผน อย่างไรก็ตาม “ภูเก็ต” ก็ยังเป็นดินแดนในฝันของคนทั่วโลก ที่อยากมาเยือนสักครั้งในชีวิต!
มีตัวเลขจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประมาณการว่าในเดือน ก.ค. จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวที่ภูเก็ตราว 12,000-15,000 คน และยังคาดการณ์อีกว่า ตลอดไตรมาส 3 ช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวภูเก็ตประมาณหนึ่งแสนคน ซึ่งจะมีเม็ดเงินสูงถึงเกือบเก้าพันล้านบาท
ดูการประมาณการตัวเลขนักท่องเที่ยวแล้ว เรียกว่า โควิด-19 ยังต้องหลบ เพราะเสน่ห์ของ “ภูเก็ต” งดงามเกินห้ามใจจริงๆ
และใช่แค่การบอกต่อเรื่องสถานที่เท่านั้น เพราะอาหารของที่นี่ ยังได้รับการยกย่องจาก UNESCO ว่าเป็นเมืองแห่งการสร้างสรรค์ด้านอาหาร หรือ Creative City of Gastronomy ซึ่งจะมีแค่ 18 เมืองทั่วโลกเท่านั้นที่ได้รับการการันตีนี้
เหตุเพราะอาหารพื้นถิ่นแท้ๆ ของภูเก็ต เป็นวัฒนธรรมการกินที่หลากหลาย ตามชนชาติที่เข้ามาอาศัย ไม่ว่า ไทย จีน มลายู อินเดีย ยุโรป ผสมผสานจนกลายมาเป็น “ภูเก็ตสไตล์” ที่ไม่เหมือนใคร
อาหารพื้นเมืองของภูเก็ตที่หากินที่อื่นไม่ได้ มีหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น หมี่ฮกเกี้ยน บี้หุ้น โลบะ ขนมพริก เต้าซ้อ หมูฮ้อง บีโกหมอย เบือทอด จี้โจ ขนมหน้าแตก โอวต้าว โอ้เอ๋ว (ขนมโอ้เอ๋ว ผู้เขียนบทซีรี่ส์ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” ยังใช้เป็นชื่อเล่นของ “พีพี”นักแสดงนำในเรื่องด้วย)
เอาเป็นว่า หากมีเหตุขลุกขลักอันใด ที่ทำให้นั่งทานที่ร้านไม่ได้ ขอให้ปักหมุดร้านน่านั่ง-อาหารน่ากินเอาไว้ก่อน ก็คงไม่เสียหายอะไร เพราะมีแต่ได้กับได้ (กินของอร่อยเด็ด)
1.ขอเริ่มจาก ร้านโรตีน้ำแกงแถวน้ำ "ภูเก็ตมุสลิม" สูตรเฉพาะของ “บังหมีด” เจ้าของร้าน ที่ตกทอดมาถึงรุ่นลูกแล้ว เพราะเปิดบริการมาเกือบ 70 ปี พร้อมสรรพตั้งแต่ โรตี แกงมัสมั่นเนื้อ-ไก่ ถึงเครื่องแกงถึงรสชาติจริงๆ ร้านหาไม่ยากอยู่ที่ ต.ตลาดใหญ่
2. “ร้านบุญรัตน์ ติ่มซำ” นักชิมยกให้เป็นติ่มซำในตำนานเพราะเก่าแก่อีกร้านหนึ่ง ร้านนี้มีหลายสาขา ที่คนรู้จักดีก็ที่ ซ.ดิลกอุทิศ 2 เมนูก็ชวนชิมไปซะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น โจ๊กหมูใส่ไข่ ซาลาเปาหมูสับ หมูแดง ไส้ครีม หมั่นโถว ขนมจีบหมู-กุ้ง กรรเชียงปูทอด ก๋วยเตี๋ยวหลอด ทุกเมนูราคาย่อมเยา เริ่มตั้งแต่ 15-30 บาท
3. ร้านหมอมูดง อาหารท้องถิ่นรสเด็ด รสชาติภูเก็ตแบบบ้านๆ มาเลย คิวแน่นหน่อย แต่ขอให้อดทนรอ พิกัดของร้านอยู่ที่ซอยป่าหล่าย ถนนเจ้าฟ้า เมนูเด็ดของที่นี่มีเป็นร้อย แต่ถ้านึกอะไรไม่ออก ก็ขอให้ลองสั่ง น้ำพริกกุ้งเสียบ หมูคั่วเกลือ ปลายัดไส้ กุ้งคั่วตะไคร้ ปลาหมึกผัดน้ำดำ ผักเหมียงต้มกะทิกุ้งสด โดนเซ็ตนี้เข้าไป รับรองจะติดใจจนลืมไม่ลงเลยทีเดียว
4.ศูนย์อาหารลกเที้ยน กลางเมืองเก่าภูเก็ต ใกล้ถนนดีบุก ร้านนี้เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อยนิด ยิ่งใครที่แบกเป้มาเที่ยวจะเหมาะมากเพราะมาที่เดียวได้ครบถ้วนอาหารพื้นเมืองเกือบทุกเมนู พร้อมคาว-หวาน เหมือนฟู้ดคอร์ด แต่ขอให้ทยอยสั่งนะ ไม่งั้นพุงแตกแน่ มีตั้งแต่ หมี่หุ้น ปอเปี๊ยะสดฮกเกี้ยน หมี่น้ำฮกเกี้ยน หมี่ผัดฮกเกี้ยน หมี่หุ้นกระดูกหมู โอ้เอ๋ว โลบะ ฯลฯ
5. ร้านโกเบ๊นซ์ข้าวต้มแห้งภูเก็ต ตั้งอยู่ที่เทศบาลนครภูเก็ต ร้านเปิด 18.30 น.ปิดตี 3 มาที่นี่ก็ต้องเข้าคิวรอนะจ๊ะ นานแต่คุ้มค่า เพราะข้าวต้มแห้งที่นี่ดีงามมาก ขนาด “มิชลิน ไกด์”ยังมอบรางวัล 'บิบ กูร์มงด์' ให้กับร้านนี้ถึง3 ปีซ้อนมาแล้ว คนที่ลิ้มลองยกนิ้วให้เลย ไม่ว่าเกาเหลาเลือดหมู-เครื่องในหมู ที่ไม่สั่งไม่ได้คือ ข้าวต้มแห้ง เครื่องแน่นสุดๆ มาพร้อมน้ำซุปที่ต้องซดโฮกๆ เข้มข้นกลมกล่อมถึงใจจริงๆ อ้อ ร้านนี้ดารา-คนดังแวะเวียนไปหม่ำจนรีวิวกันไม่หวาดไม่ไหว
ขอแนะนำคร่าวๆ แค่นี้ก่อน คิดว่าคงน้ำลายสอกันแล้ว ส่วนใครสนใจจะแวะ ไปชิม หรือจะแนะนำนักท่องเที่ยวขอให้ลองโทรไปสอบถามแต่ละร้านก่อนนะ ว่าเปิดปกติหรือเปล่า เพราะช่วงโควิดโคใจ อาจทำให้บางร้านต้องปิดเป็นบางวัน หรืออาจต้องซื้อกลับไปนั่งทานที่โรงแรมก็เป็นได้