6 คุณประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายด้วย "โยเกิร์ต"
"โยเกิร์ต" ผลิตภัณฑ์จากนม ที่มีแบคทีเรียโปรไบโอติก แบคทีเรียเหล่านี้มีประโยชน์ในการฟื้นฟูและปรับสมดุลของระบบย่อยอาหาร การรับประทานโยเกิร์ตจึงส่งผลดีต่อร่างกายในหลายๆด้าน
คุณค่าทางอาหารของ “โยเกิร์ต” จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับปริมาณแบคทีเรียที่ยังมีชีวิตในโยเกิร์ตในขณะที่รับประทาน ดังนั้นขบวนการผลิต การบรรจุ การเก็บ ตลอดจนการขนส่ง ล้วนแล้วแต่มีผลต่อคุณภาพของโยเกิร์ต ถึงแม้ว่าจะไม่มีมาตรฐานที่แน่นอนในการกำหนดคุณภาพของโยเกิร์ต แต่โยเกิร์ตที่ดีควรมีแบคทีเรียที่ยังมีชีวิต 100 ถึง 1000 ล้านตัวต่อปริมาณโยเกิร์ต 1 มิลลิกรัม
ในการรับประทาน “โยเกิร์ต”ให้ได้รับประโยชน์ ต้องรับประทานเป็นประจำและต้องเป็นปริมาณที่มากพอ เพื่อให้มีปริมาณแบคทีเรียในลำไส้ปริมาณหนึ่ง เนื่องจากแบคทีเรียในโยเกิร์ตจะถูกขับออกจากร่างกายในเวลาไม่นานนัก โยเกิร์ต เป็นผลิตภัณฑ์ประเภท probiotics ซึ่งหมายถึงอาหารที่ประกอบด้วยจุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิต ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากสามารถปรับสมดุลของเชื้อจุลินทรีย์ในลำไส้ของผู้บริโภค
ผู้ที่มีอาการ “ท้องเสีย”เป็นเพราะมีเชื้อจุลินทรีย์อยู่ในลำไส้ แต่เชื้อจุลินทรีย์ใน "โยเกิร์ต" จะฆ่าเชื้อแบคทีเรียชนิดเลวทั้งหลาย การรับประทาน “โยเกิร์ต” จึงทำให้อาการท้องเสียทุเลาอย่างรวดเร็ว โยเกิร์ตมีไขมันคือ “คอนจูเกตเต็ดไลโนเลอิก” ช่วยป้องกันโรคหัวใจ โยเกิร์ตไขมันต่ำ 1 ถ้วย เป็นแหล่งรวมของสารอาหารถึง 11 ชนิด และแต่ละชนิดดีต่อร่างกาย ทั้งไอโอดีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี 2 โปรตีน วิตามินบี 12 ทริปโทฟาน โพแทสเซียม โมลิปเดนัม สังกะสี และวิตามินบี 5 ผู้ที่รับประทานโยเกิร์ตเป็นประจำ จึงมีสุขภาพแข็งแรง
“โยเกิร์ต” ทำมาจากนม แต่ด้วยคุณสมบัติของโยเกิร์ต คือให้โปรตีนและแคลเซียมสูงกว่านมธรรมดา เพราะในโยเกิร์ตมีกรดแลกติกที่จะช่วยย่อยแคลเซียมให้เล็กลง ทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ จุลินทรีย์ทั่วไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย แต่แลคโตบาสิลัสในโยเกิร์ตเป็นจุลินทรีย์ชนิดดีที่ร่างกายต้องการ จะไปหยุดการเจริญเติบโตของเชื้อ “เฮลิโคแบคเตอร์ เอชไพโลไร” ที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะ ลดการอักเสบของลำไส้และไขข้อ สำหรับผู้หญิง การรับประทานโยเกิร์ตยังมีผลดี ต่อการ ทำลายจุลินทรีย์ที่จะทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูก หากรับประทานเป็นประจำ
พื้นฐานของโยเกิร์ต ที่ดีต่อร่างกาย
1. ช่วยให้นอนหลับง่าย โยเกิร์ตมีส่วนประกอบของนม ในโยเกิร์ตจึงมีทริปโตเฟน กรดอะมิโนที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดความรู้สึกง่วงนอน และทริปโตเฟนยังจะช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเซโรโทนิน ฮอร์โมนที่ช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้นอนหลับง่ายกว่าเดิม
2. กระตุ้นระบบขับถ่าย ในโยเกิร์ตมีโพรไบโอติกส์ แบคทีเรียชนิดดีต่อลำไส้และระบบย่อยอาหาร ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย พร้อมทั้งโพรไบโอติกส์ยังจะช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ส่งผลให้สุขภาพโดยรวมของร่างกายดีขึ้นด้วย โดยเฉพาะหากรับประทานตตอนท้องว่าง ในช่วงเช้า หรือก่อนเข้านอน จุลินทรีย์ชนิดดีและโพรไบโอติกส์จะเข้าไปจัดระเบียบภายในกระเพาะอาหารและลำไส้
3. ดีท็อกซ์ร่างกาย โยเกิร์ตจะเข้าไปกระตุ้นระบบขับถ่ายแล้ว การที่ร่างกายขับถ่ายได้ดีขึ้น เหมือนการดีท็อกซ์ลำไส้ไปในตัว ที่สำคัญยังจะส่งผลดีต่อการดูดซึมสารอาหาร ในรายของคนอ้วน , ถ่ายยาก การได้รับโพรไบโอติกส์จากโยเกิร์ตเป็นประจำจะช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายได้
4. ควบคุมน้ำหนัก โยเกิร์ตยังจัดเป็นอาหารแคลอรีต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกโยเกิร์ตไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย หรือรสธรรมชาติ รวมไปถึงต้องคุมอาหารในระหว่างวัน ร่วมกับหมั่นออกกำลังกาย
5. เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ระหว่างที่นอนหลับร่างกายจะมีกระบวนการเสริมสร้างและฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอ ซึ่งการรับประทานโยเกิร์ตก่อนนอน จะช่วยเสริมโปรตีนให้ร่างกายดึงไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะผู้ที่ออกกำลังกายแบบใช้กล้ามเนื้อหนัก ๆ การรับประทาฯโยเกิร์ตที่มีโปรตีนนอน จะช่วยฟื้นฟูมวลกล้ามเนื้อที่เสียหาย พร้อมกันนั้นก็ช่วยป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อในระหว่างที่นอนหลับ
6. ดีต่อผู้ที่แพ้โปรตีนจากนม สำหรับผู้ที่ร่างกายไม่สามารถย่อยแลคโตสจากนมได้ โยเกิร์ต ทำหน้าที่แทนนม เพราะกรดแลคติกและแบคทีเรียในโยเกิร์ตจะช่วยลดปริมาณแลคโตสที่มาจากนม ส่งผลให้ผู้ที่แพ้แลคโตสจากนมสามารถรับประทานโยเกิร์ตได้โดยไม่เกิดผลข้างเคียง เช่น ท้องเสีย ท้องอืด เหมือนการดื่มนม
นี่จึงเป็นคุณประโยชน์ที่ได้รับจากการรับประทาน “โยเกิร์ต”
*** ขอขอบคุณเนื้อหาจาก https://rositacorrer.com/
***ภาพประกอบจาก https://pixabay.com/