ข่าว

เช็ก "สัญญาณเตือน" ที่บ่งบอกว่าลูกน้อยเป็น "โรคหัวใจ"

เช็ก "สัญญาณเตือน" ที่บ่งบอกว่าลูกน้อยเป็น "โรคหัวใจ"

14 ก.ค. 2564

เช็กเลย 7 "สัญญาณเตือน" ที่บ่งบอกว่าลูกน้อยของคุณเสี่ยงเป็น "โรคหัวใจ"

ต้องขอบอกเลยว่าไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่เท่านั้นที่มีความเสี่ยงเป็น "โรคหัวใจ" แม้แต่เด็กเองก็มีความเสี่ยงที่จะพบว่าเป็นโรคหัวใจได้เช่นกัน วันนี้เราจะมาแนะนำพ่อแม่ถึงวิธีสังเกตอาการเบื้องต้นของ "โรคหัวใจในเด็ก" หากพบว่าลูกป่วยก็จะได้รีบรักษาได้ทันท่วงที และก็จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้ 

 

 

ซึ่งหลักเกณฑ์สำคัญเพื่อใช้วิเคราะห์ว่าลูกเสี่ยงเป็นโรคหัวใจหรือไม่ มีดังนี้

 

ลูกมีอาการตัวเขียวหรือไม่?

 

อาการเขียว หมายถึง เด็กที่เกิดมามีผิวสีเขียวคล้ำทั่วร่างกาย โดยเฉพาะปลายมือ ปลายเท้า ริมฝีปาก จะเห็นได้ชัดขณะที่เด็กดูดนม ขณะกำลังร้องไห้จะดูเขียวมากขึ้น บางคนเวลาเล่นมาก ๆ หรือตื่นนอนตอนเช้า ถ้าเป็นมาก ๆ อาจพบว่ามีหายใจแรง ตัวอ่อน และไม่รู้สึกตัวได้ เด็กที่มีอาการเขียวมาเป็นระยะเวลานาน ๆ อาจพบปลายนิ้วปุ้มเหมือนกระบองและเล็บงุ้มลง 

 

เขียว (Cyanotic) อาการแสดงของโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียว เป็นภาวะที่มีความผิดปกติของหัวใจหรือหลอดเลือดที่เกิดขึ้นตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา โดยเฉพาะในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ โดยที่ความผิดปกตินั้น ๆ ทำให้มีเลือดดำปนอยู่ในเลือดแดง จนลำเลียงออกซิเจนไม่ได้ ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ไม่ได้รับออกซิเจนในเลือดเพียงพอ เลือดจึงมีสีแดงคล้ำขึ้น ทำให้เกิดภาวะเขียว 


ลูกมีอาการหอบ เหนื่อยง่าย หายใจเร็วกว่าปกติหรือไม่?

 

ในทารกหรือเด็กเล็กที่เป็นโรคหัวใจอาจมีอาการเหนื่อยง่ายขณะดูดนม ทำให้ต้องหยุดดูดเป็นช่วง ๆ หากทารกต้องใช้เวลาดูดนมมื้อหนึ่งนานเกิน 30 นาที ควรสงสัยว่าทารกนั้นอาจมีความผิดปกติได้ ในเด็กวัยเรียนขึ้นไปอาจพบว่าเหนื่อยง่ายเวลาเล่นหรือออกกำลังกาย ในรายที่เป็นมาก ๆ แม้กระทั่งขณะพักก็พบว่ามีอาการเหนื่อยหอบ หรือต้องนอนศีรษะสูง อาการเหล่านี้เกิดจากเด็กที่มีความพิการของหัวใจแต่กำเนิด อาจมีการคั่งของเลือดที่ปอด ทำให้มีการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนกับเลือดที่ปอดได้ไม่ดีเท่าที่ควรและทำให้ปอดมีความยืดหยุ่นน้อยลงด้วย ทำให้เหนื่อยง่าย


ลูกมีเหงื่อออกมากผิดปกติหรือไม่?

 

คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตได้ว่า ลูกมีเหงื่อออกมากโดยเฉพาะแถวหน้าผาก ด้านหลังของศีรษะและหลัง โดยไม่ได้สัมพันธ์กับเสื้อผ้าที่หนาหรืออากาศร้อน เนื่องจากหัวใจต้องทำงานมาก มีการใช้พลังงานสูงกว่าปกติ และมีการทำงานของระบบประสาทซิมพาเธติกมากกว่าปกติด้วย ส่งผลให้ลูกมีเหงื่อออกมาก อาการนี้จะเห็นได้ชัดเจนในเด็กที่มีภาวะหัวใจวายร่วมด้วย 

 

หัวใจเต้นเร็วและแรงกว่าปกติหรือไม่?

 

ในทารกสามารถสังเกตได้ว่าหัวใจของลูกเต้นเร็วและแรงกว่าปกติ โดยมีการกระเพื่อมของหน้าอกซ้ายด้านล่างแถว ๆ ใกล้ราวนม และบางครั้งอาจเห็นการกระเพื่อมที่หน้าอกคล้ายกลองที่ถูกตี 



 

มีอาการใจสั่นหรือหัวใจเต้นเร็วหรือไม่?

 

ในเด็กปกติเราพบว่าจะมีหัวใจเต้นเร็วขึ้นได้เมื่อออกกำลังกาย หรือมีไข้สูง แต่หากพบว่าเด็กมีหัวใจเต้นเร็วหรือใจสั่นในขณะพักควรสงสัยว่าอาจจะมีคลื่นไฟฟ้าผิดปกติเกิดขึ้นในหัวใจ อาการเหล่านี้อาจเป็น ๆ หาย ๆ ดังนั้นเมื่อเด็กมีอาการใจสั่นควรจับชีพจรหรือเอามือคลำหน้าอกเด็กเพื่อนับอัตราการเต้นของหัวใจต่อหนึ่งนาที ถ้าในทารกหัวใจเต้นเร็วกว่า 160 ครั้ง, เด็กเล็กหัวใจเต้นเร็วกว่า 140 ครั้ง และเด็กโตหัวใจเต้นเร็วกว่า 120 ครั้ง ควรพาไปพบแพทย์ 

 

ลูกตัวเล็ก การเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ

 

เด็กโรคหัวใจบางคนจะตัวเล็ก เจริญเติบโตช้า น้ำหนักไม่ขึ้นตามเกณฑ์ หรือพัฒนาการทางกล้ามเนื้อช้า โดยเฉพาะเด็กที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดโดยเฉพาะที่มีหัวใจวายร่วมด้วย จะดูดนมไม่ค่อยเก่ง รับประทานอาหารได้น้อยและอาจมีการดูดซึมอาหารของลำไส้ไม่ดีเท่าปกติ เพราะมีการคั่งของเลือดทำให้ได้อาหารไม่พอเพียงกับความต้องการของร่างกาย 

 

หน้ามืด เป็นลม หมดสติ

 

มักพบในกรณีการตีบแคบอย่างรุนแรงของหลอดเลือดแดงในส่วนลิ้นหัวใจ ทำให้เลือดไปเลี้ยงร่างกายและสมองไม่เพียงพอ 

 

ในกรณีเด็กแรกคลอดหากมีอาการผิดปกติที่นำไปสู่โรคหัวใจ กุมารแพทย์จะเช็กให้ทันทีหลังออกจากห้องคลอด แต่หากลูกคลอดออกมาแล้วไม่พบอาการเตือนโรคหัวใจในช่วงแรก แต่เมื่อไรก็ตามที่สงสัยหรือไม่แน่ใจว่าบุตรหลานของท่านอาจมีอาการของโรคหัวใจดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ควรมาโรงพยาบาล เพื่อให้กุมารแพทย์โรคหัวใจตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพื่อจะได้นำไปสู่การดูแลรักษาได้อย่างถูกต้อง ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้จนอาการรุนแรง

 

ทั้งนี้โรคหัวใจในเด็ก หากพบอาการก่อน ตรวจวินิจฉัยได้เร็ว รักษาตรงกับกลุ่มอาการของโรคหัวใจ ก็มีโอกาสหายขาดได้ เมื่อสงสัยว่าบุตรหลานของท่านอาจมีอาการของโรคหัวใจดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น ควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อให้กุมารแพทย์โรคหัวใจตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพื่อจะได้นำไปสู่การดูแลรักษาได้อย่างถูกต้อง ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้จนอาการรุนแรง 

 

ขอบคุณข้อมูล รพ.นครธน

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ศึกษาพบ ทำงาน เกิน 55 ชม./สัปดาห์ เสี่ยง โรคหลอดเลือดสมอง - โรคหัวใจ

รู้จัก "ไขมัน" ห่างไกล "โรคหัวใจ" และ "หลอดเลือด"

แค่ "เดินเร็ว" วันละ 30 นาที ช่วยป้องกันโรคหัวใจ และสมองเสื่อม