"พรุน" ลดเลี่ยงจากมะเร็ง - โรคหัวใจ
"ไหน" ในชื่อภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษ Plum ( พลัม) หรือที่เรียกกันว่า" พรุน" หรือ"ลูกพรุน" เป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง ในแง่ของคุณประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว ถือว่าให้ประโยชน์ที่หลากหลาย
พลัม หรือ "พรุน" สามารถแบ่งตามการใช้ประโยชน์ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ พลัมชนิดที่ใช้รับประทานแบบสด ๆ "ลูกพรุนสด" เหมือนผลไม้ทั่วไป และอีกชนิดคือ พลัม สำหรับแปรรูป เช่น การนำมาทำเป็นแยมลูกพรุน , น้ำลูกพรุน นำมาดอง หรือนำมาแช่อิ่ม
ประโยชน์ของพลัม หรือ " พรุน" เมื่อถูกแปรรูปให้เป็นผลไม้อบแห้ง จะเรียกว่า " พรุนอบแห้ง" จะช่วยในการชะลอวัย ชะลอความแก่ ป้องกันโรคเรื้อรังไม่ติดต่อ ด้วยคุณลักษณ์ที่มีไขมันต่ำและมีสารอาหารสำคัญ ทั้ง วิตามิน เกลือแร่ คาร์โบไฮเดรต โพแทสเซียม (กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกาได้ระบุว่าผลไม้ที่ช่วยชะลอความแก่ได้ดีที่สุดคือ "ลูกพรุนแห้ง" หรือ "ลูกพรุนอบแห้ง” สูงกว่าลูกเกด ส้ม แอปเปิล ลูกแพร์ เกรปฟรุต บลูเบอร์รี ฯลฯ)
" พรุน" เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เนื่องจากมีสารคริปโตคลอโรจีนิกในปริมาณมาก ซึ่งสารชนิดนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดฤทธิ์ของอนุมูลอิสระ ป้องกันและต่อต้านมะเร็ง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ป้องกันดีเอ็นเอถูกทำลาย ช่วยลดการอักเสบและช่วยป้องกันมะเร็ง
ด้วยการยับยั้งการกลายพันธุ์และสารก่อมะเร็ง เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่หลายชนิดและมีอยู่ในปริมาณมาก มีธาตุเหล็กและวิตามินเอ และมีปริมาณของสารโพลีฟีนอลสูงถึง 282-922 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งสารโพลีฟีนอลที่พบมากคือ กรดไฮดรอกซีซินนามิก ที่อยู่ในรูปของกรดนีโอคลอโรเจนิกและกรดคลอโรจีนิก นอกจากนี้ยังมีโปรแอนโธไซยานิดิน และฟลาโวนอยด์พิกเมนต์ ดังนั้นการรับประทานผลิตภัณฑ์จาก “พรุน”เป็นประจำ ช่วยป้องกันมะเร็งได้
" พรุน"ช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ ช่วยรักษาระดับการเต้นของหัวใจ ช่วยป้องกันไขมันไม่ให้ถูกทำลาย ลูกพรุนอุดมไปด้วยธาตุเหล็กที่มีความสำคัญในสร้างเม็ดเลือด ช่วยบำรุงเลือด ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง แก้อาการอ่อนเพลีย สมาธิสั้น การเรียนรู้ลดลง และช่วยในการดูดซึมของธาตุต่าง ๆ ในร่างกาย และยังช่วยในเรื่องของภาวะที่สตรีต้องสูญเสียเลือดไปกับประจำเดือน
“ พลัม” หรือ “พรุน” มีวิตามินอีที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาของออกซิเจนที่ไม่สมบูรณ์ในร่างกาย ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ยืดอายุของเม็ดเลือดแดง ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด (LDL) และช่วยลดระดับความดันโลหิต ให้ประโยชน์ต่อหลอดเลือดหัวใจ จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้เป็นอย่างดี “พลัม” หรือ "พรุน"มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำมาก จึงเป็นประโยชน์ต่อผู้เป็นเบาหวาน และยังมีงานวิจัยที่ระบุว่า"พรุน"สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ แม้ว่าผลไม้ชนิดนี้ จะมีความหวาน
การรับประทาน"พรุน"เป็นประจำช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะพรุนมีไขมันต่ำ มีแคลอรีน้อย และยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน คุณลักษณะของผลไม้ที่มีสีแดง-ม่วง เช่น แอปเปิล องุ่น สตรอว์เบอร์รี แครนเบอร์รี แบล็กเบอร์รี รวมไปถึง"พรุน" จะเข้าไปช่วยบำรุงการทำงานของเซลล์สมอง ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ เพราะมีวิตามินอีและแร่ธาตุที่ช่วยลดอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
" พรุน"เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม การรับประทานลูกพรุนจะช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ ช่วยบำรุงสายตา ช่วยในการมองเห็น เนื่องจากมีวิตามินที่ช่วยบำรุงตาในส่วนของจอรับภาพ และยังมีวิตามินบีที่ช่วยบำรุงเส้นประสาทที่เลี้ยงลูกตา ช่วยเสริมสร้างและบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
ป้องกันอาการท้องผูก เพราะมีเส้นใยอาหารสูง จึงช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหารและมีฤทธิ์ในการระบายท้อง จึงช่วยบำบัดอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี และยังช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ "พรุน"อุดมไปด้วยโพแทสเซียม วิตามินอี ธาตุเหล็ก และเส้นใยอาหาร ที่ช่วยทำให้ผิวพรรณมีเลือดฝาด ผิวพรรณดูสดใส ทำให้ผิวพรรณดูเนียนนุ่มชุ่มชื้น ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร
"พรุน"มีวิตามินบี 2 ที่นอกจากจะช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดแดงแล้ว ยังช่วยในกระบวนการสร้างและช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผิวหนัง เล็บ และผม สำหรับผู้ที่เป็นตะคริวบ่อย ๆการรับประทานอาหารจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน เพราะ อุดมไปด้วยแมกนีเซียมที่เป็นตัวช่วยควบคุมฮอร์โมนให้เป็นปกติและช่วยบรรเทาอาการปวด แต่ต้องรับประทานก่อนมีอาการปวดประจำเดือนประมาณ 1-2 วัน และสุดท้ายช่วยลดอาการอักเสบและอาการเจ็บปวดต่าง ๆ
ข้อควรระวังในการรับประทาน "พรุน"หรือน้ำลูกพรุนมีฤทธิ์เป็นยาระบาย การรับประทานครั้งละมาก ๆ อาจทำให้ท้องเสียได้ สำหรับหญิงตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานลูกพรุนในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะลูกพรุนเป็นผลไม้ที่ช่วยให้ขับถ่าย อาจทำให้ถ่ายเยอะและส่งผลให้มดลูกบีบตัว กระตุ้นให้คลอดลูกเร็วกว่ากำหนด[
"น้ำลูกพรุนเข้มข้น" อันตรายสำหรับเด็ก เนื่องจากมีแร่ธาตุสูงจนเกินไป จะไปกระตุ้นระบบขับถ่าย ส่วนผู้ป่วยที่เป็นโรคไต ผู้ที่ต้องล้างไตอยู่เป็นประจำ รวมไปถึงผู้ที่มีอาการถ่ายเหลว ห้ามรับประทาน เพราะอาจจะทำให้อาการที่เป็นอยู่รุนแรงมากขึ้น "พรุน"มีโพแทสเซียมสูง ทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตไม่สามารถขับโพแทสเซียมออกจากร่างกายได้ อาจเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนล้า หัวใจเต้นอย่างผิดปกติ และหัวใจหยุดเต้นได้
ขอขอบคุณเนื้อหาจาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ปลากระป๋อง"อาหารราคาถูกแต่ดีต่อกระดูก
- กิน"ถั่วเหลือง"กันเถอะ
- รู้หรือไม่ "แครอท" เป็น "ผัก หรือ ผลไม้" วันนี้มาไขคำตอบ กับสรรพคุณอันหลากหลาย
- ประโยชน์ของ "วิตามินดี" ที่ได้จากแสงแดดและอาหาร ดีต่อ "สุขภาพ" มากกว่าที่คิด