5 ประโยชน์ "ข้าวฟ่าง"
"ข้าวฟ่าง" อีกหนึ่งพืชที่มีคุณประโยชน์ หลากหลาย
ข้าวฟ่าง, ข้าวฟ่างหางช้าง หรือ ข้าวฟ่างสมุทรโคดม เป็นพืชปลูกในสกุลข้าวฟ่างและมีชื่อสามัญว่า sorghum เป็นพืชในวงศ์หญ้า อายุปีเดียว ต้นเดี่ยวหรือแตกกอที่โคน มีรากพิเศษเป็นรากฝอย ต้นตั้ง แห้งหรือฉ่ำน้ำ จืดหรือหวาน
"ข้าวฟ่าง" เป็นแหล่งรวมสารอาหารสำคัญหลายชนิด เช่น แมกนีเซียม โพแทสเซียม สังกะสี เหล็ก วิตามินบี และใยอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ คุณประโยชน์ ของข้าวฟ้าง ที่มักจะใช้เมล็กในการประกอบอาหารทั้งคาวหวาน เช่น โจ๊กข้าวฟ่าง ทำเป็นยำรสจัด แกงกะทิรสเข้มข้น หรือ ข้าวฟ้างเปียก เป็นต้น
4 ประโยชน์ "ข้าวฟ่าง"
1. รักษาโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานเกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากขาดฮอร์โมนอินซูลินหรือมีภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ส่งผลให้ร่างกายทำงานผิดปกติและก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อน โดยเฉพาะที่ดวงตา ไต ระบบประสาทส่วนปลาย หัวใจ และหลอดเลือด ดังนั้น หลายคนจึงใส่ใจกับการรับประทานอาหารมากขึ้น โดยข้าวฟ่างถือเป็นหนึ่งในธัญพืชยอดนิยมที่คนนำมาบริโภค ซึ่งเชื่อกันว่าอาจช่วยรักษาหรือลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานลง เพราะเป็นธัญพืชที่มีแป้งต่ำและอุดมด้วยเส้นใยอาหารสูง
2. ต้านอนุมูลอิสระ
สารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารช่วยป้องกันและชะลอความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมา เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ มะเร็ง เป็นต้น โดยสารนี้มักมีอยู่ในอาหาร โดยเฉพาะผัก ผลไม้ พืชต่าง ๆ รวมถึงข้าวฟ่างด้วย
3. ลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์
ไตรกลีเซอไรด์ที่จัดเป็นไขมันชนิดหนึ่งที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้น หรืออาจมาจากการรับประทานอาหารบางประเภท แต่หากร่างกายมีระดับไตรกลีเซอไรด์สูงก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด อันเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทย และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งการศึกษาบางส่วนพบว่าการรับประทานธัญพืชอย่างข้าวฟ่างอาจช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ได้
4. ปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร
ข้าวฟ่างมีไฟเบอร์สูงช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร ในร่างกายให้คงที่ ช่วยป้องกันอาการท้องอืด ท้องเฝ้อ หรือป้องท้อง และลดความเสี่ยงต่อการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ ได้อีกด้วย
ที่มา Pobpad