โวยหนักจนท.จ้องจับแต่ซาเล้ง แต่รถสองแถวตีนผีกลับนิ่งเฉย
ระนอง - สองแถวผีวิ่งเกลื่อนเมืองระนอง รับผู้โดยสารงานลอยกระทง ซาเล้งโวยเจ้าหน้าที่ทำไมจับแต่รถซาเล้ง
วันที่ 10 พ.ย.2562 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มรถสองแถวไม้โดยสารประจำทางรวมตัวกันร้องเรียนไปยังจังหวัด เรื่องรถสามล้อพ่วง(ซาเล้ง)วิ่งรับผู้โดยสารทับเส้นทางสัมปทาน โดยทางจังหวัดได้มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และขนส่งจังหวัดระนอง ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจจับรถซาเล้งที่รับส่งผู้โดยสารในค่ำวันเดียวกันที่บริเวณแยกห้องสมุด ซึ่งเป็นทางเข้างานลอยกระทงเทศบาลเมืองระนอง โดยคืนแรกเจ้าหน้าที่ได้จับกุมรถซาเล้งและเปรียบเทียบปรับไปได้หลายคัน
ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา(9พ.ย.2562) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากมีกลุ่มรถซาเล้งที่ขออนุญาตและมีเสื้อวินที่ออกโดยถูกต้องได้รับความเดือดร้อนจากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ ทำให้ในคืนถัดมาบรรดารถซาเล้งไม่กล้าจะออกมารับส่งผู้โดยสารเหมือนปกติในช่วงงานลอยกระทงหลายปีที่ผ่านมา
เนื่องจากต่างก็เกรงว่าหากออกไปรับผู้โดยสารไปงานลอยกระทงแล้วจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ซึ่งทางกลุ่มผู้ประกอบอาชีพซาเล้งได้ตั้งข้อสังเกตว่าในช่วงคืนลอยกระทง ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ซึ่ง1ปีจะมีซักครั้งที่บรรดารถโดยสารไม่ว่าจะเป็นรถสองแถวไม้ หรือรถซาเล้ง ทั้งที่ถูกต้องและไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จะออกมารับส่งผู้โดยสารเพื่อมาเที่ยวงานลอยกระทงเป็นประจำทุกปี เพราะเป็นช่วงที่บรรดารถโดยสารทุกชนิดจะมีรายได้เสริม นอกเหนือจากการวิ่งรับส่งผู้โดยสารประจำวัน
แต่ทำไมปีนี้ทางจังหวัดถึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่มาตรวจจับแต่รถซาเล้ง แต่กลับไม่จับรถสองแถวไม้โดยสารประจำทางที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบขนส่ง อาทิ สวมใส่เครื่องแบบไม่สุภาพ ไม่มีข้อความระบุจำนวนผู้โดยสาร น้ำหนักรถที่ด้านข้างรถ ป้ายหน้า-หลัง และด้านข้างบนหลังคารถทาสีมาอย่างเดียวไม่บอกว่าเป็นรถคิวของเส้นทางไหน ซึ่งรถดังกล่าวหากจะเรียกภาษาชาวบ้านนั่นก็คือ”รถสองแถวผี” ทั้งที่รถเหล่านี้ก็ออกมารับส่งผู้โดยสารในจุดเดียวกันช่วงค่ำของงานลอยกระทงเหมือนกัน แต่เจ้าหน้าที่กลับนิ่งเฉยไม่มีการดำเนินการจับกุมและสั่งเปรียบเทียบปรับแต่อย่างใด
โดยเมื่อผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ จึงได้พบว่าบริเวณปากทางเข้างานลอยกระทงมีรถซาเล้งรับส่งผู้โดยสารน้อยมาก จะมีแต่รถสองแถวไม้ที่รับส่งผู้โดยสารกันเป็นส่วนใหญ่ และไม่พบเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆที่เคยลงพื้นที่ทำการจับกุมรถซาเล้งไปเมื่อคืนวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีการแจ้งไปยังต้นสังกัดว่ามีผู้สื่อข่าวในพื้นที่ลงไปรอทำข่าวกรณีดังกล่าวที่บริเวณหน้างาน จึงมีการสั่งการจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องให้ยกเลิกภาระกิจอย่าเพิ่งเข้าไปบริเวณหน้างานก่อน
ผู้สื่อข่าว ได้ติดตามไปยังจุดที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานๆหนึ่ง ซึ่งนั่งอยู่กับคนขับรถสองแถวไม้ที่ศาลาริมถนนเพชรเกษมข้างสนามกีฬา จ.ระนอง สอบถามถึงการปฏิบัติหน้าที่ว่าทำไมจึงไม่ลงพื้นที่จับกุมรถโดยสารที่ผิดกฎหมาย แต่ได้รับคำตอบกลับมาว่า หน่วยงานของเจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าว ไม่เกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจในการดำเนินการเรื่องดังกล่าว แค่มาร่วมอย่างเดียวตามคำสั่งของทางจังหวัด โดยหลังจากนี้ผู้สื่อข่าวจะได้ติดตามลงพื้นที่ดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่ายในการนำเสนอข่าวต่อไป
ด้านนาย เอ(นามสมมติ) คนขับซาเล้งที่ได้รับความเดือดร้อน เปิดเผยว่า ตนขับรถพ่วง(ซาเล้ง)มาหลายสิบปีแล้ว แต่มาปีนี้ทำไมขนส่งถึงทำกับตนแบบนี้ รถคันอื่นที่ว่าเขาไม่ถูกต้องทำไมถึงไม่จับ ทำไมถึงมาจับแต่ซาเล้งอย่างเดียว รถตนก็เคยขึ้นไปหาผู้ว่าตั้งแต่สมัย ปี 2549 และได้ทำหนังสือกับผู้ว่าซีอีโอ ผู้ว่าก็ยังบอกเลยว่า รถม้าลำปางยังวิ่งได้ แต่ทำไมรถพ่วง(ซาเล้ง)
"คนจนๆอย่างผมนี่ทำไมจะวิ่งไม่ได้ แล้วครั้งนี้ขนส่งมาจับ ตำรวจมา ทหารมา ฝ่ายปกครองมา อ.ส.มา จับหมด แล้วทีรถผีรถสองแถว แล้วทำไมไม่จับ แล้วสองแถว เขาให้บรรทุกกี่คน เกินจากอัตราที่กำหนดมั้ย แถมเวลาจอดก็จอดซ้อนคันทำไมไม่จับ จับแต่รถพ่วง(ซาเล้ง)อย่างเดียว รถพ่วง(ซาเล้ง)ก็เดือดร้อนเช่นกัน เพราะต้องเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย ไม่ใช่ทำแต่ผมคนเดียว"นายเอ(นามสมมติ)กล่าว
คนขับซาเล้ง รายเดิมกล่าวอีกว่า กรณีเข้าไปจับกุมในคืนแรกของงานลอยกระทง ซึ่งคืนที่ถูกจับลูกน้องตนคันนึงก็ไม่ได้บรรทุกคนแต่อย่างใด คือไปเรียกออกมาจับทำแบบนี้มันถูกต้องไหม ด่านก็ไม่ได้ตั้ง แล้วมาตีรวนไปหมด แล้วรถพ่วง(ซาเล้ง)ที่พม่าขับกันทั่วเมืองเยอะแยะทำไมไม่จับวิ่งกันเกือบตายแล้วทำไมไม่จับ มาจับแต่รถที่พวกผมซึ่งเป็นคนไทยที่ทำมาหากินหาเช้ากินค่ำ แบบนี้มันไม่ใช่ ต้องให้ความเป็นธรรมกันบ้าง คันไหนที่ผิดก็จับไปเราไม่ว่า แต่อย่าทำให้คันอื่นที่ถูกต้องต้องพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย
คนขับซาเล้ง รายเดิมกล่าวต่อว่า ที่นี้พอเจ้าหน้าที่เขามาจับ เขาก็ไม่ให้ตนวิ่ง เขาบอกพี่อย่ามาวิ่งเลย เพราะสองแถวเขาไปร้องเรียน เขาไปแจ้งขนส่งเขาจะจับ พวกตนก็เลยต้องหยุดวิ่ง ทำให้สูญเสียรายได้ที่จะได้ในช่วงงานเทศกาลลอยกระทงในปีนี้ แล้วทีนี้พวกตนก็เดือดร้อน ไหนจะต้องเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียกันทุกคน รถก็ต้องผ่อน ต่างคนต่างทำมาหากิน แล้วที่นี้รายได้ก็ขาดไป แล้วสองแถวเนี่ยต้องคิดด้วยว่ายุคนี้ความเดือดร้อนมันเหมือนกันหมด เศรษฐกิจยุคนี้มันจะไปโทษว่ารถพ่วง(ซาเล้ง)แย่งคนแย่งลูกค้าเนี่ย การที่แย่งคนมันไม่ใช่เพราะเศรษฐกิจแบบนี้มันเหมือนกันหมด เพราะว่ามันนอกเวลาสัมปทานแบบที่สองแถวอ้าง เพราะว่า 6 โมงแล้ว สองแถวก็หมดคิวแล้ว
"ตอนที่เขาอยู่ในคิวผมก็ไม่ได้ไปแตะต้องเขา ผมบอกลูกน้องทุกคนแล้วว่า ถ้าว่ารถพ่วง(ซาเล้ง)คันไหนมันผิดก็จับมันไป แต่นี่มันนอกเวลา 6 โมงเย็น สองแถวอ้างว่ามีสัมปทานบัตร พวกผมก็ไม่ต้องวิ่งกันแล้ว ถ้าสองแถวห้ามแบบนี้ ไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว ผมก็เสียภาษีเหมือนกัน ผมก็ทำงานเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียผม ไม่ใช่ว่าสองแถวมาถึงห้ามอ้างว่ามี สัมปทานบัตร แล้วไปร้องต่อจังหวัดอย่างเดียวแบบนี้มันไม่ได้ ในส่วนผู้ประกอบการรถซาเล้ง ตอนนี้ก็ไม่ได้ไปรับผู้โดยสารเข้างานลอยกระทงอีกหลังจากที่เจ้าหน้าที่ลงจับในคืนแรก เพราะเกรงจะเดือดร้อนเพราะขนส่งและหน่วยงานเกี่ยวข้องจะมาจับ ก็เลยไม่กล้ารับส่งผู้โดยสารเข้างานกัน"คนขับซาเล้ง รายเดิมกล่าวในที่สุด
ข่าว/ภาพ โดย... นเวศน์ เสระหมาน ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดระนอง