เดือดร้อนทั้งตำบล ชาวบ้านร้อง โจรย่องขโมยลักตัดปาล์มน้ำมัน สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านหลายหมู่บ้านทั้งตำบล
เดือดร้อนทั้งตำบล ชาวบ้านร้อง โจรย่องขโมยลักตัดปาล์มน้ำมัน สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านหลายหมู่บ้านทั้งตำบล
จากกรณีราคาปาล์มน้ำมันดิบพุ่งสูงอย่างตอเนื่อง ชาวบ้านเริ่มลืมตาอ้าปากได้ รายได้หักลบต้นทุนแล้วยังพอมีเหลือเป็นผลกำไร ซึ่งปัจจุบันนี้ราคาปาล์มทะลายหน้าลานเท อยู่ที่กิโลกรัมละ6.70บาท ถือว่าราคาค่อนข้างสูง แต่ปัญหาที่ตามมาที่ชาวสวนปาล์มต้องเจอคือ มีขโมยมาขโมยตัดปาล์มไปขาย ในส่วนของชาวบ้าน ต.อุใดเจริญ อ.ควนกาหลง จ.สตูล
ชาวสวนปาล์มหลายรายต้องเจอกับปัญหาขโมยย่องมาตัด สร้างความเสียหายให้กับชาวบ้าน วันที่7 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อขาวได้รับรายงานว่า ชาวบ้านในหลายพื้นที่ในตำบล อุใดเจริญ อำเภอควนกาหลง จ.สตูล และยังลุกลามไปถึงต.แป-ระ อ.ท่าแพ จ.สตูล โดนขโมยมาตัดปาล์มในช่วงเจ้าของเผลอ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปสวนปาล์มน้ำมันยังหมู่ที่2 ต.อุใดเจริญ อ.ควนกาหลง จ.สตูล เพื่อสอบถามข้อมูลกับผู้เสียหาย นางสาว สิริวรรณ ธรรมขุนนุ้ย อยู่บ้านเลขที่163 หมู่ที่2 ต.อุใดเจริญ อ.ควนกาหลง จ.สตูลเจ้าของสวนปาล์มพาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อชี้ให้ดูถึงร่องรอยของที่โจรมาขโมยตัดทะลายปาล์มไป
นางสาว สิริวรรณเล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ2วันก่อน ตนเองได้เข้ามมาในสวนเพื่อดูแลเป็นปกติที่ต้องมา แต่ไม่ได้มาทุกวัน 4-5วันจึงจะมาสักครั้ง เมื่อมาถึงก็ตกใจมาก เมื่อเห็นร่องรอยของต้นปาล์มที่มีโจรมาขโมยตัดทะลายออกไป ทิ้งไว้พียงทางของต้น และร่องรอย ก่อนหน้านี้ก็มีมาขโมยหลายครั้งแล้ว เอาไปครั้งละเป็นสิบทะลาย ทะลายละประมาณ20กิโลกรัม คิดเป็นเงินอยู่ทีทะลายละประมาณ140บาท 10ทะลายต่อครั้งก็อยู่ที่1400บาทต่อครั้ง ทำให้ตนเดือดร้อนมาก นางสาว สิริวรรณ กล่าวต่อว่าตนเองมีสวนปาล์มอยู่6ไร่ จะเก็บเกี่ยวผลผลิต20วันครั้ง ครั้งละประมาณ1000กิโล ก็จะได้เงินจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตอยู่ที่ประมาณ6500บาทต่อ20วัน แต่ครั้งหลังนี้ ได้ไม่ถึงเพราะขดมยเข้ามเอาไป3 ครั้ง ทำให้รายได้ขาดหายไปประมาณ2000บาทเลยทีเดียว ล่าสุดได้แจ้งให้ทางผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่รับทราบเพื่อหาทางป้องกันต่อไป ส่วนตัวเองไม่มีสามี อยู่ตัวคนเดียวทำให้ลำบากต่อการดูแลและป้องกัน ด้านนางสาว ประกายดาว กลิ่นละออง อยู่บ้านเลขที่203 หมู่ที่2 ต.อุใดเจริญ อ.ควนกาหลง จ.สตูล ซึ่งมีสวนปาล์มน้ำมันอยู่5ไร่ ในเขตพื้นที่หมู่ที่5 ต.แประ อ.ท่าแพ จ.สตูล ซึ่งเป็นรอยต่อติดกับหมู่ที่2ต.ควนกาหลง เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า สวนของตนเองก็โดนไปเหมือนกันประมาณเมื่อ3วันก่อน โดยมีขโมยเข้ามาตัดไปหลายทะลายเช่นกัน ล่าสุดตอนพาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ก็เพิ่งเจอว่ามีร่องรอยมาขโมยตัดเพิ่มไปอีก1ทะลาย ไม่น่าจะเกิน1วันที่ผ่านมา นางสาว ประกายดาวเล่าต่อว่า ตนเองโดนขโมยมาแล้ว4-5ครั้งก็สร้างความเสียหายไม่น้อยเหมือนกัน และช่วงหลังมานี้ จากที่การเก็บเกี่ยวผลผลิต20วันครั้ง กลับต้องกลายเป็นไม่เกิน10วันต้องเข้ามาเก็บเกี่ยวต่อครั้ง ปัญหาก็คือบางครั้งผลปาล์มยังไม่สุขดีก็ต้องโดนทางลานเทตัดราคาอีก แต่ก็ต้องยอมเพราะถ้าหากรอให้ถึง20วันก็โดนขโมยไปหมดแน่ ถ้าเป็นอย่างนี้อยู่ตลอดคงไม่ไหว ถึงแม้ราคาปาล์มในช่วงนี้จะสูงแต่สุดท้ายรายได้ก็เหมือนเดิมเพราะมีขโมยมาแบ่งตัดไปขายเสียแล้ว นางประกายดาวยังเล่าต่ออีกว่า ไม่ใช้แต่ปาล์มน้ำมัน ยางพาราก็มีขโมยมาขโมยกรีดและเก็บน้ำยางด้วย ตนเองก็โดนหลายครั้ง น้าสาวของตัวเองก็โดนด้วย ด้านนาวสาว สุพรรษา คงเกตุ ผู้เสียหายอีกรายเล่ากับผู้สื่อข่าวว่า สวนปาล์มของตัวเองอยู่ในเขตพื้นที่หมู่ที่5 ต.อุใดเจริญ อ.ควานกาหลง จ.สตูล เมื่อสองวันก่อนก็โดนขโมยเหมือนกันโดยขโมยมาแอบตัดทะลายปาล์มไปประมาณ10ทะลาย คิดเป็นเงินก็ประมาณ1500บาท และก็โดนบ่อยมากมาหลายครั้งแล้วเหมือนกัน สอบถามเจ้าของสวนในบริเวณหมู่บ้านไกล้ๆ ชาวสวนปาล์มหลายรายก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าโดนเหมือนกันหลายราย และจากที่สังเกตว่า จากสวนของนางสาวสิริวรรณ และสวนของนางสาวสุพรรณษา อยู่ห่างกันหลายกิโลเมตร คาดว่าคนร้ายน่าจะไม่ใช่คนเดียวกันแน่นอน ด้านลานเท จุดรับซื้อปาล์มในหลายๆที่ ตอนนี้ก็ประกาศไม่รับซื้อปาล์มจากลูกค้าจร หรือลูกค้าที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นนำทะลายปาล์มมาขายครั้งละไม่กี่ทะลายเหมือนกัน เพื่อเป็นกันช่วยเหลือและป้องกัน หากไม่มีที่ขายขโมยก็ไม่รู้จะขายที่ไหน น่าจะช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นกับชาวสวนปาล์มได้ในระดับหนึ่งเช่นกัน
ภาพ// ปิยะชาติ ศรีภักดี
ข่าว//เอนก ขันทสิกรรม ผสข.จ.สตูลรายงาน