ของดีหายาก "ข้าวตอกพระร่วง-ข้าวก้นบาตรพระร่วง" หินศักดิ์สิทธิ์แห่งกรุงสุโขทัย
หายาก "ข้าวตอกพระร่วง" และ "ข้าวก้นบาตรพระร่วง" หินศักดิ์สิทธิ์แห่งกรุงสุโขทัย ชาวบ้านเชื่อเป็นหินมงคลมีไว้บูชาจะเจริญ ค้าขายดี มีโชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันคุณไสย
วันที่ 17 ก.พ. 2564 นายเหล็ง จันทร์ฉาย อายุ 75 ปี เจ้าของบ้านข้าวตอกพระร่วง เลขที่ 382/1 หมู่ 2 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย ได้เล่าความเป็นมาของข้าวตอกพระร่วง และข้าวก้นบาตรพระร่วง ซึ่งเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ของชาวสุโขทัย ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า
"ข้าวตอกพระร่วง" และ "ข้าวก้นบาตรพระร่วง" ตามตำนานนั้นเกิดจาก "พระร่วง" ผู้มีวาจาสิทธิ์ ครั้งออกผนวชที่วัดเขาพระบาทใหญ่ ในวันตักบาตรเทโวโรหณะ เมื่อได้ฉันภัตตาหารเสร็จแล้ว ข้าวที่เหลือก้นบาตรท่านได้โปรยลงที่ลานวัด และอธิษฐานว่าให้ข้าวตอกดอกไม้นี้กลายเป็นหินชนิดหนึ่ง มีอายุยั่งยืนชั่วลูกชั่วหลาน
สำหรับข้าวตอกพระร่วง (เพชรหน้าทั่ง หรือ แร่เหล็กไพไรต์) จะมีลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมคล้ายลูกเต๋า โดยธรรมชาติ ฝังตัวอยู่ในหินก้อนใหญ่ ส่วนข้าวพระร่วง หรือข้าวก้นบาตรพระร่วง นั้นจะมีลักษณะคล้ายเมล็ดข้าวสารจำนวนมาก ฝังตัวอยู่ในหินก้อนใหญ่เช่นกัน แต่เมื่อนำมาผ่าเจียระไนเสร็จแล้วก็จะดูคล้ายเมล็ดข้าวสุกที่ฝังตัวอยู่ในหินสีดำ
โดยหินทั้ง 2 ชนิดนี้ พบมีจำนวนมากบนเขาพระบาทใหญ่ (จุดเกิดตำนาน) ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย ซึ่งในอดีตเมื่อหลายสิบปีก่อน เคยมีชาวบ้านขึ้นไปขุดหากันจำนวนมาก กระทั่งเกิดเรื่องเศร้ามีชาวบ้านชายรายหนึ่งถูกดินถล่มทับเสียชีวิตคาอุโมงค์เพราะขุดลึกเกินไป เพื่อหาข้าวตอกพระร่วงก้อนใหญ่หวังขายได้ราคาดี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสั่งห้ามการขุดค้นหาข้าวตอกพระร่วงบนเขาแห่งนี้เพื่อความปลอดภัย
ขณะที่เรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ของ ข้าวตอกพระร่วง และ ข้าวก้นบาตรพระร่วง ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นหินมงคล ใครมีไว้บูชาจะเจริญ ค้าขายขึ้น รวมทั้งเกิดโชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย และป้องกันคุณไสยอีกด้วย
ลุงเหล็ง บอกอีกว่า ปัจจุบันที่บ้านข้าวตอกพระร่วง ได้มีการนำหินข้าวตอกพระร่วง และข้าวก้นบาตรพระร่วง ที่ขอแบ่งซื้อจากคนเฒ่าคนแก่มาเจียระไนเป็นเครื่องประดับ เช่น ทำหัวแหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ ส่วนเศษผงจากการเจียระไนก็เอาไปบดละเอียดนำมากดเป็นพิมพ์พระต่างๆ ทำมานานกว่า 20 ปีแล้ว จนได้รับการคัดสรรให้เป็นผลิตภัณฑ์โอทอป 4 ดาว
โดย ภูเบศวร์ ฝ้ายเทศ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุโขทัย