บังฮาซันรวยเพราะหมากัด "จุดเปลี่ยนชีวิต" สร้างบ้าน 60 กว่าล้าน | คมชัดลึก

บังฮาซัน อายุ 32 ปี เปิดใจคมชัดลึก จากเด็กเกาะ ลองผิดลองถูก ผันตัวเป็น "พ่อค้าออนไลน์" เล่าว่าตัวเองเกิดที่เกาะตันหยง (เกาะตันหยงละไน้) อ.ละงู จ.สตูล ห่างไกลความเจริญไม่มีไฟฟ้าใช้ จึงทำให้รู้ถึงความลำบาก จากวันนั้นได้ย้ายถิ่นฐาน มาอยู่ที่ปากบารา จนกระทั่งเรียน มหาวิทยาลัย ด้วยความยากจน จึงทำให้เรียนไม่จบ  จึงตัดสินใจหางานทำ ด้วยเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรม และได้ฝึกฝนการพูด จนได้เป็นวิทยากร ชีวิตเริ่มเปลี่ยน

 

เมื่อทีวีดาวเทียมเปิด จึงเข้าไปสมัครงาน โดยไม่มีวุฒิการศึกษา ไม่จบปริญญาตรี ระหว่างที่เรียนได้รับรางวัลพระราชทาน เลยใช้ใบประกาศจากรางวัลพระราชทาน ไปสมัครงาน เจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่มีวุฒิปริญญาตรี ไม่สามารถสมัครได้ แต่ด้วยการมีประสบการณ์ด้านการพูด ถึงได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ว่าอยากทำงาน เพราะที่บ้านมีรายได้น้อย อยากหาประสบการณ์การทำงาน เมื่อเห็นใบพระราชทาน รับรางวัลนักเรียนดีเด่น บริษัทจึงตัดสินใจรับ โดยฝึกงานกับเด็กกำพร้า ทำให้ผู้บริหารเห็นแวว ตัดสินใจรับเข้าทำงาน

 

 

เริ่มออกรายการทีวีช่วง 01.00 น. ในการขายยาสมุนไพรของช่องรายการทีวี ผ่านไปไม่กี่ปี ได้แต่งงานมีครอบครัว และย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ และได้เรียนรู้อะไรที่ทันสมัย จากเด็กบ้านๆ ในครอบครัวเป็นชาวประมง จึงตัดสินใจกลับบ้าน ไปอยู่กับพ่อ 5 ปี

 

ในระหว่างนั้นช่วงออนไลน์กำลังมาแรง จึงตัดสินใจซื้อโทรศัพท์มือถือ ที่ถ่ายรูปได้ และศึกษาเรียนรู้ในการขายของทางออนไลน์ ระหว่างที่ทำงานในกรุงเทพฯ เห็นเพื่อนไลฟ์สด มีวัยรุ่นขายของเกิดความสงสัยว่า ทำไมเขาถึงทำแบบนี้ได้ จึงลองผิดลองถูก แต่ก็ล้มเหลว ด้วยความที่ไม่มีทุน เงินเดือนหมื่นกว่าบาท ต้องจ่ายค่าบ้าน เหลือ เดือนละ 4,000 บาท บางเดือนก็ไม่พอใช้

 

จุดเปลี่ยนรอบที่ 2 เมื่อสองสามีภรรยาเข้ามาหา เพื่อให้อัดคลิปขายของ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ได้เงิน 1,000 บาท ซึ่งไม่เคยรับเงินแบบนี้ โดยบอกว่าจะนำคลิปนี้ไปลงขายใน Facebook ต่อมา 2 สามีภรรยาทะเลาะกัน ฝ่ายหญิงเลยโทรมาหา ว่าปีที่แล้วได้ 8 ล้าน ยิ่งทำให้เกิดความสงสัย ว่าออนไลน์สามารถทำเงินได้ขนาดนี้ เลยลองมาโพสต์ขายเอง ในกลุ่มเพจเริ่มมีคนซื้อของ แต่ด้วยไม่มีทุน และกลัวว่าของจะไม่มีส่งให้ลูกค้า จึงยุติการขายทางออนไลน์ เกิดความท้อแท้สิ้นหวัง

 

 

ผ่านไป 1 ปี มีแรงฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะขายอะไร ตัวเองมีนาฬิกาอยู่ 1 เรือน จึงลอง ไลฟ์สด ขาย ตกใจเมื่อมีคนซื้อ เลยต้องสั่งของเข้ามา ต่อมาลูกค้ายกเลิก ด้วยเงินที่ไม่มีเหลือเงินเพียง 300 บาท จึงเกิดความท้อ แต่ก็ยังที่จะสู้ต่อไป เลยโพสต์ถ้าใคร กดไลค์ กดแชร์ จะมีการแจ้งนาฬิกา ทำให้มีคนติดตามจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้แจกเลยเอานาฬิกาไปคุยกับเพื่อน เพื่อนเห็นเลยขอซื้อ ได้กำไร เพราะคิดว่าถ้าเราขายด้วยตัวเอง มีคนซื้อตัดสินใจไลฟ์สด แต่รอบนี้ไม่มีคนดู ลองผิดลองถูกมาโดยตลอด แต่ก็ยังคงทำงานประจำ เพราะไม่รู้จะขายอะไรดี เมื่อเกิดทางตัน สุดท้ายกลับไปที่บ้าน ขอยืมเงินพ่อ 5,000 บาท จะเอามาขายปลากะตัก พ่อกลัวขายไม่ได้ และไม่รู้จะเก็บเงินยังไง เลยไม่ได้ให้เงิน เพราะไม่มีใครเชื่อว่าจะขายได้ และจะเก็บเงินยังไง

ช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นช่วงถือศีลอด ทำให้ตัวเองต้องทำงาน 2 กะ และมีเงินเพิ่ม เพราะได้โบนัส 2 เดือน ได้เงิน 30,000 บาท เมื่อมีเงิน จากที่นั่งรถทัวร์ ตัดสินใจนั่งเครื่องบิน แบ่งเงินให้ญาติพี่น้อง จนในที่สุด เหลือเงินเพียง 700 บาท ทำให้เครียดหนัก เพื่อนจึงโทรสั่งซื้อ ปลากะตัก เงิน 700 สุดท้าย จึง ไปซื้อปลากะตักให้ แต่ไม่มีขาย โทรหาเพื่อน แต่ก็ไม่รับ แต่เห็นปลาหมึกกะตอยตัวเล็ก แต่เพื่อนก็ไม่เอา เลยโพสต์ที่หน้าเฟซว่าเป็นปลาหมึกดำฤดูกาล มีคนสนใจ ตัดสินใจไลฟ์สด คิดว่าน่าจะมีคนซื้อ ได้ผลเกินคาด เมื่อมีลูกค้าสั่งจองจำนวนมาก แต่ปลาหมึกมีไม่พอ ไปโทรหาเพื่อนที่ทำปลาหมึก ถูกปฏิเสธ เพราะส่งให้แม่ค้าไปแล้ว มี 5 กิโลกรัม แต่คนสั่ง 20 กิโลกรัม ทำให้คิดหนัก เลยโทรไปหาเพื่อนอีกคน ขณะที่ไลฟ์สด บอกว่าจะเอาเงินสดไปให้ ด้วยการที่เคยเป็นชาวประมงมาก่อน เลยรู้ว่าเงิน ที่กว่าจะได้ 5 วัน 15 วัน เป็นระบบ ที่เถ้าแก่ ทำกับชาวประมง แต่เมื่อเขาได้เงินทันทีเขาเลยเปลี่ยนใจ

 

 

จากนั้น เลยวิ่งหาวัตถุดิบ เองจนกระทั่ง ไปเจอป้าเขียว ซึ่งมีโรงตาก เลยบอกว่า เดี๋ยวจะมาไลฟ์สดให้ ได้เงินเลย แต่ด้วยความเป็นชาวบ้าน งงว่า จะได้เงินยังไง เถียงกันอยู่พักนึง ป้าบอกว่า ป้าขายปลาเค็ม เพราะไม่เข้าใจ คำว่าไลฟ์สด เลยทำให้ดู เมื่อคนดูเห็น จึงมีลูกค้าสั่งเข้ามา และโอนเงินเข้ามาในบัญชี จากนั้น ให้เงินกับป้าเขียว ป้าดีใจมาก ที่ได้เงินสด จากนั้นป้า จึงเริ่มเข้าใจ ไม่กี่วัน บริษัทที่ทำงานอยู่ ได้เรียกกลับไปทำงาน แต่ก็มองเห็นช่องทางในการค้าขาย ทางออนไลน์ ว่าไปต่อได้  แต่ด้วยงานประจำ ทำให้กลับเข้ากรุงเทพฯ ไม่กี่วัน เลยตัดสินใจกลับบ้านอีกครั้งหนึ่ง

 

 

แต่ก็ต้องตกใจ เมื่อมาถึงที่บ้าน ชาวบ้านมารอรับ พร้อมกับอาหารทะเล นับ 10 อย่าง เพื่อที่จะให้ไลฟ์สดขาย แต่ก็ต้องคิดหนัก เพราะทุกคน ตั้งความหวังไว้  ด้วยความสามารถแล้ว สินค้าทุกอย่างขายหมด ด้วยสไตล์การพูด และลีลาท่าทาง ชาวบ้านก็ได้ขายสินค้า และได้เงินสด จากนั้น ทางบริษัทเรียกกลับไปทำงานอีกครั้ง วันรุ่งขึ้นถูก สุนัขแถวบ้านกัด หมอที่โรงพยาบาล จึงเขียนใบรับรองว่า ต้องฉีดยาอีก 10 วัน เลยโทรลางานอีกครั้ง ใน 10 วันนั้น เป็นวันที่ไลฟ์สดขายอาหารทะเลอย่างจริงจัง  จนทางบริษัทรู้ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ทุกวันนี้ ยังไม่ได้ลาออก แต่ก็ยังขายของอยู่

 

 

บังฮาซัน เปิดเผยกับ คมชัดลึก อีกว่า จากเงิน 700 บาท เลยตั้งเป้าหมาย ว่าจะต้องมีเงิน 200,000 บาท ภายใน 1 เดือน ไม่ถึง 1 เดือน ก็ได้เงิน 1,000,000 ล้านบาททำให้เกิดแนวคิดว่า ตัวเองต้องตั้งเป้าหมาย หลักปีที่ 2 ยอดขายต่อเดือน 26 ล้าน และยอดขาย เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทุกวันนี้ สร้างบ้าน 8 หลัง ด้วยเงินสด มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท โดยบังฮาซัน บอกว่ามีลูกน้องดี ช่วยกันทำงาน ทุกคนที่ทำงานจะดูแลเป็นอย่างดี บางคนแต่งงาน ก็จะออกค่าสินสอด ซื้อรถบ้านให้ เพราะคิดว่า การที่มีทุกวันนี้ เพราะพนักงานทุกคน การประสบผลสำเร็จ ทุกคนต่างกัน แต่ทุกคนต้องตั้งเป้าหมาย