ข่าว

เช็ค 5 จังหวัดภาคใต้ เตรียมรับมือ "น้ำหลาก น้ำท่วม น้ำล้นตลิ่ง" 13 – 16 พ.ย.นี้

เช็ค 5 จังหวัดภาคใต้ เตรียมรับมือ "น้ำหลาก น้ำท่วม น้ำล้นตลิ่ง" 13 – 16 พ.ย.นี้

12 พ.ย. 2565

กอภ.ก. แจ้งเตือน 5 จังหวัดพื้นที่ภาคใต้ เตรียมรับมือ "น้ำหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง" ในระหว่างวันที่ 13 - 16 พ.ย. นี้

12 พ.ย.2565 กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสถานการณ์ปริมาณฝนตกสะสม ต่อเนื่อง ประกอบ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้มีประกาศฉบับที่ 53/2565 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 แจ้งว่า ในช่วงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ตอนล่าง มีปริมาณฝนสะสมมากกว่า 200 มิลลิเมตร และได้ประเมินวิเคราะห์

 

 

 

 

 

 

 

 

5 จังหวัดภาคใต้ เตรียมรับมือ "น้ำหลาก น้ำท่วม น้ำล้นตลิ่ง" 13 – 16 พ.ย.นี้

 

 

สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาและ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 13 - 16 พฤศจิกายน 2565 ดังนี้

 

1.พื้นที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง 

- พัทลุง (อำเภอเมืองฯ บางแก้ว เขาชัยสน ปากพะยูน ป่าบอน ควนขนุน) 

- สงขลา (อำเภอเมืองฯ สิงหนคร ระโนด กระแสสินธุ์ จะนะ ควนเนียง สทิงพระ) 

- ปัตตานี (อำเภอยะหริ่ง) 

- ยะลา (อำเภอธารโต กาบัง ยะหา บันนังสตา เบตง)
  

 

2.พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง

บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ของแม่น้ำโก-ลก แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำปัตตานี ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี 

 

3. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่

ที่มีแนวโน้มปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) รวมทั้งอ่างฯ ขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำ โดยเฉพาะเขื่อนบางลาง ให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบน้อยที่สุดบริเวณท้ายเขื่อน
 

 

 

5 จังหวัดภาคใต้ เตรียมรับมือ "น้ำหลาก น้ำท่วม น้ำล้นตลิ่ง" 13 – 16 พ.ย.นี้

 

 

กอปภ.ก. จึงได้ประสานแจ้ง 5 จังหวัดภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามปริมาณฝนตกในแต่ละจุดอย่างใกล้ชิด และเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงที่มีฝนตกหนักและปริมาณฝนตกสะสม พร้อมตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันกั้นน้ำบริเวณริมแม่น้ำ รวมถึงปรับแผนการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ พร่องน้ำและบริหารจัดพื้นที่ลุ่มต่ำให้เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำ

 

อีกทั้งจัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) และเครื่องมือเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงภัยให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนทันที ตลอดจนประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างต่อเนื่อง  

 

โดยประชาชนสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และสามารถแจ้งเหตุ  และขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป