หดหู่ หลานทรพี "เมาเหล้าหลอนคว้าไม้ตียาย" วัย 83 ก่อนทืบซ้ำตายคาที่
หดหู่ หลานทรพี "เมาเหล้าหลอน ใช้ไม้ตียาย" วัย 83 ปี ล้มแล้วยังใช้เท้ากระทืบซ้ำจน เสียชีวิตคาที่ อ้างเห็นยายถือไม้ จะเข้ามาทำร้ายตัวเอง
2 ธ.ค. 2565 พ.ต.ท.อภินันท์ รักศิลป์ รองผกก.(สอบสวน) สภ.น้ำพอง รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกาย มีผู้เสียชีวิต ที่บ้านหลังหนึ่ง ใน ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งจึง ประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยและแพทย์เวรโรงพยาบาลน้ำพอง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง
บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต ชื่อ นางลอย อายุ 83 ปี มีบาดแผลและรอยช้ำตามแขนขา สวมเสื้อคอกระเช้ามีเสื้อคลุมทับ นุ่งผ้าซิ่น เลือดออกปาก หน้าอกยุบผิดรูป พร้อมทั้งพบผู้ก่อเหตุเป็นหลานชายแท้ ๆ ของผู้เสียชีวิต ชื่อ อรรถพล อายุ 28 ปี อยู่บ้านเดียวกันกับผู้เสียชีวิต
ใกล้กันพบไม้คานหักสองท่อน และท่อนเหล็กหักงอจากการที่นายอรรถพลใช้ตียาย จนท.จึงเก็บเป็นหลักฐานส่งตรวจหา DNA จากคราบเลือดที่ติดอยู่ไม้คานและท่อนเหล็กมาประกอบสำนวน เนื่องจากเจ้าตัวยังให้การวกวนและปฏิเสธ ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก
พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง เปิดเผย ภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า ผู้เสียชีวิตกับผู้ก่อเหตุ เป็นยายหลานกัน อาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังเกิดเหตุรวม 3 คน โดยมีตาของผู้ก่อเหตุอีกคน ก่อนเกิดเหตุนายอรรถพล ซึ่งอยู่ในอาการเมาสุรามาขอเงินยาย ซึ่งปกตินายอรรถพล นั้นมักจะมาขอทุกวันเพื่อนำไปซื้อสุรามานั่งดื่ม
นายอรรถพลซึ่งอยู่ในอาการเมาสุรา อ้างว่ายายถือไม้ในมือจะมาตีตัวเอง จึงไปหยิบเอาไม้คานที่อยู่ใกล้ ๆ กระหน่ำตียายจนล้มลง จากนั้นได้ลากร่างของยายมาใช้เท้ากระทืบซ้ำที่หน้าอกหลายครั้งจนหน้าอกของยายหักยุบลงไปผิดรูป
ส่วนตาซึ่งอายุมากเช่นกัน ดวงตามองไม่ค่อยชัด หูไม่ค่อยดี แต่ได้ยินเสียงยายร้องขอชีวิตจากหลานทรพี ชายว่าอย่าฆ่ายาย อย่าฆ่ายาย และยังเรียกตาให้ช่วย บอกว่า พ่อใหญ่มาช่วยฉันหน่อย ซึ่งตาต้องรีบคว้าไม้เท้าแล้วลงมาจากบ้านพักซึ่งห่างไปจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 - 6 เมตร แต่ยายถูกทำร้ายจนเสียชีวิตไปแล้ว ก่อนที่ตำรวจจะได้รับแจ้งและลงพื้นที่ตรวจสอบก่อนจะควบคุมตัวนายอรรถพล หลานชายที่ก่อเหตุฆ่ายายมาสอบปากคำที่โรงพัก ก่อนจะยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่ายายจริง
จากการตรวจสอบเบื้องต้น สาเหตุหลักมาจากการเมาสุราชัดเจน แต่ยาเสพติดตรวจปัสสาวะแล้วไม่พบ จึงได้นำตัวส่งตรวจหาสารเสพติดอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เนื่องจากนายอรรถพล เคยถูกจับในคดีเสพยาเสพติดเมื่อปี 2562 เมื่อพ้นโทษออกมาก็มาอยู่บ้านกับตายาย ซึ่งทางตำรวจและทางผู้ใหญ่บ้านได้สุ่มเข้าตรวจฉี่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 จนปัจจุบันประมาณ 2 ปีไม่พบว่า นายอรรถพลหวนกลับไปยุ่งกับยาเสพติด แต่จะมีพฤติกรรมคลั่ง โวยวาย หลังจากดื่มสุราทุกครั้ง หลังสอบปากคำเสร็จก็ได้แจ้งข้อหา ฆ่าบุพการี เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
พรพรรณ เพ็ชรแสน ศูนย์อีสาน