ตร.ชี้ "แก๊งโจรปล้นทอง" เลือกร้านที่มีความยาก หวังท้าทายตัวเอง
ตำรวจชี้ "แก๊งโจรปล้นทอง" เลือกร้านทองที่มีกรงเหล็กกั้นอยู่ แทนร้านที่ง่ายกว่า เป็นการท้าทายว่า จะก่อเหตุสำเร็จหรือไม่ มุ่งทรัพย์สินไม่ได้มุ่งเอาชีวิตคน
จากเหตุระทึก 4 โจรควงปืน ก่อเหตุอุกอาจ บุกปล้นร้านทองในเขตเทศบาลเมืองตาก แต่เจอเจ้าของร้านทอง ใช้อาวุธปืนยิงสวนไปทำเอา โจรวิ่งหนีออกจากร้านแทบไม่ทัน ซึ่ง 1 ในคนร้ายถูกกระสุนยิงเข้าจนล้มลง นอนหายใจรวยริน ส่วนพรรคพวกที่มาด้วย ทั้งวิ่งหนีทั้งขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตามตะครุบตัวมาได้อีก 1 ยังหลบหนีไปได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่
ล่าสุด พล.ต.ต.ปกปภพ พิทักษ์บดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ยืนยันแล้วว่า คนร้ายที่เข้าก่อเหตุปล้นร้านทองเยาวราช และถูกจับกุมตัวได้ สารภาพว่า เคยก่อเหตุปล้นร้านทองในอำเภอพบพระ จังหวัดตาก มาแล้ว
ย้อนไปเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2565 เวลาประมาณ 13.00 น. ตำรวจสภ.พบพระ จ.ตาก รับแจ้ง คนร้าย 3 คน พร้อมอาวุธปืน บุกปล้นร้านทอง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.พบพระ โดยการก่อเหตุครั้งนั้นคนร้าย ซึ่งมาด้วยกัน 3 คน ใช้รถกระบะ ทะเบียนจังหวัดกำแพงเพชร ขับมาจอดที่หน้าร้านทอง แล้วเดินลงจากรถมาอย่างใจเย็น ก่อนที่ 1 ในคนร้าย ใช้ค้อนทุบกระจกร้าน โดยที่คนร้ายอีกคนใช้ปืนยิงไปที่ประตูกระจกของร้านแตกเสียหายและเข้าไปก่อเหตุได้ทองรูปพรรณไปหนักกว่า 100 บาท
เหตุการณ์ปล้นในครั้งนั้น มีลูกค้าเป็นผู้ชาย ถูกลูกหลงจากกระสุนปืนของคนร้าย เสียชีวิต 1 ราย โดยหลังก่อเหตุ คนร้ายขับรถยนต์กระบะ หลบหนีไปทางบ้านผากะเจ้อ ใกล้ชายแดนไทย - เมียนมา
ผ่านไป เกือบ 11 เดือน คนร้ายย่ามใจ ย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก แต่ครั้งนี้พลาดท่าถูกเจ้าของร้านทองยิงต่อสู้ป้องกันตัว บาดเจ็บ และ ยังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ โดยคนร้ายที่ถูกจับได้ 2 คือ นายเด้อ แซ่ท้าว และ นายวิชัย แซ่ว่าง อายุ 31 ปี ที่ถูกยิง อาการสาหัสปางตาย และจากการสอบสวนทำให้ ทราบว่า คนร้ายทั้ง 2 คน มีหมายจับคดี ปล้นที่ร้านทอง ใน ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ส่วนคนร้ายอีก 2 คน ที่หลบหนีไปได้ เป็นชายชาวม้ง 1 คน และชาวเมียนมา 1 คน
ผบก.จ.ตาก ระบุว่า คนร้ายเลือกเอาร้านทอง ที่มีความยากลำบากในการเข้าไปก่อเหตุ ปล้นเช่นมีลูกกรงเหล็กกั้นอยู่ และไม่เลือกปล้นร้านจำหน่ายทองรูปพรรณที่ง่ายกว่านี้ โดยไม่มีเหล็กกั้นนั้น เชื่อว่า มันเป็นการท้าทาย หรือทดสอบการทำงานว่าจะสำเร็จหรือไม่ หากสำเร็จก็ขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งของการทำงาน แต่การปฏิบัติการของคนร้ายไม่ได้มุ่งเอาชีวิตคน เพียงแต่ต้องการทองคำรูปพรรณเท่านั้น
