ข่าว

วินาทีประวัติศาสตร์ "เรือหลวงสุโขทัย" จมลงสู่ใต้ท้องทะเล (คลิป)

วินาทีประวัติศาสตร์ "เรือหลวงสุโขทัย" จมลงสู่ใต้ท้องทะเล (คลิป)

19 ธ.ค. 2565

ภาพวินาทีประวัติศาสตร์ ที่ต้องจารึก "เรือหลวงสุโขทัย" ถูกคลื่นโหม ก่อน อับปาง จมลงสู่ใต้ท้องทะเลอ่าวไทย ไร้ชะตากรรมลูกเรืออีก 31 ชีวิต

(19 ธันวาคม 2566) พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยความคืบหน้า กรณี "เรือหลวงสุโขทัย" ประสบเหตุน้ำเข้าเรือจนเกิดการเอียง เนื่องจากคลื่นลมแรง ขณะทำการลาดตระเวน อยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่เนื่องจากขณะนั้น บริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรง ทำให้เรือเอียง

 

จนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้า ผ่านท่อไอเสียข้างเรือ ส่งผลให้เครื่องไฟฟ้าดับ ส่งผลต่อเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน ซึ่งผลจากเครื่องจักรใหญ่ และเครื่องจักรช่วยหยุดทำงานดังกล่าว เป็นเหตุให้ไม่สามารถควบคุมเรือได้ และส่งผลให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็ว จนทำให้เรือเอียง
    
 

ในเวลาต่อมา กองทัพเรือ ได้สั่งการให้เรือรบและอากาศยานของกองทัพเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงกระบุรี เฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ลำ พร้อมชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน นอกจากนี้ ได้ประสานหน่วยภายนอกเข้าร่วมให้การช่วยเหลือ โดย เรือหลวงกระบุรี ได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ เมื่อเวลา 20.40 น. และพยายามเข้าเทียบเรือหลวงสุโขทัย เพื่อส่งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ และช่วยเหลือกำลังพลจำนวน 106 นาย แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากคลื่นลมยังคงรุนแรง 

 

วินาทีเรือหลวงสุโขทัยจม

เรือหลวงสุโขทัย มีอาการเอียงมากขึ้น และได้จมลงเมื่อเวลา 00.12 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่มีเรือลากจูงเอกชน จากท่าเรือบางสะพานจำนวน 2 ลำ และเรือน้ำมัน "STRAITS ENERGY"ได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ เพื่อให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือ ซึ่งเรือหลวงกระบุรี  เรือน้ำมัน "STRAITS ENERGY"และเรือลากจูงทั้ง 2 ลำ ได้ดำเนินการช่วยเหลือกำลังพล 

วินาทีเรือหลวงสุโขทัยจม

ต่อมาเวลา 01.04 น. เฮลิปคอปเตอร์แบบ Seahawks จำนวน 2 ลำ ได้เดินทางมาถึง พร้อมทั้งทำการปล่อยแพช่วยเหลือลงทะเล จำนวน 8 แพ ทั้งนี้ เรือต่าง ๆ สามารถให้การช่วยเหลือกำลังพลขึ้นมาจากน้ำ ได้แล้ว 73 นาย โดยอยู่บนเรือหลวงกระบุรี จำนวน 47 นาย เรือลากจูง จำนวน 4 นาย เรือน้ำมัน "ศรีไชยา" จำนวน 20 นาย และเรือน้ำมัน "STRAITS ENERGY" จำนวน 2 นาย ยังคงมีกำลังพลจำนวน 33 นายที่ลอยคออยู่ในทะเล ซึ่งล่าสุด ช่วยเหลือได้อีก 2 นาย

ช่วยเหลือลูกเรือ เรือหลวงสุโขทัย

ทั้งนี้ เรือหลวงกระบุรี เรือลากจูง และเรือน้ำมัน "ศรีไชยา" ได้นำกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 71 นาย เดินทางไปยังท่าเรือบางสะพานเรียบร้อยแล้ว โดยมีกำลังพลจำนวน 11 นาย รักษา ณ โรงพยาบาลบางสะพาน ส่วนกำลังพล จำนวน 40 นาย เดินทางไปยังศูนย์พักพิง สำหรับกำลังพลที่ขึ้นมาจากเรือน้ำมัน "ศรีไชยา" จำนวน 20 นาย ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลบางสะพาน เพื่อตรวจร่างกายและคัดแยกต่อไป 

 

ช่วยเหลือลูกเรือ เรือหลวงสุโขทัย

เวลา 07.00 น. เรือหลวงกระบุรี ได้ออกเรือเดินทางจากท่าเรือบางสะพานไปยังพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อสนับสนุนการค้นหาและช่วยเหลือ ร่วมกับเรือหลวงอ่างทอง รวมถึงอากาศยานแบบ Dornier และเฮลิปคอปเตอร์แบบ Seahawks ที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหา กำลังพลทั้งหมด และเตรียมการในการกู้เรือหลวงสุโขทัยต่อไป
    

กองทัพเรือ โดย กองเรือยุทธการ ได้ตั้ง ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย  ขึ้นมาทำหน้าที่ในการประสานการปฏิบัติ  เพื่อเร่งดำเนินการในการให้ความช่วยเหลือกำลังพล และกู้เรือหลวงสุโขทัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลเป็นสำคัญ

 

ทั้งนี้ ญาติพี่น้องของกำลังพลประจำเรือ สามารถติดสอบถามได้ที่ ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยหมายเลขโทรศัพท์ 038 182 435 และ 084 002 3554 

เรือหลวงสุโขทัย

จากข้อมูลของกองทัพเรือ เรือหลวงสุโขทัยลำนี้ เป็นเรือลำที่ 2 หลังจากที่เรือลำแรกได้ปลดระวางไปแล้ว เนื่องจากมีการใช้งานมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยเรือหลวงลำนี้ เป็นเรือหมายเลข 442 วางกระดูกงู เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2527 ขึ้นระวางประจำการ 19 ก.พ. 2530 สร้างโดย Tacoma Boat Building Co, สหรัฐอเมริกา มีความยาวตลอดลำ 76.8 เมตร ความกว้าง 9.6 เมตร กินน้ำลึก 4.5 เมตร ความเร็วมัธยัสถ์ 18 นอต ความเร็วสูงสุด 24 นอต ระวางขับน้ำปกติ 840 ตัน ระวางขับน้ำสูงสุด 960 ตัน ระยะปฏิบัติการไกลสุด 3,568 ไมล์ กำลังพลประจำเรือ 87 นาย

 

ระบบตรวจการณ์

  • เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ Decca 1226
  • เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ/อากาศ ZW-06
  • เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ/อากาศ DA-05
  • โซนาร์ติดใต้ตัวเรือ STN Atlas DSQS-21C
  • เรดาร์ควบคุมการยิง WM-25
  • LIROD-8 optical

 

ระบบอาวุธ

  • ปืน 76/62 มม. จำนวน 1 กระบอก
  • ปืน 40L70 มม. แท่นคู่ 1 กระบอก
  • ปืน 20 มม. 2 กระบอก
  • ระบบอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น-สู่-พื้น แบบ ฮาร์พูน 2 แท่น (8 ท่อยิง)
  • ระบบอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น-สู่-อากาศ แบบ อัลบราทรอส 1 แท่น (8 ท่อยิง)
  • ท่อตอร์ปิโด 2 แท่น (6 ท่อยิง)
  • ระบบขับเคลื่อนและเครื่องจักรช่วย
  • เครื่องจักรใหญ่ดีเซล MTU 20V1163 TB83 2 เครื่อง
  • เพลาใบจักร 2 เพลา

 

ทั้งนี้ เรือในชุดเดียวกัน ประกอบด้วย เรือหลวงรัตนโกสินทร์ (ลำที่ 2) เรือหลวงสุโขทัย (ลำที่ 2)

คลิกชมคลิปวินาทีเรือหลวงสุโขทัยจม