ข่าว

3 แม่ลูก หมดสติ กล้ามเนื้อกระตุก หลังกิน "เนื้อปลาแล่" ลวกจิ้ม เร่งหาชนิดปลา

3 แม่ลูก หมดสติ กล้ามเนื้อกระตุก หลังกิน "เนื้อปลาแล่" ลวกจิ้ม เร่งหาชนิดปลา

22 ธ.ค. 2565

3 แม่ลูกซื้อ "เนื้อปลาแล่" ทำลวกจิ้ม กล้ามเนื้อกระตุก หมดสติเข้าโรงพยาบาล ประมงจังหวัดเชียงใหม่ เผย ส่งทีมลงพื้นที่ตรวจสอบตลาดที่คาดว่าคนป่วยไปซื้อ แต่ไม่พบการขายเนื้อปลาแล่ พร้อมประสานประมงอำเภอตรวจสอบว่ามีการขายเนื้อปลาแล่หรือไม่

เกิดเหตุ 3 แม่ลูกซื้อ "เนื้อปลาแล่" มาทำลวกจิ้ม เกิดอาการหมดสติ กล้ามเนื้อกระตุก ต้องนำส่งโรงพยาบาลด่วน โดย ประมงจังหวัดเชียงใหม่ ได้ส่งทีมลงพื้นที่ตรวจสอบตลาดที่คาดว่าคนป่วยไปซื้อ แต่ไม่พบการขายเนื้อปลาแล่ พร้อมประสานประมงอำเภอตรวจสอบว่ามีการขายเนื้อปลาแล่หรือไม่

 

 

โดย ดร.นณณ์ ผาณิตวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำและปลาน้ำจืด ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Nonn Panitvong โดยระบุข้อความว่า "วันก่อนตื่นแต่เช้า พี่หมออยู่เชียงใหม่โทรมา บอกว่ามีคนไข้ แม่ 1 ลูกเด็กๆ 2 คน แอดมิทที่โรงพยาบาลอาการ หมดสติกล้ามเนื้อกระตุกไปทั้งตัว"

 

"สอบถามญาติได้ความว่าซื้อ ปลา จากตลาดมากิน ไม่ทราบชนิด คำถามแรกเราคือ มีซากเหลือไหม เพราะแค่ครีบ แค่เกล็ดที่เหลือก็ช่วยได้มากแล้ว ปรากฏว่าไม่มีซากเหลือเลย ก็แปลกใจหน่อยๆ แต่พอเป็นเชียงใหม่ ตอนแรกนึกไปถึงปลาพลวงหรือปลาบ้าที่จะกินผลไม้มีพิษอย่างลูกกะเบาแล้วเนื้อจะมีพิษไปด้วย ปลาพลวงมีอยู่แล้วแถวนั้น ส่วนปลาบ้าก็ถูกปล่อยไปทั่วไทยไม่แปลกถ้าจะมี ก็แนะนำหมอไปแบบนั้น แต่ก็มานั่งดูข้อมูลว่ากะเบามันไม่สุกฤดูนี้นี่หว่า

 

 

เที่ยงๆ ทั้ง 3 คนก็อาการยังไม่ดีขึ้น หมอแจ้งมาใหม่มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปลาที่ซื้อมาเป็น "เนื้อปลาแล่" มาแล้ว เอามาลวกจิ้ม ถึงไม่มีซากปลาเหลือเลย เราก็เอะใจแล้วว่าไม่น่ามีใครเอาปลาพลวงปลาบ้ามาแล่ขาย ปรึกษากับอาจารย์หลายท่านทุกคนนึกไปถึง "ปลาไก่" ปลาปักเป้า มีพิษ ที่ถ้าแล่ถูกก็กินได้ เนื้อมันจะเนียนคล้ายอกไก่ มีแล่ขายกันไปทั่ว เคราะห์หามยามซวยกินไปก็โดนพิษ tetrodotoxin ถึงตายเหมือนกัน เลยแจ้งอาจารย์หมอว่าให้ลองตรวจหา TTX จากคนไข้ดู

 

 

จังหวะนั้นเลยประสานงานกับ กรมประมง และ อ.กบ ที่แม่โจ้ซึ่งเคยทำงานวิจัย ปลาปักเป้าโดยตรงเลย ให้ช่วยลงพื้นที่ตรวจสอบหน่อยว่ายังมีขายอยู่ไหม เพราะอันตรายมาก ปรากฏว่าไม่มีขาย ตกเย็นลูกสองคนรู้สึกตัว อาการดีขึ้น แต่แม่คงกินไปเยอะกว่า ยังไม่ฟื้นเย็นวันนี้คุณหมอแจ้งข่าวว่าตรวจเจอ TTX จริงๆ และแม่ยังไม่รู้สึกตัว กิน/ขาย ของพวกนี้เสี่ยงสูงมาก ระวังกันเน้!"

 

โพสต์ของ ดร.นณณ์ ผาณิตวงศ์

 

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น.นายวิศณุพร รัตนตรัยวงศ์ ประมงจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้รับการประสานมาจากคุณหมอว่ามีผู้ป่วยที่สงสัยว่าได้รับพิษจาก ปลาปักเป้า แต่ยังไม่ได้รับการยืนยัน เนื่องจากในขณะนั้นทางผู้ป่วยยังให้ปากคำไม่ได้ แต่ได้ข้อมูลจากญาติผู้ป่วยว่า ได้ซื้อ "เนื้อปลาแล่" มาจากตลาดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ คุณหมอจึงอยากจะให้ไปลงพื้นที่ตรวจสอบภายในตลาด

 

 

จากการลงพื้นที่ตลาดดังกล่าว พบเพียงแผงขายปลานิล ปลาทับทิม ในส่วนของร้านที่ขายอาหารทะเลก็ไม่พบการขาย "เนื้อปลาแล่" โดยสรุปในวันนั้นที่ลงพื้นที่ไม่พบร้านที่ขายเนื้อปลาแล่ ในช่วง 3 วันที่ผ่านมาได้ตรวจสอบและสอบถามพ่อค้าแม่ค้าก็ยังไม่พบการขายเนื้อปลาแล่ ดังนั้น จึงได้ประสานประมงอำเภอตรวจสอบว่า มีใครนำปลาแล่มาขายหรือไม่ หากพบให้นำเอาเนื้อปลาแล่มาตรวจสอบว่ามีเนื้อ ปลาปักเป้า แทรกมาด้วยหรือไม่ 

 

 

อย่างไรก็ตามคงต้องรอสอบถามจากตัวผู้ป่วยเองว่าได้ไปซื้อมาจากร้านใด ซึ่งในขณะนี้ ผู้ป่วยที่เป็นเด็ก 2 คน อาการปลอดภัยออกจากโรงพยาบาลแล้ว ในส่วนของผู้เป็นแม่ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 

 

 

ด้าน รศ.ดร.อภินันท์ สุวรรณรักษ์ อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ และผู้อำนวยการสำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า อยากจะเตือนประชาชนเวลาไปเลือกซื้อเนื้อปลาตามท้องตลาดว่า ปลา ที่ไม่เห็นหัวปลาอย่าซื้อมากิน เพราะอาจจะมีการนำเอาเนื้อปลาที่มีพิษมาผสมได้ และถึงแม้ว่าจะนำเนื้อปลาที่มีพิษมาปรุงสุก ก็ไม่ควรจะกินเพราะยังมีพิษอยู่

 

 

ที่ผ่านมา ผู้ที่ได้รับพิษจาก ปลาปักเป้า ในช่วงแรกจะมีอาการปากชา ลิ้นชาคล้ายกับตอนกินหม่าล่า ในส่วนของอาการกระตุกมักจะเกิดขึ้นเป็นอาการท้ายๆ สำหรับเนื้อ ปลาปักเป้า จะมีกลิ่นที่แตกต่างจากเนื้อปลาทั่วไป เพราะเนื้อ ปลาปักเป้า จะมีกลิ่นเหม็นเขียว และเมื่อปรุงสุกเวลาเคี้ยวเนื้อปลาปักเป้าจะกระด้างไม่นุ่มเหมือนกับเนื้อปลาทั่วไป

 

ตรวจตลาดปลาเชียงใหม่

เนื้อปลาแล่

 

 

โดย : จักรินทร์ นมนาน