"ครูบาไก่" หลั่งน้ำตา ยันความบริสุทธิ์ แถลงที่มา รอยสัก-เลี้ยงเด็กหนุ่ม | คมชัดลึก

หลังจากเกิดประเด็นอื้อฉาว สะเทือนวงการสงฆ์ กรณีที่ “ครูบาไก่” ครูบาชื่อดัง ถูกกล่าวหาว่า มีสัมพันธ์ลับแบบไม้ป่าเดียวกัน โดยมีการออกมาเปิดเผยภาพ และแชตลับในโลกออนไลน์ นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด ซึ่งทางสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ธรรมยุต ได้ตั้งกรรมการสอบแล้ว และเตรียมสรุปผลตรวจสอบใน 7 วัน

       

ล่าสุด (15 มกราคม 2566) พระอาจารย์สุวิทย์ ชินวโร หรือ ครูบาไก่ ประธานพักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม พร้อมนายธรรมชาติ สาระปัญญา ทนายความ เจ้าของโครงการกองบุญทนายความ เพื่อปกป้องและสืบทอดพระพุทธศาสนา และลูกศิษย์ใกล้ชิด ตั้งโต๊ะร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน และชี้แจงข้อเท็จจริง บริเวณศาลาการเปรียญ ที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ท่ามกลางญาติโยม เข้าร่วมฟังมากกว่าพันคน

ซึ่งในขณะที่ “ครูบาไก่” และทีมทนายความตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอยู่นั้น ช่วงท้ายของการแถลงข่าว ครูบาไก่ ถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา ทำให้ลูกศิษย์ และ ญาติโยม ถึงกับร้องไห้ตาม พร้อมทั้งยืนยัน จะปกป้องครูบาไก่และพระพุทธศาสนาไม่ให้มีมารมาผจญ

นายธรรมชาติ สาระปัญญา ทนายความ กล่าวว่า การแถลงข่าวและการชี้แจงในครั้งนี้ เกิดจากครูบาไก่ถูกกล่าวหาในเรื่องต่าง ๆ ที่สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงกับวัด รวมทั้งครูบาไก่ก็เสื่อมเสียด้วย โดยเฉพาะเรื่องรอยสัก เพราะหลังจากที่เข้ามาช่วยเหลือดูแลครูบาไก่ ก็มีการพูดคุยกัน จนทราบว่า ครูบาไก่มีการสักยันต์ที่ข้อเท้ามาตั้งแต่บวชเณรจริง ๆ แต่สักไม่สวยและสักเล็ก ๆ จึงได้มาสักซ้ำ ดังนั้น จึงยืนยันได้ว่า ภาพถ่ายของลับตามที่มีคนเอามาใส่ร้ายครูบาไก่นั้น จึงไม่ใช่ภาพของครูบาไก่ ส่วนเรื่องเลี้ยงผู้ชายนั้น ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของครูบาหลายคนที่เข้ามาอยู่ในวัด ครูบาก็ดูแลลูกหลานทุกคน และเมื่อทุกคนเติบโต มีหน้าที่การงาน เลี้ยงดูตัวเองได้ ก็ออกไปอยู่ข้างนอก แต่ยังไปมาหาสู่ครูบาประจำ

ส่วนกรณีทองคำที่ญาติโยมทำบุญมา เพื่อหลอมเป็นพระเอาไปใส่ใต้ฐานพระพุทธรูปในพระวิหารนั้น ทนายความ ระบุว่า ขณะนี้ทองยังอยู่ครบ ไม่ได้มีการสูญหาย และมีที่จัดเก็บอย่างดี ส่วนการสร้างพระวิหารที่ยังไม่แล้วเสร็จนั้น เนื่องจากทางวัดมีเงินไม่พอ จึงยุติการก่อสร้างไว้ก่อน โดยในเบื้องต้น ทางวัดทำการก่อสร้างฐานรากด้วยจำนวนเงิน 6 ล้านบาท โครงหลังคา 4 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 10 ล้านบาทถ้วน และจ่ายค่าช่างไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้เป็นหนี้สินในการก่อสร้างแต่อย่างใด

 

“กรณีของชายหนุ่มชื่อเจนนั้น ครูบาไก่ยืนยันว่าไม่รู้จัก และไม่ทราบว่า ฝ่ายที่กล่าวหา เอาหลักฐานต่าง ๆ มาจากที่ใด ถ้านายเจนมีตัวตนจริง ก็ให้ออกมายืนยัน เพราะหลังจากทราบเรื่องราวทั้งหมด ครูบาไก่ได้มอบหมายให้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.มัญจาคีรี ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคน 4 คน ในข้อหา ร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ร่วมกันใส่ความคณะสงฆ์ ร่วมกันแจ้งความเท็จ และข้อหา ร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์

 

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ครูบาไก่ได้นำหลักฐานต่าง ๆ รวมถึงทองคำที่ถูกกล่าวหาว่าหายไป และรายละเอียดการก่อสร้างพระวิหาร เข้าพบคณะสงฆ์ และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของจังหวัดขอนแก่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทุกข้อกล่าวหาที่ถูกคนกลุ่มนั้นกล่าวหา ครูบาไก่ปฏิเสธทั้งหมด

 

 

โดย พรพรรณ เพ็ชรแสน