ข่าว

รวบอดีตวิศวกร แฝงตัวฟิตเนสวางแผน"ลักทรัพย์"เสี่ยหนุ่มมูลค่า 10 ล้าน

รวบอดีตวิศวกร แฝงตัวฟิตเนสวางแผน"ลักทรัพย์"เสี่ยหนุ่มมูลค่า 10 ล้าน

19 ม.ค. 2566

ตร.นนทบุรี แกะรอยตามรวบหนุ่มอดีตวิศวกร แฝงตัวในฟิตเนส"ลักทรัพย์"นักธุรกิจหนุ่ม สารภาพแอบปั๊มกุญแจล็อกเกอร์ วางแผนไว้นานแล้ว

19 ม.ค.2566  นายสาธิต  นักธุรกิจหนุ่ม ผู้เสียหายจากเหตุคนร้ายลักทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่า 10 ล้าน จากล็อกเกอร์ภายในฟิตเนสแห่งหนึ่งย่านงามวงศ์วาน เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2566 เดินทางเข้าขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี หลังสามารถจับกุมผู้ต้องหาและติดตามทรัพย์สินมีค่าที่ถูกขโมยไปกลับคืนมาได้ส่วนหนึ่ง

 

โดยเมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 ม.ค.2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 1 พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี นำกำลังตำรวจพร้อมหมายค้น ห้องพัก ชั้น 8 คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านงามวงศ์งาม ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นที่พักของ นายณรงค์พล (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี อดีตวิศวกร แสดงตัวเป็นเจ้าของห้องพัก 

 

 

 

 

รวบอดีตวิศวกร แฝงตัวฟิตเนสวางแผน"ลักทรัพย์"เสี่ยหนุ่มมูลค่า 10 ล้าน

 

 

เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นภายในห้อง ค้นพบทรัพย์สินเครื่องประดับมีค่าของผู้เสียหายที่หายไปรวมอยู่ด้วย จึงอายัดของกลางทั้งหมด พร้อมนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองนนทบุรี

 

นายณรงค์พล ผู้ต้องหา ให้การว่า ตนเองเคยเป็นวิศวกรของบริษัทแห่งหนึ่งมาก่อน กระทั่งสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด ถูกบริษัทเลิกจ้าง ทำให้ตกงานตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สมัครงานก็ไม่มีบริษัทใดรับ เนื่องจากอายุมากแล้ว ทำให้ไม่มีรายได้  ต้องอาศัยหยิบยืมจากทางครอบครัวมาใช้จ่าย และในช่วงที่มีเวลาว่างในแต่ละวัน จึงไปสมัครออกกำลังกายที่ฟิตเนสเป็นรายเดือน เดือนละ 2,000 บาท จากนั้นก็ไปออกกำลังกายทุกวัน

 

ต่อมาพบว่านายสาธิต ผู้เสียหาย มักเดินทางมาออกกำลังพร้อมกับเครื่องประดับประจำตัวที่มีราคาแพงเป็นประจำ จึงได้คิดหาวิธีการที่จะขโมยทรัพย์สินมีค่าของนายสาธิต ด้วยการแอบนำกุญแจล็อกเกอร์ที่ตนเองสังเกตเห็นว่า นายสาธิตมักนำไปเก็บในตู้ล็อกเกอร์หมายเลข 15- 21  เป็นประจำ

 

นายณรงค์พล ยังให้การอีกว่า ได้แอบนำกุญแจตู้ล็อกเกอร์หมายเลข 17 กับ 18 ออกไปปั๊ม ก่อนจะนำมาเสียบคืนไว้ที่เดิม จากนั้นใช้จังหวะเฝ้ารอในแต่ละวันว่า นายสาธิตจะมาออกกำลังกายและใช้ตู้ล็อกเกอร์ที่นำไปทำกุญแจสำรองไว้หรือไม่

 

 

 

กระทั่งวันเกิดเหตุไปออกกำลังกายเพื่อดักรอนายสาธิต จนพบว่านายสาธิตเดินทางมาที่ฟิตเนส พร้อมกับนำเสื้อผ้าเครื่องประดับมีค่าเก็บไว้ในตู้ล็อกเกอร์หมายเลข 17 ที่แอบทำกุญแจสำรองไว้พอดี จึงไขเปิดตู้ล็อกเกอร์ลักเอาทรัพย์สินของนายสาธิตไปทั้งหมด โดยนำทรัพย์สินที่ขโมยมาใส่กระเป๋าสะพายที่เตรียมมา ออกไปซุกซ่อนที่ห้องพักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากฟิตเนส แล้วเดินทางกลับไปที่ฟิตเนสอีกครั้ง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้ตกเป็นที่เป็นสงสัย

 

นายณรงค์พล กล่าวอีกว่า หลังจากได้ทรัพย์มีค่ามาแล้ว ตนเองได้นำเลสข้อมือกับแหวนเพชรไปจำนำ ได้เงินมา 140,000 บาท จากนั้นจึงนำเงินที่ได้มาส่วนหนึ่งไปซื้อสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท มาเก็บไว้ พร้อมกับซื้อเสื้อผ้ารองเท้าแบรนด์เนมมาใช้ส่วนหนึ่ง ทำให้เหลือเงินในบัญชีอยู่ประมาณ 5 หมื่นบาท 

โดยหลังเกิดเหตุยังคงเดินทางไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสตามปกติ เพื่อไม่ให้เกิดพิรุธ พร้อมกับสอบถามกับเจ้าหน้าที่ประจำฟิตเนสถึงความคืบหน้าที่คนร้ายขโมยทรัพย์สินไปอีกด้วย

เบื้องต้นหลังสอบปากคำ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา นายณรงค์พล ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร พร้อมกับอายัดเงินในบัญชีของนายณรงค์พลที่ได้มาจากการนำทรัพย์สินที่ขโมยมาไปจำนำไว้แล้ว พร้อมกับเร่งติดตามทรัพย์ของผู้เสียหายในส่วนที่เหลือ

พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผู้กำกับการ สภ.เมืองนนนทบุรี เปิดเผยว่า  หลังจากรับแจ้งความจากผู้เสียหายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 1 และชุดสืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ จนพบความผิดปกติขณะ นายณรงค์พล ผู้ต้องหา เดินทางมาเข้าใช้บริการในฟิตเนส เนื่องจากกระเป๋าสะพายข้างที่นายณรงค์พล สะพายเข้ามานั้น มีลักษณะเบา ไม่มีน้ำหนัก แต่ขากลับออกไป กระเป๋าสะพายของนายณรงค์พล กลับมีน้ำหนักเหมือนใส่สิ่งของที่น้ำหนักมากกกว่าตอนเข้ามา จนนำไปสู่การขอหมายเข้าตรวจค้นภายในห้องพักและพบของกลางของผู้เสียหาย ซึ่งทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนั่งติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยในวันเกิดเหตุที่เดินทางมาใช้บริการกว่า 300 คน

 

 

ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ  จ.นนทบุรี