ระทึก "ไฟไหม้วิหารไม้สัก" วิหารหลวง วัดแพะหลวง อายุ 176 ปี วอดทั้งหลัง
ระทึก "ไฟไหม้วิหารไม้สัก" วิหารหลวงเก่าแก่ วัดแพะหลวง อายุ 176 ปี จ.ลำปาง วอดทั้งหลัง รอประเมินความเสียหายเช้านี้
เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (2 กุมภาพันธ์ 2566) นายสมศักดิ์ วัชระธาดาพงศ์ นายอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นายชยพล ชมภูรัตน์ นายกเทศมนตรีเมืองล้อมแรด นายกวีวัฒน์ สุขเกษม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปางสาขาเถิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เถิน ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ "ไฟไหม้วิหารไม้สัก" วัดแพะหลวง
ภายหลังได้เกิดเหตุ ไฟไหม้ วิหารหลวงหลังเก่าไม้สักทั้งหลัง โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหน่วยงานเทศบาลเมืองล้อมแรด นำรถดับเพลิงเข้าฉีดสกัดเปลวไฟที่โหมลุกไหม้ทันทีที่เดินทางมาถึงเพื่อไม่ให้เพลิงไหม้ลุกลามไปยังศาลาการเปรียญและอุโบสถที่อยู่บริเวณรอบวิหาร
ก่อนจะระดมรถดับเพลิงจากหน่วยงานข้างเคียงได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลนาโป่ง องค์การบริหารส่วนตำบลแม่วะ และองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ถอด ตามมาสมทบร่วมฉีดน้ำสกัด ใช้เวลาเกือบ 40 นาทีจนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
สภาพความเสียหายในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบโดยละเอียดได้ ยังคงให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงส่วนหนึ่งทยอยฉีดน้ำพรมเข้าไปในวิหาร เพื่อรอให้กลุ่มควันและไอความร้อนบริเวณพื้นวิหารสงบลง และได้ให้เจ้าหน้าที่นำเชือกผูกล้อมรอบสถานที่เกิดเหตุ ป้องกันไม่ให้ผู้ใดเข้าใกล้เกรงว่าจะได้รับอันตรายจากโครงสร้างหลังคา และเศษแผ่นกระเบื้องพังทลายลงมา
จากนั้นคณะของ นายสมศักดิ์ วัชระธาดาพงศ์ นายอำเภอเถิน ได้เข้าพบ พระอธิการเอกอร ปิยวัณโณ เจ้าอาวาสวัดแพะหลวง เพื่อสอบถามข้อมูลคืบหน้าเหตุ เพลิงไหม้ ในเบื้องต้นทราบว่าวิหารหลังดังกล่าวกำลังอยู่ในช่วงบูรณะซ่อมแซมหลังคา เพื่อ เตรียมงานบุญยกช่อฟ้าใบระกา
ก่อนเกิดเหตุไม่มีผู้ใดอยู่ในบริเวณวิหารวัด นอกจากพระสงฆ์ และได้ยินเสียงชาวบ้านร้องตะโกนว่ามีเปลวไฟลุกไหมมาจากหลังคาวิหารด้านทิศใต้ ก่อนจะโทรศัพท์ประสานขอความช่วยเหลือจากเทศบาลเร่งดับไฟไหม้ โดยทรัพย์สินภายในวิหารวัดที่ขนออกมาได้มีเพียง พระพุทธรูปเชียงแสน ทำจากไม้สัก อายุเก่าแก่หลายร้อยปี จำนวน 2 องค์ แต่ละองค์มีคราบถูกไฟเผาได้รับความเสียหาย ส่วนทรัพย์สินที่เหลือไม่สามารถขนออกมาได้ทัน
สำหรับ วิหารไม้สัก หลังดังกล่าวเป็นวิหารเก่า สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2390 หรือประมาณ 176 ปี อย่างไรก็ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถสรุปสาเหตุแน่ชัดได้ และประเมินค่าความเสียหายได้ ยังมีทรัพย์สินของมีค่าอีกมากมายที่ถูกไฟเผาได้รับความเสียหายในครั้งนี้ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบในเช้าวันรุ่งขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาให้ปากคำเพิ่มเติมภายหลัง
โดย : ชัยวัฒน์ เป๋าสมบัติ