'ลูกทรพี' เมาสุราทุบหัวพ่อบังเกิดเกล้า มีดปาดคอก่อนลากร่างทิ้งนอกบ้าน | คมชัดลึก

31 มี.ค. 2566  ร.ต.อ.อนุชิต ชาวดง รองสารวัตร สอบสวนฯ สภ.วาปีปทุม  รับแจ้งเหตุผู้ถูกทำร้ายเสียชีวิต บริเวณบ้านหลังหนึ่ง ใน ต.เสือโก้ก อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม จึงแจ้งให้หน่วยกู้ภัยวาปีปทุม และแพทย์เวรโรงพยาบาลวาปีปทุมเดินทางไปตรวจสถานที่เกิด

 

จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวพบร่างนายสมร (สงวนนามสกุล)  อายุ 48 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ข้างบ้านพัก สภาพศพกระโหลกศรีษะแตก ตาเขียวบวม มีบาดแผลตามลำตัวหลายแห่ง และพบมีดปอกผลไม้ยาว ประมาณ 8 นิ้ว ตกอยู่ที่เกิดเหตุ

 

 

 

 

 

 

ผู้ก่อเหตุคือ นายอนุชา (สงวนนามสกุล)  อายุ 26 ปี  ลูกชายนายสมร ผู้เสียชีวิต ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่านายสมร ผู้เสียชีวิต เป็นผู้ป่วยทางจิต อาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านเกิดเหตุ ส่วนนายอนุชา ลูกชายผู้เสียชีวิต มีพฤติการณ์ดื่มสุราและทะเลาะกับผู้เสียชีวิตเป็นประจำ

 

เบื้องต้นคาดว่านายอนุชา จับศรีษะของนายสมร  กระแทกกับผนังห้องน้ำ และใช้มีดปอกผลไม้ความยาวรวมด้ามประมาณ 8 นิ้ว ปาดคคอนายสมร จนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นนำร่างออกมานอนไว้ข้างบ้านพัก กระทั่งช่วงเช้าเวลา 08.00 น. มีผู้มาพบศพและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบดังกล่าว เจ้าหน้าที่คุมตัวนายอนุชาไว้ที่ สภ.วาปีปทุม ก่อนจะทำการสอบสวนสาเหตุที่อีกครั้ง

 

เพื่อนบ้านผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่าผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุกับลูกชาย ช่วงคืนที่ผ่านมาได้ยินเสียงคล้ายมีคนทุบผนังห้อง จากนั้นเสียงเงียบไป ตอนเช้าขณะที่ไปขายผักกลับมา  เห็นรถตำรวจจอดอยู่ จึงรีบมาดู จนกระทั่งพบนายสมรเป็นศพดังกล่าว ที่ผ่านมาทั้งคู่ทะเลาะกันประจำ  ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากผู้ก่อเหตุเมาสุรา

 

 

 

 

 

ด้านญาติผู้เสียชีวิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตและลูกชาย ไม่ได้ประกอบอาชีพ เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีอาการป่วยทางจิต  ตนจึงให้ทั้ง 2 คน มาเอาอาหารที่บ้านหรือไม่ก็จะเอาไปส่งทุกวัน กระทั่งเจอกันล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมา โดยนายสมร ผู้เสียชีวิตมาเอาข้าวที่บ้าน  ส่วนลูกชายก็ตามมาเหมือนกัน จากนั้นต่างคนต่างไป และแยกกันกิน กระทั่งเช้าวันนี้ตนจะเอาข้าวไปส่งให้ จึงพบว่านายสมร เสียชีวิตแล้ว 

 

ที่ผ่านมาทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำจนชาวบ้านเอือมระอา ก่อนหน้านี้นายอนุชา เคยใช้กรรไกรแทงนายสมร แล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่เสียชีวิต  

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายอนุชา ไปตรวจปัสสาวะ แต่ไม่พบสารเสพติด จึงได้ควบคุมตัวไว้ในห้องขังของ สภ.วาปีปทุม เพื่อรอหายจากอาการเมาจึงจะนำตัวสอบสวน 

 

 

เอนก กระแจ่ม จ.มหาสารคาม