"ไฟป่า" ดอยสุเทพ คลี่คลายคุมไฟอยู่ไม่ลุกลาม มั่นใจไม่ซ้ำรอยปี 63
อัปเดตสถานการณ์ "ไฟป่า" ดอยสุเทพคลี่คลายเจ้าหน้าที่คุมไฟได้แล้ว ไม่ซ้ำรอยปี 63 กรมอุทยานฯยังติดตามจุดความร้อนบริเวณอุทยานแห่งชาติเชียงดาวและศรีลานนา
เหตุการณ์ "ไฟป่า" บริเวณ ดอยสุเทพ ที่ลุกไหม้ตั้งแต่เมื่อช่วง 5 วันที่ผ่านมา สร้างความกังวลให้กับหลายฝ่าย รวมทั้งประชาชนที่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงจำนวนมาก เนื่องจาก ดอยสุเทพ เป็นพื้นที่ป่าใกล้เมือง รวมทั้งยังมีการสะสมของเชื้อเพลิงจำนวนมาก เพราะ 2 ปี ที่ผ่านมา ดอยสุเทพ แทบจะไม่เกิดไฟป่าขึ้นเลย ดังนั้นจึงทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าหากเกิดไฟป่าในครั้งนี้อาจจะมีความรุนแรงเทียบเท่าปี 63
โดย นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อธิบายถึงสถานการณ์ "ไฟป่า" ดอยสุเทพ ว่า หลังจากที่มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดับ ไฟป่า บริเวณ ดอยสุเทพ เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการลุกลามเป็นวงกว้างนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามาถควบคุมไฟได้แล้ว ขณะนี้เหลือประมาณ 2 จุด แต่อยู่ในแนวที่สามารถควบคุมได้ ส่วนบริเวณใกล้กับห้วยตึงเฒ่า มีการระดมเจ้าหน้าที่และสามารถดับไฟได้สำเร็จแล้ว
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ "ไฟป่า" ในพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงก่อนสงกรานต์จะเกิดเป็นประจุทุกปี โดยเฉลี่ยในพื้นที่ดอยสุเทพ จะเกิดขึ้นประมาณวันละ 9 จุด ดังนั้นทางกรมอุทยานจะต้องมีการวางกำลังเจ้าห้นาที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้าง เนื่องจากบริเวณดอยสุเทพจากการสำรวจพบว่ามีการสะสมของเชื้อเพลงิค่อยข้างสูง เพราะไม่มีไฟป่าเกิดขึ้นมา 2 ปีแล้ว ดังนั้นหากเกิดไฟป่าจะทำให้จะทำให้มีความรุนแรงและโหมไหม้อย่างหนัก อีกทั้งบริเวณดอยสุเทพยังเป็นป่าใกล้เมือง หากพบจุดความร้อนจึงจำเป็นจะต้องเร่งควบคุม
นอกเหนือไปจาก ดอยสุเทพ จะเป็นจุดที่ต้องเฝ้าระวังการเกิดจุดความร้อนหรือ "ไฟป่า" ที่จะเกิดขึ้นในอุทยานอื่นๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ยังมีการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อโดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเชียงดาว เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดังนั้นจึงจะต้องเป้าระวังเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีบริเวณพื้นที่อุทยานศรีลานนา อ่างเก็บน้ำแม่งัด ที่มีการตรวจพบจุดความร้อนอยู่บ้าง ส่วนบริเวณดอยอินทนนท์คาดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร
หากถามถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดจุดความร้อน และไฟป่านั้นยังคงเกิดจากการเข้าไปเก็บเห็ด และล่าสัตว์ ดังนั้นมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปตรวจสอบดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด "ไฟป่า" ในพืนที่อุทยานแห่งชาติในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่