พิษ 'พายุฤดูร้อน' ถล่มสังขละบุรี บ้านเรือนเสียหายกว่า 50 หลัง จนท.เร่งช่วย
"พายุฤดูร้อน" พัดถล่มสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 50 หลัง หลังคาปลิวว่อน นายกเล็ก ทต.วังกะ เผยพิษพายุฤดูร้อน ถล่มสังขละบุรี บ้านเรือนเสียหาย 50 หลัง แนะประชาชนลงทะเบียน เพื่อรับการเยียวยา
26 เม.ย. 2566 นายวิจารณ์ กุลชนะรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลวังกะ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลวังกะ เจ้าหน้าที่อำเภอสังขละบุรี เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตชด.134 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันลงพื้นที่สำรวจบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนทั้งในเขตเทศบาลฯและฝั่งชุมชนชาวมอญบ้านวังกะ หมู่ 2 พบบ้านเรือนประมาณได้รับความเสียหาย ประมาณ 50 หลังคาเรือน
พายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี กระแสลมที่พัดอย่างรุนแรงทำให้บ้านเรือนประชาชนถูกลมพัดหลังคาที่เป็นสังกะสีและกระเบื้องปลิวหายไปหลายหลัง นอกจากนี้ยังทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับหลังคาบ้าน ขวางถนนหลายจุด ขณะเดียวกันพื้นที่ทางการเกษตร เช่นสวนยางพารา สวนผลไม้ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.30-18.30 น.ของวันที่ 25 เม.ย. 2566 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายวิจารณ์ เปิดเผยว่าหลังจากเกิดเหตุได้ลงพื้นที่ พร้อมด้วยสมาชิกสภาท้องถิ่น (สท.) เพื่อสำรวจบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายและทำการเก็บหลักฐานถ่ายภาพ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายมาลงทะเบียนเพื่อรับความช่วยเหลือเยียวยา
จากการสำรวจเบื้องต้นมีบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายประมาณ 50 หลังคาเรือน แยกเป็นบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ฝั่งเทศบาลตำบลวังกะ 30 หลังคาเรือน จุดที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายมากที่สุดคือประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในซอยวัดศรีสุวรรณ ซอยต้นผึ้ง และซอยศรีสุวรรณ 7
ส่วนบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ฝั่งชุมชนชาวมอญบ้านวังกะหมู่ 2 ต.หนองลู ได้รับความเสียหายที่บริเวณชุมชนดงสัก และชุมชนสะพานมอญ รวม 20 หลัง ซึ่งทางเทศบาลฯพร้อมให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการ โดยวันจันทร์ที่ 1 พ.ค. 2566 จะมีการนำเข้าวาระที่ประชุมของคณะกรรมการช่วยเหลือ เพื่อจะเร่งให้ความช่วยเหลือให้เร็วที่สุด
ทางด้าน น.ส.พรเจริญ ปุณณะการี อายุ 20 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เปิดเผยว่า ตั้งแต่ตนเกิดมาจนอายุ 20 ปี ก็เพิ่งเคยพบเจอพายุฤดูร้อนที่มีกระแสลมแรงขนาดนี้ครั้งแรกในชีวิต จากกระแสลมที่รุนแรงทำให้หลังคาบ้านพักที่เปิดขายกาแฟปลิวหายไปทั้งหมด โดยช่วงเกิดเหตุตนกับพ่อและแม่รวมทั้งหลานๆ กำลังนั่งเล่นอยู่ในบ้าน
ขณะเกิดเหตุตนได้รีบวิ่งไปคว้าเอาทรัพย์สินที่มีค่า แล้วรีบวิ่งออกจากบ้านแล้วไปหลบฝนอยู่ที่บ้านเพื่อน จากนี้ไปก็คงจะย้ายไปอาศัยอยู่ที่บ้านญาติจนกว่าจะซ่อมบ้านเสร็จ เบื้องต้นได้แจ้งไปยังเทศบาลตำบลวังกะเพื่อขอความช่วยเหลือแล้ว
สุพจน์ แก้วกาสี จ.กาญจนบุรี