'บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง' วิธีคิด 'นายอำเภอท่าอุเทน' ลดค่าครองชีพ
"ระเบิดจากข้างใน" แนวคิดที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ใช้ในการทรงงาน มีความหมายคือ สร้างความเข้มแข็งให้คนในชุมชนที่เราเข้าไปพัฒนาให้มีสภาพพร้อมที่จะรับการพัฒนาเสีย ทำให้นายอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม นำแนวทาง" ระเบิดจากข้างใน" มาต่อยอดผ่าน "บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง"
"ระเบิดจากข้างใน" หมายความว่า ต้องสร้างความเข้มแข็งให้คนในชุมชนที่เราเข้าไปพัฒนาให้มีสภาพพร้อมที่จะรับการพัฒนาเสียก่อน แล้วจึงค่อยออกมาสู่สังคมภายนอก มิใช่การนำเอาความเจริญหรือบุคคลจากสังคมภายนอกเข้าไปหาชุมชนที่ยังไม่ทันได้มีโอกาสเตรียมตัว หรือตั้งตัว อย่าให้โดยที่ผู้รับยังไม่พร้อมที่จะใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่" นิยามคำว่า " ระเบิดจากข้างใน" และความหมาย อันเป็น 1 ใน 27 ข้อ ที่เป็นหลักการทรงงานของในหลวง รัชกาลที่ 9 กษัตริย์นักพัฒนา
" ระเบิดจากข้างใน" ถือเป็นหลักคิดหรือแนวทางการทำงาน ที่ ปรีชา สอิ้งทอง
นายอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม นำมาใช้เป็นการมุ่งมั่นพัฒนาทุ่มเททั้งกายและใจให้เป็นแบบอย่างแก่เจ้าหน้าที่นำไปปฏิบัติ เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือนผ่านโครงการ "บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง" เช่นเดียวกับคำว่า " ททท.ทำทันที" เพราะทันทีที่มารับตำแหน่งนายอำเภอท่าอุเทน เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว สิ่งแรกที่ทำคือปรับปรุงพื้นที่รอบ ๆ บ้านพักนายอำเภอ
ปลูกผักสวนครัวหลากหลายชนิด อาทิ พริก โหระพา ขิงข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด รวมถึงผักโตเร็ว เช่น ผักกาด ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว และอีกมากมาย ทั้งหมดคือผักสวนครัวที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
.
รับบทผู้นำลงมือทำเป็นตัวอย่าง
.
"ท่าอุเทนเป็นเมืองเกษตร เราก็ส่งเสริมให้ทุกคนปลูกผักสวนครัวไว้กินเองใช้พื้นที่รอบบ้านของตัวเองปลูกเพื่อจะลดรายจ่ายลง แต่ถ้าอยู่ ๆ ผมไปบอกพี่น้องให้ทำเลยโดยไม่มีให้เห็นของจริง พี่น้องก็จะพูดได้ว่านายอำเภอมีแต่สอน มีแต่สั่ง ทำเองไม่เป็น ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการลงมือทำ ทำให้เห็น " นายอำเภอท่าอุเทน เผยที่มาโครงการ "บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง"
ไม่เพียงปลูกพืชผักสวนครัวเท่านั้น แต่รอบบ้านพักนายอำเภอท่าอุเทน ยังเลี้ยงไก่ไข่ 10 ตัว ส่วนผลผลิตที่ได้ นอกจากเก็บไว้รับประทานเองแล้วยังนำไปแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ บางส่วนก็นำไปวางไว้ที่ " ซุ้มปันสุข" ไว้บริการ ประชาชนที่มาติดต่อราชการอีกด้วย
หลังประสบผลสำเร็จในการจัดทำเป็นแปลงตัวอย่าง และได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ ขณะนี้ได้ขยายผลไปยังบ้านพักเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อาทิ บ้านพักปลัดอำเภอและบริเวณหลังที่ว่าการอำเภอท่าอุเทนที่ยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าประมาณ 10 ไร่เศษ ด้วยการปลูกพืชผักสวนครัว สับปะรด มะละกอ กล้วยน้ำว้า ขุดบ่อเลี้ยงปลาและสามารถใช้เป็นแหล่งน้ำต้นทุนในฤดูแล้งด้วย
"ผมคิดเสมอว่าก่อนจะออกช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เราต้องดูแลลูกน้องให้อิ่มท้องก่อน ให้เขามีความพร้อมทั้งกายและใจ มีเงินในกระเป๋า จึงนำแนวพระราชดำริ ระเบิดจากข้างใน มาปรับใช้ผ่านโครงการบ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง "
ผลักดันแนวคิด "บ้านนีัมีรัก ปลูกผักกินเอง"
ปรีชา สอิ้งทอง นายอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม
เขา กล่าวว่า จากผลสำรวจรายจ่ายเจ้าหน้าที่พบว่าน่าห่วงใย ส่วนใหญ่หมดไปกับค่าอาหาร ดังนั้นถ้ามาปลูกพืชผักกินเอง เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลากินเองก็จะสามารถลดรายจ่ายในส่วนนี้ได้และยังได้รับประทานพืชผักที่ปลอดสารเคมีด้วย ที่สำคัญเงินเดือนทุกบาทยังอยู่ครบ
.
สร้างโอกาสผลผลิตเกษตร " สับปะรดท่าอุเทน"
.
ด้านผลผลิตทางการเกษตรของพื้นที่คือ "สับปะรดท่าอุเทน" ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรที่ได้รับสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือจีไอ(GI) เป็นสับปะรดสายพันธุ์ปัตตาเวีย มีเนื้อละเอียด แน่น สีเหลืองเข้ม ตาตื้น รสชาติหวานฉ่ำ หอม กรอบอร่อย เป็นที่นิยมของผู้บริโภค ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกส่วนใหญ่อยู่ใน 4 ตำบลของอำเภอท่าอุเทน โดยเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมาได้มีการลงนามเอ็มโอยู(MOU) กับบริษัทเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด (Tops Market) และบริษัทสยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) นับเป็นอีกช่องทางการตลาดในการจำหน่ายผลผลิตอีกด้วย
"ปกติสับปะรดท่าอุเทนถ้าขายริมทางกิโลกรัมละ 25 บาท ในห้างราคา 40 บาท ซื้อที่สวน 15 บาท สับปะรดท่าอุเทนไม่ใช่ปลูกที่ไหนก็ได้ ผมเคยนำไปปลูกที่มุกดาหาร ปลูกได้แต่รสชาติไม่ได้ไม่อร่อยไม่ฉ่ำเหมือนที่ท่าอุเทน นี่จึงเป็นข้อดีของผลิตผลิตเกษตร สับปะรดจีไอ(GI)ของอำเภอท่าอุเทน"
นอกจากสับปะรดท่าอุเทนแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ทางภูมิปัญญาของอำเภอท่าอุเทน ที่เพิ่งได้รับประกาศเป็นสินค้าจีไอ(GI)ในปีนี้(2566) นั่นก็คือ "ครกดินเผาบ้านกลาง" ซึ่งใช้สำหรับตำส้มตำ ภาคอีสานส่วนใหญ่ใช้ครกจากแหล่งผลิตที่บ้านกลาง อำเภอท่าอุเทน "ภาคอีสานเกือบทั้งภาคต้องมาซื้อครกที่ท่าอุเทนแล้วไปตีตราที่อื่น ปีนี้เราได้จีไอแล้วจะบังคับเลยว่าใครจะเอาครกไปขายที่อื่นจะต้องใช้ตราท่าอุเทนเท่านั้น เพราะมันเป็นครกดินเผาจากภูมิปัญญาชาวบ้านที่นี่ เขาทำสืบทอดกันมาเป็นร้อยปีแล้ว " นายอำเภอท่าอุเทน ระบุ
ทั้งหมดนี้คือการขับเคลื่อนงานเพื่อท้องถิ่นของ ปรีชา สะอิ้งทอง นายอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ผ่านโครงการ "บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง" กระทั่งต่อยอดไปสู่ส่วนอื่น ๆ ด้วยเป้าหมายเพื่อสนองตอบนโยบายกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
"ไก่ไข่" แหล่งอาหารขั้นพื้นฐานของครัวเรือน
แปลงปลูกสัปปะรด ภายใต้การผลักดันของ นายอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม
"ซุ้มปันสุข" อำเภอท่าอุเทน บริการผลผลิตเกษตร