'ปลัดอำเภอ' หนีตาย 'อส.' หัวร้อน ควงปืนบุกห้อง หวังปลิดชีพฉุนไม่ให้ลางาน
"ปลัดอำเภอ" หนีตายเจอ "อส." เลือดร้อน บุกห้อง จ่อปืนหวังปลิดชีพ ฮึดสู้จนปืนลั่นก่อนวิ่งมาขอความช่วยเหลือ ในสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียว
1 ก.พ. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ นำตัว นายอดุลย์ อายุ 39 ปี สมาชิกอาสารักษาดินแดน (อส.) ส่งฝากขังศาลจังหวัดนางรอง โดยถูกแจ้ง 3 ข้อหาหนัก พยายามฆ่า , พกอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และบุกรุก หลังนายอดุลย์ ก่อเหตุควงอาวุธปืนพกสั้น ไปที่ห้องพักของ ปลัดอำเภอ ฝ่ายความมั่นคงรายหนึ่ง ขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมพักผ่อน
โดยนายอดุลย์ ใช้อาวุธปืนที่พกมาจ่อบังคับให้ ปลัดอำเภอนอนลงที่พื้น พร้อมใช้มืออีกข้าง หยิบหมอนขึ้นมาบังปลายกระบอกเพื่อหวังจะเหนี่ยวไกปลิดชีพปลัด แต่ปลัดอำเภอฮึดสู้ยื้อแย่งปืนจากนายอถดุลย์ ผู้ก่อเหตุ จนเกิดปืนลั่น เคราะห์ดีที่กระสุนไม่ได้โดนใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา
หลังปลัดอำเภอแย่งปืนจากนายอดุลย์ ผู้ก่อเหตุแล้ว ก็รีบวิ่งออกจากห้องพักในสภาพสวมกางเกงชั้นใน และนุ่งผ้าขนหนู ไม่ได้สวมเสื้อ ไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านใกล้เคียง แต่ระหว่างทางผ้าขนหนูเกิดหลุดเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียวกับอาวุธปืนของกลางที่แย่งมาได้ไปขอความช่วยเหลือจากร้านค้าแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากห้องพักที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ไปแจ้งความที่โรงพัก
จากการสอบถามทราบว่า นายอดุลย์ ผู้ก่อเหตุ เพิ่งย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ ประจำอำเภอที่เกิดเหตุได้เพียง 5 เดือน แต่หยุดงานบ่อย และชอบดื่มสุรา ทั้งนี้จากประวัติการทำงานในอีกอำเภอ ทราบว่ามีพฤติกรรมหยุดงานบ่อยเหมือนกัน ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืน 9 มม. และเป็นอาวุธปืนส่วนตัว ซึ่งตามกฎหมาย อส.สามารถขอใช้อาวุธปืนได้ แต่การพกพาก็จะมีระเบียบข้อห้ามโดยต้องใช้ขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่การถือปืนไปข่มขู่พยายามฆ่าปลัดครั้งนี้ถือว่าผิดอยู่แล้ว
หลังจากนี้ จะทำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาลงโทษ ซึ่งกรณีนี้ก็ถือว่าเป็นความร้ายแรงน่าจะถึงขั้นมีคำสั่งให้ออกจากการทำหน้าที่ อส. ส่วนในทางอาญาก็ว่ากันไปตามกระบวนการขั้นตอนทางกฎหมาย
ด้าน ภรรยานายอดุลย์ ผู้ก่อเหตุ บอกว่า สามีป่วยเป็นโรคเก๊าและมีอาการปวดขาต้องกินยาเป็นประจำจริง และมีนัดไปหาหมอวันที่ 31 ม.ค.2567 ส่วนตัวไม่รู้มาก่อนว่าสามีจะไปก่อเหตุแบบนี้ ซึ่งตอนเช้าวันเกิดเหตุสามีได้พาตนเองไปซื้อของแล้วกลับมาช้า เขาก็บอกว่าไม่ทำงานไม่ทันแล้วเพราะที่ทำงานเขาระบุให้ขาด เพราะเกินเวลางานแล้ว เขาจึงไม่ไปทำงาน จากนั้นตนก็ไปทำธุระและแวะไปบ้านแม่ มารู้อีกทีตอนที่ตำรวจมาคุมตัวสามีที่บ้าน ส่วนสาเหตุคาดว่าสามีน่าจะน้อยใจที่ไม่ได้ลา บวกกันสามีดื่มสุราด้วยเพราะเครียดเรื่องการทำงานจึงขาดสติแล้วก่อเหตุ
สุรชัย พิรักษา จ.บุรีรัมย์