ตร.บุกช่วย 'สาวลาว' วัย 18 ปีนรั้วหนี นายจ้างวัยเกษียณ 'ลวนลาม- กักขัง'
'สาวลาว' วัย 18 ถูกนายจ้างเป็นแพทย์เกษียณ 'กักขัง-ลวนลาม' เคยขอลาออก กลับถูกขู่ทำผิดสัญญาจ้าง พี่ชายโทรแจ้งตำรวจ ก่อนปีนรั้วหนีออกมา
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 3 มี.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งขอความช่วยเหลือ จากหนุ่มลาว ว่าน้องสาวถูกนายจ้างกักขังอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง ใน ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงรายกงาน ผู้บังคับบัญชา และนำกำลังไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้นหลังใหญ่ มีกำแพงรั้วรอบขอบชิด พบนายชาย (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี ชาว แขวงจำปาสัก สปป.ลาว ยืนอยู่ริมถนนบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านนายจ้างของน้องสาว พบว่าประตูรั้วหน้าบ้านล็อก โดยมีหญิงสาวชาวลาว ยืนร้องไห้ขอความช่วยเหลือว่าถูกนายจ้าง ลวนลามและพยายามอนาจารอยู่บ่อยครั้ง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กดกริ่งที่ประตูรั้วหน้าบ้าน ก็ไม่มีใครออกมาเปิด จึงได้แนะนำให้หญิงสาวชาวลาว ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.วา (นามสมมุติ) อายุ 18 ปีเศษ ปีนรั้วที่มีความสูงประมาณ 2.5 เมตร หนีออกมาอย่างปลอดภัย ตำรวจจึงนำตัว ทั้ง 2 คน มาสอบปากคำที่สถานีตำรวจ ส่วนนายจ้างไม่ยอมออกมาแสดงตัวและชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ต่อมา พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ปรีชา ประดิษฐ์ศิลป์ รอง ผกก.ตม.จว.อุดรธานี พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี ร.ต.ท.หญิง วิลาสินี อาษานาม รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี และตำรวจท่องเที่ยว จ.อุดรธานี ร่วมกันสอบปากคำ นายชาย และน.ส.วา พร้อมกับตรวจสอบหนังสือเดินทาง และตรวจสอบเอกสารในการจ้างงานตำแหน่งงานบ้าน พบว่าเดินทางมาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายทั้ง 2 คน
นายชาย พี่ชาย น.ส.วา เปิดเผยว่า แม่ของตน ซึ่งทำงานอยู่ที่กรุงเทพ โทรมามาบอกกับตนว่าน้องสาว ซึ่งทำงานอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ถูกนายจ้างซึ่งเป็นแพทย์ที่เกษียณแล้ว ลวนลามและพยายามอนาจาร ให้มาดูน้องสาวที่ทำงานเป็นแม่บ้านหลังดังกล่าว ส่วนตนทำงานเป็นช่างเชื่อมเหล็กอยู่ที่ จ.นครสวรรค์
หลังทราบเรื่อง จึงได้นั่งรถมาหาน้องสาว และได้คุยกับน้องผ่านไลน์ ว่าตอนเย็นน้องสาวจะคุยนายจ้างก่อนจะลาก่อน พร้อมกับขอเงินเดือนที่ยังไม่จ่าย 1 เดือน แต่นายจ้างไม่ยอม และปิดล็อกประตูบ้านไม่ให้น้องสาวตนหลบหนี น้องจึงได้วิ่งออกมาร้องไห้อยู่หน้าบ้าน นายจ้าง ยังตามมาค้นกระป๋าเสื้อผ้าของน้องสาว และไม่ยอมเปิดประตูให้น้องสาวออกมา กระทั่งค่ำตนจึงตัดสินใจโทรขอความช่วยเหลือจากตำรวจ
ด้าน น.ส.วา (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนมาทำงานเป็นแม่บ้าน พร้อมกับดูแลแม่ของนายจ้าง วัย 85 ปี โดยทำงานมาได้ 6 เดือน ได้เงินเดือน 1 หมื่นบาท เริ่มงานในเดือนแรกก็ถูกนายจ้างลวนลามและพยายามอนาจาร ทำให้ตนทนไม่ได้เพราะนายจ้างพยามยามทำแบบนี้เรื่อยมาติดต่อกันหลายครั้ง จึงโทรปรึกษาแม่และแฟนหนุ่มชาวลาวด้วยกัน เพราะตนทนไม่ได้ในพฤติกรรมของนายจ้างคนนี้ ก่อนที่พี่ชายจะเดินทางมาช่วยเหลือในวันนี้
“นายจ้างฉวยโอกาสตอนที่ตนพาคุณย่าเข้าไปอาบน้ำ นายจ้างจะเข้าไปหาในห้องนอน และพยามลวนลาม พอตนไม่ยอมและปฏิเสธ พร้อมกับต่อว่านายจ้าง เขาก็จะพูดว่าหยอกเล่นเฉยๆ ตนพยายามจะขอลาออกไปทำงานที่อื่น แต่นายจ้างไม่ยอม และไม่เซ็นสัญญาเลิกจ้างให้ ซึ่งนายจ้างขู่ว่าหากออกไปหรือหลบหนีไป ตนจะมีความผิดสัญญาตามกฎหมาย จึงทำให้ตนทนอยู่มาถึง 6 เดือน ก่อนฟางเส้นสุดท้ายจะขาดในวันนี้”
ด้าน พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะให้พนักงานสอบสวนหญิง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ พมจ.อุดรธานี ทำการสอบปากผู้เสียหายในคดีนี้ ก่อนที่จะออกมาหมายเรียกนายจ้างที่ถูกกล่าวหา “กระทำอนาจาร” หลังได้สอบปากคำหญิงสาวชาวลาวที่ถูกนายจ้างลวนลาม และกระทำอนาจาร เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม-ธันวาคม แล้วหยุดไปช่วงหนึ่ง เพราะน้องเขาไม่ยินยอม แล้วโทรแจ้งพ่อแม่ที่อยู่ สปป.ลาว เพื่อขอความช่วยเหลือ
ช่วง 2-3 วันที่ผ่าน ก็ถูกกระทำอนาจารอีก ทำให้ทนไม่ไหว จึงได้พูดคุยกับนายจ้างเพื่อขอลาออก แต่นายจ้างไม่ยอม แม่ก็เลยโทรไปบอกลูกชายให้มาช่วยน้องสาว หลังจากนี้จะหาแนวทางกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือ หากผู้เสียหายประสงค์อยากทำงานต่อที่ จ.อุดรธานี รวมทั้งสิทธิสวัสดิการต่างๆ ที่ควรจะได้รับด้วย
ยุทธพงษ์ ดลสิริฤทธิกุล จ.อุดรธานี