หดหู่ หนุ่มสุรินทร์ ทิ้งจม.ลา ก่อนอุ้มลูกสาว 2 ขวบ 'ผูกคอ' ดับคู่คาบ้าน
หดหู่ใจ หนุ่มสุรินทร์ ทิ้งจดหมายขอลาตาย ขอโทษ ขออโหสิกรรม ก่อนอุ้มลูกสาว 2 ขวบ 'ผูกคอ' เสียชีวิตทั้งคู่ ญาติคาดปมเหตุจากปัญหาหนี้สิน และน้อยใจภรรยา
5 มี.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เทนมีย์ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุคนผูกคอตาย 2 ราย ภายในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ บ้านยาง ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ณัฐพล ศรีน้อย สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.เทนมีย์ และอาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ใช้เชือกไนล่อนสีขาวผูกคอห้อยกับฝ้าเพดานของห้องนอน โดยการงัดฝ้าเพดานให้แตกแล้วนำเชือกขึ้นไปผูกกับโครงสร้างหลังคาบ้าน แต่ที่น่าสลดใจเป็นอย่างมากก็คือ ผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นพ่อ และลูกสาววัยเพียง 2 ขวบ ทราบชื่อต่อมาคือนายรุ่งสว่าง (สงวนนามสกุล) หรือ หนิง อายุ 38 ปี และ ด.ญ.พิชญา หรือ น้องนิทาน อายุ 2 ขวบกว่า
ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่ามีเชือกผูกติดกับช่องลมภายในห้องน้ำ ซึ่งคาดว่าผู้เสียชีวิตอาจจะพยายามผูกคอฆ่าตัวตายก่อน แต่ไม่สำเร็จ ก่อนจะเข้ามาผูกภายในห้องนอนคู่กับลูกสาวอีกที รวมถึงพบจดหมายลาตายที่เขียนด้วยลายมือ ระบุว่า “xxพากันทำงานให้เสร็จนะจะได้ตัง จ่ายค่าแรงให้พ่อด้วย ที่เหลือxxเอาไว้ใช้นะ พ่อไม่มีแรงทำอะไรแล้ว ขอลาตาย บอกตากับยายด้วยพ่อขอโทษ พ่อมันผิดไปทุกอย่างแล้วก็ขอให้ทุกคนอโหสิกรรมให้พ่อด้วย ขอเป็นรักสุดท้าย อโหสิกรรมให้หนิงกับนิทานด้วนนะครับ ผมนายรุ่งสว่าง กับ เด็กหญิงพิชญา จะขอรักนางนงนุช (ภรรยา) ไปจนชั่วนิรัน”
นางมะลิ ญาติของภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตมีปัญหากับภรรยามาได้สักพักแล้ว รวมถึงเรื่องหนี้สิน ส่วนภรรยาก็หนีไปทำงานต่างจังหวัด โดยก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตก็ไม่เคยมาบ่นปัญหาอะไรให้ฟัง กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนไม่เห็นผู้ตายออกมาจากบ้านเลย เพราะปกติจะเห็นออกไปทำงานทุกวันตนรู้สึกผิดสังเกต จึงไปเคาะประตูเรียกก็ไม่มีใครออกมา จึงไปตามชาวบ้านให้มาช่วยกันงัดบ้านเข้าไปดู จึงพบว่าผูกคอเสียชีวิตกับลูกแล้ว
ด้านนางสาวมณีพร (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี น้องสาวภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตคิดจะฆ่าตัวตายมาหลายครั้งแล้ว แต่ภรรยาก็ไปเจอ และห้ามไว้ได้ทุกครั้ง ผู้เสียชีวิตกับภรรยาก็พยายามปรับจูนเข้าหากันหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จ จนภรรยาต้องแยกทางออกมา และไปทำงานที่กรุงเทพฯ ตนก็ไม่คิดว่าพี่เขยตนจะกลับมาฆ่าตัวตายอีก
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้กับลูกเพียง 2 คน และทางญาติก็พยายามจะขอเอาลูกแยกออกมาเพื่อจะดูแลให้ แต่ผู้เสียชีวิตไม่ยอม เพราะเขาเป็นคนรักลูกมาก ที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตพยายามทำร้ายตัวเเองคิดจะฆ่าตัวตายมาสักพักแล้วประมาณ 3 ครั้ง ทั้งพยายามผูกคอ และพยายามขับรถพุ่งลงคลอง แต่ญาติกับชาวบ้านมาเห็นเหตุการณ์ก็เลยช่วยไว้ได้ทันทุกครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 มาผูกคอไปพร้อมกับลูก
ทางด้านแพทย์เวรนิติเวชโรงพยาบาลสุรินทร์ได้ทำการชันสูตร ไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย มีเพียงร่องรอยของการถูกเชือกรัดที่คอ ซึ่งจากการชันสูตรคาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเสียชีวิตมาประมาณ 6 ชม. ซึ่งตรงกับที่เพื่อนบ้านเห็นว่าผู้เสียชีวิตขับรถออกจากบ้านไปช่วงเวลาประมาณตี 4 และขับกลับเข้ามาที่บ้านในช่วงเวลาประมาณประมาณตี 5 กว่า
นิติพงษ์ เสาะสิทธิ์ จ.สุรินทร์