"ไฟไหม้โรงงาน" กว่า 23 ชม. เพลิงยังไม่สงบ ยังคุมไม่ได้ 100% อพยพคนเกือบร้อยคน | คมชัดลึก

จากเหตุ "ไฟไหม้โรงงาน" ล่าสุด ตลอดคืนที่ผ่านมายังคงมีเปลวไฟลุกโชติช่วงอยู่เรื่อยๆ และมี เสียงระเบิด ดังแต่ไม่ถี่เท่าเมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา สำหรับเจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างทำงานกันอย่างไม่หยุด มีการปรับแผน การดับเพลิงตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยใช้โดรนตรวจจับความร้อน เพื่อดูปริมาณความร้อนในแต่ละจุดของโรงงานที่โดนไฟลุกไหม้ ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากฝ้าเพดานหรืออาคารถล่มใส่เจ้าหน้าที่กู้ภัยและดับเพลิง สามารถคุมเพลิงได้ แต่ยังไม่ 100%

 

 

นายกัฬชัย เทพวรชัย รอง ผวจ.ระยอง บอกว่า ขณะนี้ถือว่าเพลิงสงบลงกว่าเมื่อช่วงกลางวัน เปลวไฟเริ่มน้อยลงการระเบิดเริ่มน้อยลง คาดว่ายังมีการระเบิดอยู่น่าจะมาจากถังน้ำมัน 200 ลิตร ในตอนนี้เรามีการวางแผนและจะดับเพลิงโดยใช้โฟม แผนการคือจะเข้าไปชาร์จทีละจุด และมีการใช้น้ำฉีดเลี้ยงบริเวณรอบนอกไม่ให้เกิดการลุกลามมากขึ้น การที่เราเข้าไปดับเป็นจุดเพราะเราให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยกับนักดับเพลิงเพื่อจะได้ควบคุมได้ในแต่ละจุด ในตอนนี้ก็คาดว่าระยะเวลาในการดับน่าจะยืดออกไปอีก เพราะยังมีการระเบิดอยู่เป็นบางระยะ

 

สำหรับผู้ที่รับบาดเจ็บสาหัสนั้นยังมีการรายงาน จะมีนักดับเพลิงที่ได้รับสะเก็ดระเบิดเล็กน้อย สำหรับชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงรัศมีสี่กิโลได้ให้อพยพไปยังที่ อบต. จัดไว้ให้ เรียบร้อยแล้ว

 

 

ชาวบ้านจากพื้นที่ ต.บางบุตร และ ต.หนองบัว ต้องพากันอพยพ ทุกคนในครอบครัวออกจากบ้านไปพักอาศัยบ้านญาติพี่น้องที่อยู่ห่างไกลจากโรงงานวินโพรเสส ซึ่งเกิดเพลิงไหม้ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 22 เม.ย. จนค่ำคืนก็ยังดับเพลิงไม่ได้ ควันดำยังพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าตลอดเวลา

 

ขณะที่ชาวบ้านกว่า 100 คน ที่ไม่ได้ไปพักอาศัยบ้านญาติพี่น้อง ก็ต้องพาครอบครัวมาพักหลับนอน ที่ศูนย์อพยพ ซึ่งถูกจัดไว้ที่ อบต.บางบุตร และ อบต.หนองบัว ทั้งสองแห่งมีเจ้าหน้าที่ อบต. เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม.ในพื้นที่ เฝ้าดูแล อำนวยความสะดวก ตลอด 24 ชั่วโมง โดยผู้ป่วยติดเตียง และผู้มีอาการป่วย ได้รับการเคลื่อนย้ายเข้าพักที่โรงพยาบาลบ้านค่าย

 

ชาวบ้านบอกว่า เหตุการณ์ ไฟไหม้ ครั้งนี้ สร้างความหวั่นวิตก เพราะได้รับผลกระทบจากฝุ่นควันที่ลอยเต็มท้องฟ้า ต้องปิดบ้านเรือนแล้วหนีออกมา เพราะเกรงว่าหากผงฝุ่นตกลงมาถูกร่างกาย หรือสูดดมจะเกิดอันตรายได้ บางรายก็เริ่มมีอาการแสบจมูก แสบคอ

 

ส่วนสถานการณ์ดับเพลิงภายในโรงงาน เจ้าหน้าที่ได้ใช้โฟมฉีดเข้าในอาคาร ซึ่งมีเพลิงกำลังลุกไหม้ แต่ไม่สามารถดับไฟได้ ทำให้ต้องยุติการใช้โฟม ปรับมาใช้น้ำฉีดหล่อเย็น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการ ระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายพื้นที่ ยังต้องเข้าปฏิบัติหน้าที่ฉีดน้ำตลอดเวลา คาดว่าจะมีการปรับแผนกันอีกในช่วงเช้า

 

ส่วน อบต.บางบุตร ได้จัดรถกระจายเสียงประกาศเตือน ประชาชนในรัศมี รอบโรงงาน 3 กม. ให้อพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย และมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ดูแลด้านสุขภาพ หากประชาชนเกิดอาการเจ็บป่วยหรือต้องการความช่วยเหลือ

 

 

 

 

ภาพบางส่วนจาก : 61 ห้องอัศวินภัย