ตำรวจ-กงสุล หิ้ว 3 อินโดฯ ค้นบ้านเป้าหมาย หาความเชื่อมโยง "เสี่ยแป้ง" | คมชัดลึก

จากกรณีเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2567 ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษพัทลุง เจ้าหน้าที่สืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 เข้าช่วยเหลือนายชาวานา อายุ 29 ปี ชาวอินโดนีเซีย ซึ่งถูกอุ้มเรียกค่าไถ่ และนำตัวมากักขังไว้ที่บ้านของญาติเสี่ยแป้ง นาโหนด พื้นที่ ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง เนื่องจากพ่อค้ายาชาวอินโดนีเซีย ไม่สามารถหาเงิน 2 ล้านบาท มาจ่ายค่ายาเสพติดให้แก่เสี่ยแป้งได้ จึงให้เพื่อนร่วมแก๊งชื่อนายชาวาลา มาเป็นตัวประกัน ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าภายหลังทางการอินโดนีเซีย จับกุมเสี่ยแป้งได้เมื่อวานนี้ (30 พ.ค. 2567) ล่าสุด พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุง ได้นำตัวนายชาวาลา มาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาความเชื่อมโยงกับเสี่ยแป้ง เนื่องจากตำรวจสืบทราบว่า เสี่ยแป้งอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว มีการออกหมายจับผู้ต้องหาไป 4 ราย จับกุมได้ 2 ราย คือ นายปาน และดาบตำหญิงเพลินพิศ

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กงสุลอินโดเนียเซีย นำตัวชาวอินโดฯ 3 คน เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 9 ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง เนื่องจากพบข้อมูลว่าหลังเสี่ยแป้ง หลบหนีไปอินโดนีเซีย ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ มีการติดต่อซื้อขาย และลำเลียงยาเสพติดให้กับขบวนการค้ายาในประเทศอินโดเนียเซีย

โดยมีการส่งมอบยาเสพติดให้กับแก๊งค้ายาชาวอินโดฯ มาโดยตลอด ต่อมาแก๊งค้ายากลับเบี้ยวและไม่ยอมจ่ายเงิน จึงทำให้หัวหน้าแก๊งชาวอินโดฯ ส่งสมุนมือขวา จำนวน 3 คน เดินมายังประเทศไทย เพื่อใช้เป็นหลักประกันในการไถ่ถอนเงินจากการค้ายา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าว เบื้องต้นทราบว่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2567 "ด.ต.หญิง เพลินพิศ" ซึ่งถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ ได้เดินทางไปรับตัวชาวอินโดเนียเซีย ทั้ง 3 คน จากจังหวัดสงขลา มาพักที่บ้านหลังนี้ และสมุนของเสี่ยแป้ง ยังได้นำตัวชาวอินโดฯ ทั้ง 3 ไปพูดคุย กันที่บริเวณโต๊ะสนุกศาลาหลังบ้าน โดยตำรวจ และเจ้าหน้าที่กงสุล ได้ให้ชาวอินโดฯ ทั้ง 3 ราย ไปชี้จุดที่มีการพูดคุย และรีดเงินที่ค้างไว้ ตามคลิปที่เคยปรากฏเป็นข่าว รวมทั้งบ้านญาติของ "เสี่ยแป้ง" ในพื้นที่ ต.ท่าแค อำเภอเมือง จ.พัทลุง

จากการตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านของ สท.รายหนึ่ง ปัจจุบันเป็นมือขวา และมือทำงานให้กับ สส.จังหวัดแห่งหนึ่ง และจากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ ทราบว่าบ้านหลังนี้ไม่มีคนเข้าออกเป็นเวลานานหลายเดือน บริเวณรอบบ้านเป็นสวนยาง และสวนมังคุด ระแวกใกล้เคียงไม่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ ด้านนอกกำแพงซึ่งเชื่อมกับโต๊ะสนุกเกอร์ มีชิ้นส่วนของรองเท้า ทั้งเก่าและใหม่ เสื้อผ้า บุหรี่ต่างประเทศ รวมทั้งถุงยางอนามัย ที่แกะซองแล้ววางอยู่ด้วย