ป้าแจ้งจับอดีตกิ๊ก วัย 63 พาพวกฉุดแฟนลูกชายไปชำเรา
ป้าแจ้งจับอดีตกิ๊ก วัย 63 พาพวกฉุดแฟนลูกชาย พัฒนาการช้า ไปชำเราในป่า ด้าน ผู้ถูกกล่าวหา ยืนยันความบริสุทธิ์ ท้าดื่มน้ำสาบาน
3 มิ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.อุดรธานี ได้รับการร้องเรียนจาก นางปิยะ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ชาว ต.สุมเส้า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ว่า น.ส.บิว อายุ 27 ปี แฟนของลูกชาย ถูกนายไข่ อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นอดีตกิ๊กของตนเอง ฉุดขึ้นรถสามล้อ พาไปรุมโทรมพร้อมกับพรรคพวก 3 ราย บริเวณป่าสาธารณะหลัง อบต.นาข่า อ.เมือง ห่างจากจุดที่ถูกฉุดไปเกือบ 10 กิโลเมตร เบื้องต้นได้แจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี
น.ส.บิว ผู้เสียหาย เล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2567 ช่วงบ่าย ตนทะเลาะกับแฟนหนุ่ม จึงได้เก็บเสื้อผ้าใส่ลังกระดาษ เดินไปนั่งรอรถประจำทางอยู่ศาลาริมทาง บ้านนาคำหลวง แต่เมื่อดูแล้วว่าไม่มีรถ จึงเดินมาถึงทางแยกเข้าวัดป่าอัมพวัน ห่างจากจุดแรก 200 เมตร ตอนนั้นมีญาติแฟนหนุ่มโทรมาบอกว่าจะขับรถไปส่งสถานีรถไฟอุดรธานี บอกให้ตนยืนรออยู่ตรงนั้นอีก 20 นาทีจะไปรับ สักพักก็มีนายไข่ ที่ตนเรียกว่าพ่อ หรือ พ่อเลี้ยง ขับรถสามล้อเครื่องมาหา
ตอนนั้นนายไข่หว่านล้อม ว่าจะไปส่งเอง แต่ตนก็ปฏิเสธ จากนั้นเขาก็ใช้มือตบ ต่อยท้องตน บังคับให้ขึ้นรถ ตนจึงยอมขึ้นรถไป แล้วนายไข่ก็พาไปเส้นทางระหว่างหมู่บ้านที่เป็นทางเปลี่ยว ตอนนั้นเข้าก็ได้โทรบอกลูกน้องเขา 3 คน ให้ขี่รถจักรยานยนต์ตามมา ระหว่างทางตนพยายามจะกระโดดลงจากรถ แต่นายไข่ก็ชักมีดออกมาข่มขู่ ตนกลัวจึงไม่กล้าขัดขืนอะไร เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ นายไข่ขับรถเลี้ยวเข้าไปในป่า ลูกน้องเขาก็เลี้ยวตามเข้ามา ก่อนบังคับข่มขืนตน โดยนายไข่ลงมือคนแรก มีลูกน้องเขา 3 คน ช่วยกันจับไม่ให้ตนดิ้น
น.ส.บิว เล่าว่า ระหว่างที่นายไข่ ลงมือกระทำชำเรา ได้พูดกับตนว่า จะให้เงิน 500 บาท ให้ตนอมนกเขาให้ ตนไม่ยอม ก็ถูกต่อยท้อง และเอามีดจี้ หลังจากนั้นลูกน้องเขา 3 คน ก็ผลัดเปลี่ยนกันข่มขืนจนครบ ตนถูกทำร้ายอยู่นานหลายชั่วโมง เมื่อพวกเขาหนำใจแล้วลูกน้อง 3 คนก็หนีไป นายไข่ได้ข่มขู่ว่าห้ามไปบอกใคร ห้ามแจ้งตำรวจ แจ้งไปก็ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ ถ้าแจ้งจะกลับมาฆ่าให้ตายยกครัว แล้วเขาก็ขับรถสามล้อเครื่องหนีไป ตนจึงใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกมาจากป่า จนมาเจอพลเมืองดีขับรถจักรยานยนต์ผ่านมา เขาจึงพาไปส่งโรงพักเมืองอุดรธานี
ด้าน นางปิยะ เล่าว่า น.ส.บิว เป็นคนพิการทางสมอง มีพัฒนาการช้า แต่ก็คบหากับลูกชายตนได้ประมาณ 3 ปี ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนี้ ส่วนนายไข่ ตนรู้จักกันมาประมาณ 1 ปี รู้จักตอนไปทำงานก่อสร้างด้วยกัน เคยคบหากันช่วงสั้นๆ เมื่อรู้ว่าเขามีครอบครัวแล้วก็ตีตัวออกห่าง ที่สำคัญมารู้ทีหลังว่ามีพฤติกรรมไม่ดี เป็นคนเจ้าชู้ เป็นคนหื่น ซาดิสถ์ จีบผู้หญิงไปทั่ว ไม่สนว่าลูกใคร เมียใคร นายไข่จะจีบและมีสัมพันธ์ไปทั่ว เมื่อ 2 เดือนก่อนทะเลาะกันหนัก จนลูกชายมาช่วย เขาก็อาฆาตเอาไว้ แล้วออกจากบ้านไป เราก็ห่างกัน
วันเกิดเหตุตนไปช่วยขนทรายเข้าวัด พอกลับมาลูกชายก็บอกว่า น.ส.บิว หอบเสื้อผ้าหนีกลับบ้านไปแล้ว ตนก็บอกให้โทร ลูกก็บอกเดี๋ยวค่ำๆ ค่อยโทร สักพักลูกชายก็ออกไปตามหาแต่ก็เจอ จนประมาณ 21.30 น. เพื่อนรุ่นพี่โทรมาบอกว่า น.ส.บิว โทรมาหา ได้ยินแต่เสียงผู้ชายหลายคนอยู่รอบๆ อาจจะเกิดเรื่องร้าย จึงออกตามหาอีกครั้ง จนมารู้อีกครั้งว่าตำรวจพาไปที่โรงพัก จนเช้าได้พาไปสถานีรถไฟ เพราะ น.ส.บิว ไม่ได้พูดความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น จนรถไฟไปถึงขอนแก่นแล้ว ลูกชายจึงโทรหาอีกครั้ง พอเขากลับมาก็พาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล จนอีกวันถึงเข้าไปแจ้งความกับตำรวจ
นางปิยะ เล่าอีกว่า หลังเกิดเหตุนายไข่ ก็ยังลอยนวลอยู่ แต่ไม่กล้าเข้ามาที่บ้านอีก ตอนนี้ยังรอผลตรวจร่างกายอยู่ โรงพยาบาลนัดวันที่ 10 มิ.ย. นี้ แต่ยังกังวลในความปลอดภัย เพราะนายไข่มีพรรคพวกเยอะ เขาเป็นคน จ.นครพนม มาได้ครอบครัวที่นี่ อยู่ที่นี่นานหลาย 10 ปี จนลูกเต้าโตกันหมดแล้ว อยากให้จับกุมนายไข่ เพราะเป็นบุคคลอันตราย ชอบข่มขู่คนอื่น ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิง หากใครรู้เขาจะขู่ฆ่าทันที กลับตนก็ยังไม่เว้น ชอบใช้กำลังตบตี ตนก็ไม่ได้อยากอยู่ด้วย แต่เขาตัวใหญ่แรงเยอะ เป็นสิ่งที่ยังกังวลอยู่ เพราะกลัวไม่ปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นายไข่ ผู้ถูกกล่าวหา ยอมรับว่าเคยคบหากับนางปิยะ จริง และเลิกรากันเมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา นางปิยะ เป็นคนขี้หึง ตนจะไปทำงานก็คิดแต่ว่าตนจะไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น กล่าวหาว่าตนเจ้าชู้ มีผู้หญิงเยอะ ตนทนไม่ได้ก็เลยเลิกกัน แล้วกลับมาอยู่กับภรรยา ที่เขากล่าวหาตนว่าไปข่มขืนลูกสะใภ้เขา คิดว่าคงเกิดจากความแค้นที่ตนเลิกกับเขาไป ยืนยันว่าไม่เคยแตะเนื้อต้องตัว น.ส.บิวเลย ตนยินดีให้พิสูจน์ความจริง ตนบริสุทธิ์ใจ
ที่ผ่านมานางปิยะ เขาก็กล่าวหาตนว่ามีคนอื่นมาตลอด ครั้งนี้ก็เช่นกัน ถ้าพิสูจน์แล้วว่าตนบริสุทธิ์ ตนก็จะขอฟ้องร้องกลับคืนเช่นกัน วันที่เขาไล่ น.ส.บิวออกมาจากบ้าน ตนก็เห็นเขาออกมานั่งรอรถริมทาง น.ส.บิว ต่างหากที่อ้อนวอนตนให้ไปส่ง แต่ตนก็ไม่ได้ไปส่ง อยากให้มาคุยกันต่อหน้า ตนกล้าท้าให้มากินน้ำสาบานไปพร้อมกันเลย อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะกล้าหรือไม่ ตนพร้อมพิสูจน์ความจริง พร้อมชี้แจงทุกอย่าง แต่ก็ยังไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่ติดต่ออะไรมาเลย