ลุงบุญยืน จูมลี อายุ 63 ปี อยู่ที่บ้านน้อยนาดี ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ตามที่สื่อนำเสนอภาพข่าวไปวันนี้เดินขึ้นโรงพัก สภ.ท่าตะเกียบ โดย นายพงษ์ชัย นามไพ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตะเกียบเป็นผู้นำมาพบ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ โลหะเวช ผู้กำกับสถานี้ตำรวจภูธท่าตะเกียบ เพื่อจะขอปรึกษาว่าทำไม ธกส. อายัด "เงินผู้สูงอายุ" ซึ่งเป็นเงินสิทธิชอบธรรมในฐานะคนไทยสูงวัยที่รัฐบาลจัดสรร ต้องได้เดือนละ 600 บาท
บรรยากาศที่โรงพัก มี นายบุญนาค พรพจน์ธนมาศ นายก อบต.คลองตะเกรา ในฐานะ ประธาน กกตร.ท่าตะเกียบ มายืนรอร่วมรับฟังทุกข์ชาวบ้าน โดยได้ขึ้นไปชั้น 2 ที่ห้อง ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรท่าตะเกียบ มี นายอำนวย เกษตรสินธุ์นุกูล นายอำเภอท่าตะเกียบ พ.ต.ท.มนัสจันทวาส รอง ผกก.(ป.) ปลัดฝ่ายความมั่นคงท่าตะเกียบ ผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ ธกส.ท่าตะเกียบ พร้อมทีมผู้สื่อข่าว ร่วมพูดคุยตรวจสอบที่ในช่วงแรกบรรยากาศตึงเครียด
ด้วยทางฝ่ายปกครองตั้งคำถาม ธกส. ใช้หตุผลไหนมาอายัด "เงินผู้สูงอายุ" เพราะเป็นเงินมีที่มาที่ไป ธกส. บอกว่า เป็นคำสั่งจาก สำนักงานใหญ่ หากจะเบิกต้องทำเรื่องขออำนาจศาล เพราะกรมบังคับคดีได้ดำเนินการขั้นตอนกฎหมาย เวลาผ่านไปหลังพูดคุยจนได้ข้อสรุปว่า ธกส. จะทำการปลดล็อค สามารถให้ลุงเบิกเงินตามสิทธิได้ บรรยากาศเริ่มผ่อนคลาย
ขณะที่ นายอำนวย เกษตรสินธุ์นุกูล นายอำเภอท่าตะเกียบ ได้ตั้งข้อสังเกตเชิงสงสัยว่า ลุงบุญยืน เป็นชาวบ้านธรรมดา จริงๆ หน่วยงานก่อนจะอายัดบัญชี น่าจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และยิ่งเมื่อทราบว่านายทุนมาหลอกให้ลงเปิดบัญชีจนเกิดเป็นคดีระหว่าง กรมสรรพกร กับ ลุงบุญยืน วงเงินกว่า 20 ล้านบาท ทำให้รัฐฯ ได้รับความเสียหาย ควรจะไปตรวจสอบติดตามนายทุนหรือไม่
ซึ่งทาง พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ โลหะเวช ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรท่าตะเกียบ ก็รับเรื่อง ตามคำบอกเล่าที่พูดมาจาก ลุงบุญยืน ว่า เมื่อเกือบ 20 ปี ถูกหญิงที่มีอายุน้อยกว่าตนประมาณ 3 ปี เป็นคนภาคเหนือหลอกให้เปิดบัญชีที่ อ.นายาอาม จ.จันทบุรี และเคยไปเซ็นเบิกเงินให้ยอดสูงสุดคือครั้งละ 5 ล้าน ตนก็ได้ค่าไปเซ็นเบิกในฐานะเจ้าของบัญชีได้เงินครั้งละ 200-300 บาทเท่านั้น
หลังจากประชุมได้ข้อสรุปที่โรงพักท่าตะเกียบ ธกส. จะปลดล็อคตั้งเบิก "เงินผู้สูงอายุ" ให้ ส่วนทางคดีท่านนายอำเภอท่าตะเกียบ ก็บอกว่าต้องเป็นไปตามกฎหมาย โดยทางปลัดฝ่ายความมั่นคงท่าตะเกียบจะเป็นธุระในเรื่องประสานขั้นตอนขึ้นพบศาลนัดแรก จากนั้นนายอำนวย เกษตรสินธ์กูล นายอำเภอท่าตะเกียบ ก็พา ลุงบุญยืน จูมลี เดินทางเข้า ธกส.ท่าตะเกียบ เพื่อเบิกเงินตามสิทธิ มีรองผู้จัดการ ธกส.ท่าตะเกียบ มาดูแลตามขั้นตอน
ลุงบุญยืน ยิ้มเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ดีใจมากรอคอย เงินผู้สูงอายุ มาถึง 4 ปี คืนนี้หลังจากเบิกเป็นเงินจำนวน 4,000 บาท จากยอดสะสมจริง 2 หมื่นกว่าบาท ตนจะนำไปนอนกอด 1 คืน และจะไปซื้อเตาแก๊ส เพราะลำบากเหลือเกินที่ต้องก่อไฟเตาถ่านหุงข้าว ลุงบุญยืน รับเงินเสร็จก็ได้กล่าวขอบคุณนายอำเภอท่าตะเกียบ ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น และ ธกส.ที่ทำให้ได้จับเงินตามสิทธิผู้สูงอายุ พร้อมมอบพัดลม ลุงบุญยืน ยังบอกว่าขอขอบคุณผู้สื่อข่าว และสื่อทุกสำนักที่ร่วมนำเสนอภาพข่าวจนได้รับความเมตตา ส่วนทางคดีก็วิงวอนหน่วยงานตรงเห็นใจเข้าใจตน ขอให้จบสักที ด้าน นายอำเภอท่าตะเกียบ ก็เตรียมประสานหน่วยงาน พม.ฉะเชิงเทรา กาชาด หน่วยงานต่างๆ ร่วมลงพื้นที่บ้านลุงบุญยืนเพื่อให้การเยียวยาต่อไป
โดย : สราวุฒิ บุญสร้าง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง