ข่าว

ผัวช็อก เปิดบ้านเจอเมียค้างสายชายอื่น ง้างแข้งฟาดน่วม เมียอ้างแค่เพื่อน

ผัวช็อก เปิดบ้านเจอเมียค้างสายชายอื่น ง้างแข้งฟาดน่วม เมียอ้างแค่เพื่อน

18 มิ.ย. 2567

โอละพ่อ เมีย โพสต์ ถูกผัวซ้อมนานนับชั่วโมง หวิดดับคาแข้งต่อหน้าลูก ฟังผัวเล่าอีกมุม สาเหตุพลั้งมือตบเมีย เหตุช็อก เข้าบ้านมาเจอเมียคอลค้างสายชายอื่น

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "เจ๊อันอัน บ้านไร่" โพสต์รูปผู้หญิงหน้าบวมเต่งและมีเลือดออกที่ใบหน้าและตา พร้อมระบุข้อความ "เพจไหนใจดีมาทำข่าวได้ เลย ถ้าไม่มีพลเมืองใจดี ได้ยินกูร้องขอชีวิตนานเป็น ชั่วโมงกูคงตายไปแล้ว คืน นั้น ลูกคนเล็กก็แอบดูแอบ ร้องไห้ ช่วยอะไรไม่ได้เลย เพราะกลัวถูกทำร้ายอีกคน กูถูกล็อคประตูห้อง 2 ชั้น และถูกทุบตี ไม่มีทางวิ่งไม่มี ทางหนี พอหนีออกมาได้ ก็ ถูกลากไปทำร้ายซ้ำๆ จน ร้องขอชีวิต ยกมือไหว้ สารพัด แต่ก็ยังทุบตี ต่อย ตบ แตะ นับครั้งไม่ถ้วน" 

 

ล่าสุดวัน 17 มิ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ น.ส.อัญชลี หรือ น.ส.อันอัน ใช่ฮ่ะ อายุ 37 ปี เจ้าของโพสต์และผู้เสียหายที่อยู่ในภาพดังกล่าว ซึ่งเธอกำลังเดินทางมาตรวจร่างกายและดวงตาที่โรงพยาบาลราชบุรี ซึ่งเธอเล่าว่า วันที่เกิดเหตุเป็นคือวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.00 น. เธอได้หลับคาวีดีโอคอลแชทกับเพื่อนผู้ชาย 

 

ซึ่งไม่ได้พูดคุยเป็นเพื่อนกัน พอสามีกลับมาเห็นก็เกิดการเข้าใจผิดและหึงหวงเธอ จนมีปากเสียงและทะเลาะกัน ลามไปถึงขั้นตบ ชกต่อย และเตะ ทำร้ายร่างกายเธอนานนับชั่วโมง ต่อหน้าลูกสาวอายุ 13 ปี ที่แอบอยู่ภายในอีกห้อง โดยไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเธอได้ และเธอไม่สามารถหนีออกไปไหนได้ จนลูกสาวของเธอได้แอบโทรไปแจ้งจนท.ตำรวจ ให้มาช่วยเหลือเธอและพาเธอไปโรงพยาบาล ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณใบหน้าและดวงตา 

 

ที่ผ่านมาสามีของเธอไม่ได้ทำร้ายร่างกายเธอ แต่จะทะเลาะมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่หนักที่สุด เพราะถึงขั้นทำร้ายร่างกายเธอจนบาดเจ็บสาหัส 

 

ผัวช็อก เปิดบ้านเจอเมียค้างสายชายอื่น ง้างแข้งฟาดน่วม เมียอ้างแค่เพื่อน

ส่วนสาเหตุที่สามีของเธอทำร้ายร่างการเธอ น่าจะเกิดจากความเข้าใจผิดจากความหึงหวง เพราะเห็นเธอคอลคุยกับเพื่อนผู้ชาย ซึ่งเธอกับสามีอยู่กินกันมา 9 ปี สามีจะเป็นคนเฉยๆ ไม่ได้ใช้ความรุนแรงอะไรมากมาย แต่ครั้งนี้งงว่าทำไมถึงทำรุนแรงขนาดนี้ ถึงแม้เธอจะผิดตามความเข้าใจของสามี ก็น่าจะเลิกลากันด้วยดี ไม่น่าทำร้ายร่างกายเธอรุนแรงถึงขั้นปางตายขนาดนี้ โดยเธอสงสารลูกสาวคนเล็กมาก ที่เห็นเธอถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตา ทำให้ลูกสาวของเธอมีอาการหวาดกลัวจนมาถึงทุกวันนี้ 

 

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เธอได้ไปแจ้งความกับทาง สภ.เมืองราชบุรี ไว้แล้ว และจะขอเลิกกับสามีโดยเด็ดขาด ไม่ขอกลับมายุ่งข้องเกี่ยวกันอีก แม้ทางฝ่ายสามีของเธอจะมาขอโทษและขอคืนดีก็ตาม 

 

ส่วนทางคดีปล่อยให้เป็นไปตามกฏหมาย ส่วนเหตุผลที่เธอได้นำเรื่องราวของตัวเองมาโพสต์ เพราะต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตนเอง เพราะเธอเป็นฝ่ายถูกทำร้าย แต่กลับถูกฝ่ายครอบครัวสามี มาพูดจาเยาะเย้ย ดูถูกเหยียดหยามเธอ เพราะถึงแม้เธอจะทำผิดเธอก็ไม่สมควรถูกทำร้ายร่างกายถึงขั้นปางตายขนาดนี้ 

 

ผัวช็อก เปิดบ้านเจอเมียค้างสายชายอื่น ง้างแข้งฟาดน่วม เมียอ้างแค่เพื่อน
 

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังแถวบ้านที่เกิดเหตุ และได้สอบถาม ป้าแจ๋ว อายุ 69 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน โดยให้ข้อมูลว่า คืนเกิดเหตุ ป้าแจ๋ว ได้ยินเสียงดังคล้ายคนเถียงกัน จนเข้าใจว่าครอบครัวของ อันอัน มาที่บ้านพูดคุยกัน ไม่ได้คิดว่าทะเลาะ นายเบิร์ด กับ อันอัน ทะเลาะกันถึงขั้นทำร้ายร่างกายกัน มารู้ความจริงอีกทีคือตอนที่จนท.ตำรวจมาส่องไฟหน้าบ้าน และพา อันอัน ผู้บาดเจ็บไปที่โรงพยาบาล 

 

เธอยังเข้าไปพูดคุยกับ นายเบิร์ด ฝ่ายสามีผู้บาดเจ็บอยู่เลย ว่าทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร ซึ่งที่ผ่านมา อันอัน ฝ่ายหญิงไม่ค่อยออกมายุ่งวุ่นวายกับใคร ส่วนนายเบิร์ด ก็ขยันทำมาหากิน อัธยาศัยดี พูดคุยกับเพื่อนบ้าน ไม่ได้มีนิสัยก้าวร้าวหรือรุนแรงอะไร และไม่ค่อยมีปัญหากับเพื่อนบ้าน ป้าแจ๋ว จึงไม่รู้ว่าอะไรเป็นปัญหาทำให้ นายเบิร์ด ลงมือทำร้ายร่างกายแฟนตัวเองแบบนี้ 

 

โดยปกติทั้ง อันอัน และ เบิร์ค จะไม่ค่อยไปยุ่งเกี่ยวกับใคร ทำให้เพื่อนบ้านไม่มีใครรู้ว่า ทะเลาะกันเรื่องอะไร เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัวเขา ส่วนเรื่องที่ นายเบิร์ด ทำร้ายร่างกาย อันอัน เป็นชั่วโมงนั้น ป้าแจ๋ว ไม่ทราบ เพราะมาได้ยินเสียงไม่นาน จนท.ตำรวจก็มาแล้ว 

 

ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเข้าบ้านเกิดเหตุ เพื่อเช็คว่า นายเบิร์ด ได้ทำร้ายร่างกาย น.ส.อันอัน แฟนสาว จริงหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่ตามเส้นทางไม่มีบ้านไหนติดกล้องวงจรปิด มีเพียงชาวบ้านให้ข้อมูลว่า แฟนสาวของ นายเบิร์ด เป็นแม่บ้านอยู่กับบ้านไม่ได้ทำงานอะไร ส่วน นายเบิร์ด เป็นคนขยันทำมาหากิน และดูแลภรรยาสาวและครอบครัวแฟนสาวเป็นอย่างดี 

 

โดย นายเบิร์ด จะสั่งร้านทุกร้านที่อยู่ใกล้บ้าน ถ้าแฟนสาวและครอบครัวแฟนสาวมาสั่งซื้ออะไร ไม่ว่าจะเป็นของใช้และของกิน ให้ทางร้านให้ไป แล้วนายเบิร์ด จะมาจ่ายให้หลังกลับมาจากทำงาน 

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ นายเบิร์ด อายุ 37 ปี สามีของ น.ส.อันอัน และเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย โดยได้เปิดใจว่า ก่อนวันเกิดเหตุ น.ส.อันอัน ภรรยาสาว ได้หนีออกจากบ้านไป 3 วัน โดยตนไม่สามารถติดต่อได้ 

 

จนวันที่เกิดเหตุตนได้กลับมาจากทำงาน แต่เข้าบ้านไม่ได้เพราะบ้านล็อค จนตนโทรหาภรรยาสาวก็ไม่ติด ตะโกนเรียกก็ไม่มีใครตอบ ตนจึงตัดสินใจปีนเข้าบ้านทางหน้าต่าง เมื่อเข้าไปในบ้านตนก็พบว่าภรรยานอนหลับคาโทรศัพท์ ที่ยังวีดีโอคอลคุยกับชายอื่น ซึ่งตนยืนฟังอยู่นานสองนานจนทราบว่า ภรรยาของตนนอกใจ พอตนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะดูหน้าผู้ชาย ฝ่ายชายก็รีบวางสายไปทันที ตนจึงปลุกภรรยาตื่นเพื่อสอบถามเรื่องราว 

 

พอภรรยาตื่นขึ้นมาก็ตกใจสุดขีดเมื่อเห็นตน และรีบมายื้อแย่งโทรศัพท์จากมือตน ซึ่งตนขอให้ภรรยาปลดล็อคโทรศัพท์ให้ เพื่อจะดูว่าภรรยาคุยอะไรกับฝ่ายชายบ้าง แต่ภรรยาไม่ยอมปลดล็อคให้ โดยความโมโหตนจึงจับหัวให้เขาสแกนหน้าที่โทรศัพท์ แต่ภรรยาก็เอามือปิดหน้า จนตนโมโหมากและพลั้งมือตบและชกเข้าไปที่หน้าของภรรยา 

 

ตนยอมรับอย่างลูกผู้ชาย ว่าตนผิดจริงที่ทำร้ายภรรยา แต่เนื่องด้วยความโมโห ที่ตนจับได้ว่าภรรยาของตน นอกใจคุยกับชายอื่นมาถึงสามครั้ง ถ้าเป็นคุณทำงานกลับมาเหนื่อยๆ แล้วเจอแบบตนจนทนไหวไหม จนต่อมาจนท.ตำรวจได้มาระงับเหตุ ภรรยาของตนยังพูดหน้าตาเฉยต่อหน้าตำรวจว่า "ถ้ายอมรับความจริง ตอนนั้น เธอก็ฆ่าฉันตายน่ะสิ" ทางตำรวจยังมาปลอบใจตนเลย

 

ในตอนนั้น ตนยอมรับว่าตนเสียใจมากที่ทำร้ายภรรยา และได้ขอโทษภรรยาไปแล้ว เพราะที่ผ่านมาตนกล้ายืนยันว่า ไม่เคยทำร้ายภรรยา แม้จับได้ว่านอกใจแอบคุยกับผู้ชายอื่น ซึ่งที่ผ่านมาตนอยู่กินกับภรรยามา 9 ปี ภรรยามีพฤติกรรมหายออกจากบ้านไป 3 - 4 วัน แล้วติดต่อไม่ได้เกือบ 20 ครั้ง 

 

ครั้งแรกที่ตนจับได้ว่าภรรยานอกใจ ภรรยาของตนไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น ซึ่งภรรยายังยอมรับออกมาเอง ตนก็ยังให้อภัยและขอไม่ให้ทำ แต่สุดท้ายก็มาจับได้ครั้งที่ 2 ตอนจีบกับผู้ชายมีอายุใน Tiktok ซึ่งภรรยาบอกตนว่า ไม่ได้คิดจริงใจอะไร แต่จะหลอกเอาเงินฝ่ายชาย 2 หมื่นบาทเท่านั้น 

 

จนมาครั้งนี้ ตนได้ยินกับหูได้เห็นกับตา ถ้าเป็นคุณจะทนไหวไหมตนอยากถาม เพราะที่อยู่กินด้วกันมาตนดูแลทั้งภรรยาและครอบครัวของภรรยาเป็นอย่างดี ไม่ได้ให้ไปทำงานการอะไรเลย ตนเป็นฝ่ายหาเลี้ยงทุกคน ทั้งยังใช้หนี้เดือนละกว่า 6 พันบาทให้ภรรยาด้วย ส่วนบ้านหลังที่อยู่ตนกับแม่ก็กลัวภรรยากับแม่ของภรรยาไม่มีบ้านอยู่ เพราะเอาบ้านไปจำกับพวกปล่อยเงินกู้ดอกลอย จนตนกับแม่ไปขอชดใช้และเอาบ้านกลับมาเข้าระบบธนาคารให้ผ่อน จนสุดท้ายตนกับแม่ถูกธนาคารฟ้องถึง 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่กำลังจะถูกธนาคารฟ้อง รวมทั้งชดใช้หนี้อื่นๆ ให้ภรรยา ทั้งดูแลค่าใช้จ่ายในบ้านเกือบทั้งหมด แล้วตนผิดหรือบกพร่องตนไหนถึงมานอกใจตนครั้งแล้วครั้งเล่า 

 

ส่วนเรื่องที่ภรรยาของตนบอกว่า ตนทำร้ายร่างกายภรรยานานเป็นชั่วโมง ชกต่อยภรรยาเป็นสิบยี่สิบครั้งไม่เป็นความจริง อยากให้สังคมคิดตามตนว่า ร่างกายตนใหญ่โตขนาดไหน ถ้าตนทำร้ายร่างกายนานนับชั่วโมง ภรรยาของตนไม่สลบหรือตายไปแล้วหรือไม่ ซึ่งตนเคยจับได้ถึง 2 ครั้งแล้ว ก็ให้โอกาสมาตลอด แต่ครั้งนี้ตนไม่ไหวจริงๆ ถึงได้ลงมือทำร้ายรุนแรงขนาดนี้ 

 

หลังจากเกิดเหตุนี้ตนได้โทรไปขอโทษกับเขา ที่ทำรุนแรงจนเขาบาดเจ็บ แต่คงไม่กลับไปคืนดีกันอีกแล้ว ส่วนเรื่องที่เขาโพสต์รูปเลือดหยดในบ้านนั้น เลือดนั้นเป็นเลือดตนที่นิ้วเท้ากระแทกกับพัดลมตอนตนทะเลาะกัน ไม่ใช่เลือดของภรรยา 

 

ขณะที่ ป้าใบ (นามสมมุติ) แม่ค้าร้านขายอาหารตามสั่งในหมู่บ้านเล่าว่า ทุกเช้านายเบิร์ด จะสั่งว่าถ้าภรรยาและครอบครัว มาสั่งอะไรกินให้ทำไปส่งแล้วตอนเย็นจะกลับมาจ่ายเงินเอง รวมถึงค่าซื้อของใช้ต่างๆ นายเบิร์ดจะเป็นคนออกเงินเองทั้งหมด ซึ่งนายเบิร์ดจะเป็นคนนิสัยดี ไม่มีปัญหากับใคร เช้าออกไปทำงานเย็นก็กลับเข้าบ้าน ไม่มีนิสัยเกเรหรือใช้รุนแรง 

 

ในความคิดส่วนตัวของเธอยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่า นายเบิร์ดจะทำร้ายร่างกายภรรยา ยิ่งบอกว่าทำร้ายเป็นชั่วโมงๆ ยิ่งไม่น่าใช่ ส่วนภรรยาเขาไม่เคยออกมาสุงสิงกับใคร จะอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น 

 

ส่วนเรื่องที่เขาทะเลาะกันนั้น ไม่มีเพื่อนบ้านคนไหนรู้เรื่องว่าสาเหตุเกิดมาจากอะไร คนในหมู่บ้านจะรู้แค่ว่า นายเบิร์ด รักภรรยามาก ซึ่งหลังเกิดเหตุทุกคนยังไม่มีใครเชื่อเลยว่า นายเบิร์ด ลงมือทำร้ายภรรยาตัวเอง เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่า นายเบิร์ด รักภรรยาและครอบครัวภรรยามาก 

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง สภ.เมืองราชบุรี เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี ซึ่งพ.ต.ท.ประมาณ ปลาทอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองราชบุรี เจ้าของคดีให้ข้อมูลว่า หลังจากเกิดเหตุทางจนท.ตำรวจ ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว และได้พาผู้เสียหายไปตรวจร่างกายและรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ที่ยังไม่เรียกสอบเพราะรอให้อาการฝ่ายหญิงทุเลา ถึงจะเรียกทั้งผู้เสียหาย และผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำอย่างละเอียด ซึ่งตอนนี้รอผลตรวจจากทางแพทย์ เพื่อประกอบสำนวนคดี และดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป.