ข่าว

จับลูกชายผู้ใหญ่บ้าน ขายยาบ้าในชุมชน นายอำเภอน้ำพอง ตั้งกรรมการสอบพ่อ

จับลูกชายผู้ใหญ่บ้าน ขายยาบ้าในชุมชน ยึดทรัพย์สินกว่า 4 ล้าน ด้าน นายอำเภอน้ำพอง ตั้งกรรมการสอบพ่อ อ้าง คุมพฤติกรรมลูกชายไม่ได้ แต่ไม่เคยแจ้งตำรวจ

21 มิ.ย. 2567 เมื่อเวลา 06.00 น. ชุดสืบสวน สภ.น้ำพอง พร้อมด้วยฝ่ายปกครองอำเภอเมืองขอนแก่น นำหมายค้นศาลจังหวัดขอนแก่น เข้าตรวจค้นบ้านพัก บ้านนายกิตติช (สงวนนามสกุล) หรือ โค้ช อายุ 32 ปี ลูกชายของผู้ใหญ่บ้าน บ้านโนนหัวช้าง หมู่ 13 ต.บัวใหญ่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น

หลังสืบทราบว่านายกิตติช มีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดให้กับเยาวชนในพื้นที่ จากการตรวจค้นภายในห้องนอน พบยาบ้า 1,034 เม็ด นอกจากนี้ยังตรวจยึดของกลางอีกหลายรายการ ประกอบด้วย รถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์ รถจักรยานยนต์ 8 คัน สร้อยคอทองรูปพรรณ สร้อยข้อมือทองรูปพรรณ รวมทรัพย์สิน 13 รายการ มูลค่า 4,000,000 บาท

จับลูกชายผู้ใหญ่บ้าน ขายยาบ้าในชุมชน นายอำเภอน้ำพอง ตั้งกรรมการสอบพ่อ

พ.ต.อ ชุมพล บัวชุม ผกก.สภ.น้ำพอง กล่าวว่า จากการสอบสวนนายโค้ช ให้การรับสารภาพว่า ซื้อยาบ้ามาจากนายโก้ ชาวลาว โดยติดต่อกันผ่านเฟซบุ๊ก และนายโก้ จะส่งเลขบัญชีมาให้โอนเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็ม แต่ละครั้งเลขบัญชีจะไม่ซ้ำกัน เมื่อโอนเสร็จนายโก้จะสั่งให้ลบแชทออก โดยนายโค้ช จะซื้อยาบ้าครั้งละ 1 มัด หรือประมาณ 2 พันเม็ด ราคา 2 พันบาท ซื้อมาทั้งหมด 5 ครั้ง เริ่มทำตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ครั้งล่าสุดเมื่อ 10 มิ.ย.

โดยนายโก้ ให้คนมาวางยาบ้าจำนวน 1 มัด บริเวณเสาไฟฟ้าริมถนนบ้านคำแก่นคูณน้อย ถนนเส้นทาง อำเภอน้ำพอง - อำเภออุบลรัตน์ ก่อนที่นายโค้ช จะนำยาบ้ามาจำหน่ายให้กับวัยรุ่นในหมู่บ้าน ราคาเม็ดละ 50 บาท กระทั่งถูกจับกุมได้

เบื้องต้นแจ้งข้อหา "จำหน่ายโดยมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อกระทำเพื่อการค้า และหรือก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

จับลูกชายผู้ใหญ่บ้าน ขายยาบ้าในชุมชน นายอำเภอน้ำพอง ตั้งกรรมการสอบพ่อ

ด้าน นายกรชวาลวิชญ์ ชัยพีรวัส นายอำเภอน้ำพอง กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงผู้ใหญ่บ้าน พ่อของผู้ต้องหาแล้ว คาดว่าจะทราบผลภายใน 2 วันนี้ ส่วนหลังเกิดเหตุผู้ใหญ่บ้าน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง นายอำเภอน้ำพอง ระบุว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางอำเภอไม่สามารถให้ลาออกได้ เนื่องจากต้องมีการดำเนินการตามวินัยผู้ใหญ่บ้าน

ถามว่าผู้ใหญ่บ้านมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่นั้น นายอำเภอฯ กล่าวว่า จะต้องสอบสวนอย่างละเอียด แต่ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้นำชุมชน ถือว่ามีความบกพร่องต่อหน้าที่ เพิกเฉยต่อการกระทำผิดกฎหมาย ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าคนในครอบครัวทำผิดกฎหมาย จึงจะต้องดำเนินการเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง แม้ผู้ใหญ่บ้านจะบอกว่า ไม่สามารถบอกกล่าวหรือควบคุมลูกชายตนเองได้ แต่ตลอดระยะเวลาที่ลูกชายมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด กลับไม่เคยรายงานให้ฝ่ายปกครอง หรือตำรวจรับทราบ