เหยื่อกระสุน วัยรุ่นต่างถิ่น รับมองหน้าเขม่นกัน ก่อนปาระเบิดสาดกระสุนยิงเข้าใส่อริ สาหัส | คมชัดลึก

ตำรวจ สภ.ปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ คุมตัวเยาวชน อายุ 17-18  จำนวน 2 คน ทั้งคู่เป็นชาวอำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ หลังก่อเหตุใช้ระเบิดทำเองขว้าง และสาดกระสุนใส่กลุ่มวัยรุ่น ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ เป็นเหตุให้เด็กชาย อายุ 13 ปีกระสุนฝังในปากทะลุแก้ม บาดเจ็บสาหัส  เหตุเกิดขึ้นบริเวณหน้าร้านซ่อมไดนาโม ริมถนนสายบ้านไทยเจริญ-โคกสมบูรณ์ จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา 



ต่อมาตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านเยาวชน อายุ 17-18 ปี  2 คน ภายในบ้านพบปืนยาวไทยประดิษฐ์ 2 กระบอกซ่อนอยู่ในห้องครัวบ้านของเยาวชนรายหนึ่ง ที่เป็นคนยิง คนยิง จึงนำตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.ปะคำ  พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA เวฟ สีเทา ทะเบียน 1กว 6311 บุรีรัมย์ ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุมาตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมคุมตัวชี้จุดเกิดเหตุ 


 

ตำรวจสภ.ปะคำ คุมตัวทั้งสองเยาวชน ชี้จุดเกิดเหตุ โดย เยาวชน อายุ 18 ปี  ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มพวกตนซึ่งอยู่ตำบลไทยเจริญ เขม่นกันกับกลุ่มวัยรุ่น ตำบลโคกมะม่วง อำเภอเดียวกัน คืออำเภอปะคำ


คืนวันเกิดเหตุตนกับเพื่อนเห็นกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในพื้นที่ จึงนัดเพื่อนรีบออกมาดักอยู่ที่ปากทาง พร้อมอาวุธครบมือ เมื่อเห็นคู่อริขี่รถจักรยานยนต์ออกมา จึงส่งสัญญาณให้ นายชิษณุพงศ์ อายุ 17 ปี เป็นคนปาระเบิด  ขณะที่เยาวชนอายุ 18 ปี ถืออาวุธปืนรออยู่แล้วยิงใส่ไปหลายนัดแต่ไม่รู้ว่าถูกใครบ้าง ก่อนจะกลับบ้านนำปืนมาซุกซ่อนไว้ 
แต่ไม่คิดว่าตำรวจจะรู้ตัวเร็วขนาดนี้ 

สอบถามเพื่อนเด็กชายที่ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า พวกตนเรียนอยู่ชั้น ม. 3 ขี่รถจักรยานยนต์มาจาก ต.โคกมะม่วง จะไปส่งเพื่อนที่ ต.ไทยเจริญ โดยขี่มาด้วยกัน 2 คัน ซ้อนสองกับซ้อนสามรวม 5 คน หลังจากส่งเพื่อนเสร็จกลับออกมา 4 คนรถสองคัน เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น จึงรีบขี่รถหนี


จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังอีกหลายนัด แต่ไม่รู้ว่าใครโดนยิงบ้าง จนกระทั่งมาถึงบ้าน ด.ช.อายุ 13 ปี  บอกว่าโดนยิง จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่ทราบ ก่อนจะถูกนำส่งโรงพยาลปะคำ แล้วส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ในเวลาต่อมา 
 

ขณะที่   พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ เถียรกิตติพงศ์ ผกก.สภ.ปะคำ อ.ปะคำ กำชับพนักงานสอบสวนทำงานอย่างละเอียดเพราะมีเยาวชนรวมอยู่ด้วยหลายคน หากใครทำผิดเข้าข่ายข้อหาใดก็จะดำเนินการอย่างเฉียบขาดเพราะถือว่าเป็นคดีอุกอาจ