ข่าว

ชวนเที่ยว "ละลุ” สิ่งมหัศจรรย์ 2,000ปี แกรนด์แคนยอนเมืองไทย

ชวนเที่ยว "ละลุ” สิ่งมหัศจรรย์ 2,000ปี แกรนด์แคนยอนเมืองไทย

02 ก.ค. 2567

ชวนเที่ยว "ละลุ” สิ่งมหัศจรรย์ดินแดนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ กว่า 2,000ปี จนได้รับการขนานนามว่า "แกรนด์แคนยอนของเมืองไทย"

ชวนเที่ยว \"ละลุ” สิ่งมหัศจรรย์ 2,000ปี แกรนด์แคนยอนเมืองไทย

 

'ละลุ'  เป็นภาษาเขมร แปลว่า “ทะลุ” เป็นหนึ่งในปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นมานานกว่า 2,000 ปี อยู่ในพื้นที่บ้านคลองยาว ตำบลทัพราช จังหวัดสระแก้ว เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นจากสภาพดินที่แข็งและคงสภาพอยู่ไม่ยุบตัวเมื่อถูกลม-ฝน กัดกร่อน จึงมีลักษณะเป็นรูปทรงต่าง ๆ มองแล้วคล้ายกำแพงเมือง หน้าผาบ้างก็ มีลักษณะเป็นแท่งๆ จึงทำให้ "ละลุ"มีความสวยงาม และแปลกตา แตกต่างกันตามจินตนาการ 


 

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับ นายอาคม เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า "ละลุ"เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อยู่จุดขึ้นมาเมื่อ 2,000 ปีแล้ว เกิดจากน้ำฝนกัดเซาะยุบตัว หรือ การพังทลายของดินทับถมกัน ตามแต่ลมและฝน จะช่วยกันตกแต่งชั้นดิน  และในบางพื้นที่ ก็จะมี 'ละลุ' เป็นสีน้ำตาลทอง ตัดกับสีเขียวสดของต้นข้าวกลางพื้นที่นาของชาวบ้าน เป็นธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างสวยงามจนได้รับการขนานามว่าเป็น แกรนด์แคนยอนของเมืองไทย 

ชวนเที่ยว \"ละลุ” สิ่งมหัศจรรย์ 2,000ปี แกรนด์แคนยอนเมืองไทย

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากชมปรากฏการณ์ธรรมชาติละลุจะต้อง จอดรถไว้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อป้องกันการยุบตัวของชันดิน จากการขับรถเข้าไปกันเอง นอกจากนี้ในพื้นที่ยังได้มีรถอีแต๊ก มาคอย ให้บริการ ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อจะเข้าไปชม "ละลุ" ทั้งยังมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่น รวมถึงยุวมัคคุเทศก์ มาให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องของ"ละลุ"อีกด้วย 
 

นทท.เที่ยวชม




ด้าน คุณอุษณีษ์ ภู่ภูมิรัตน์อายุ 36ปี ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่ติดใจในความงามของ"ละลุ"เล่าให้ฟังว่าตนเองมาเที่ยวที่นี่ เป็นครั้งที่ 3 แล้วตนเอง รู้สึกประทับใจความงด งามของ"ละลุ" ดินแดนสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ทำให้ดึงดูดจนอยากมาสัมผัสความงดงามอีก บ่อยๆพร้อมทั้งตอนนี้อากาศที่นี่ดีมากก็อยากจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวที่ "ละลุ" กันเยอะๆ 

 

ส่วนราคา การนั่งรถอีแต๊กเข้าชม จะสามารถนั่งได้ 7 คน ราคาอยู่ที่ 200 บาท จะเดินชมกี่ชั่วโมงก็ได้ แล้วแต่ความพอใจของนักท่องเที่ยว และรายได้ส่วนนี้ยังได้ส่งต่อไปให้กับผู้ยากไร้ในชุมชนและหมู่บ้านไกล้เคียง เพื่อนำไปจัดซื้อข้าวสารอาหารแห้งให้แก่ผู้ยากไร้ อีกด้วย