"ฮาเล่ย์" กร่าง หัวร้อนหนัก ขับปาดหน้า โบกระจกรถ ข่มขู่ ไม่หยุดรถจะยิง
สาวเตือนภัย หนุ่มขี่ "ฮาเล่ย์" กร่าง หัวร้อนหนัก ขับปาดหน้าแซงรถยนต์ โบกระจกรถพร้อมข่มขู่ หากไม่หยุดรถจะยิง หวั่นเกิดอันตราย
เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ว่าเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2567 เวลา 20.20 น. ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง และถูก รถจักรยานยนต์ ลักษณะคล้าย "ฮาเล่ย์" ไม่เปิดไฟเลี้ยว และไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับปาดหน้าแซงรถยนต์ และถีบกระจกฝั่งซ้าย พร้อมพูดข่มขู่ว่า "จะกินลูกปืนไหม ถ้าไม่หยุดกูจะยิง"
โดยเหตุเกิดบริเวณใกล้ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ. นนทบุรี หลังจากเกิดเหตุผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บางบัวทอง ภาพจาก กล้องวงจรปิด จับภาพวันที่ 1 ก.ค. 2567 เวลาประมาณ 20.00 น. จับภาพขณะผู้เสียหายทั้ง 2 คน ขับรถเลยแยกไฟแดงมา ก่อนจะมี รถจยย. ขับขี่ตามหลังมาแล้วปาดแซงซ้ายมา และพยายามเร่งเครื่องให้ทัน รถยนต์ ใช้มือกวักเรียกให้ลดกระจกลง พูดด่าทอตามในคลิปในรถ ทั้ง 2 ฝั่งได้เถียงกันสักพัก ก่อนที่ รถจยย. คันดังกล่าว จะแซงหน้าออกไปและหายจากคลิปไป
จากการสอบถาม น.ส.บี (นามสมมุติ) เล่าว่า วันเกิดเหตุตัวเองกับแฟนหนุ่มออกมากินข้าวบริเวณร้านข้าวต้มแห่งหนึ่ง หลังจากกินเสร็จขากลับบ้าน แฟนตนขับรถเลี้ยวออกมาจากร้านตามปกติ จังหวะที่ขับออกมาก็ชิดขวาและขับมาตามทาง จู่ๆ มี รถจยย. ลักษณะคล้าย ฮาเล่ย์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับประกบรถเก๋งมา มาเบิ้ลรถใส่ก่อนจะท้าทายและข่มขู่ ระหว่างนั้นแฟนก็ได้เปิดกระจก แล้วบอกว่า "ก็ไม่เปิดไฟอะ มองไม่เห็น" แต่ก็ยังถูกขับตามและเบิ้ลรถใส่อยู่แบบนั้น ซึ่งเขามีการขี่รถจยย.แซงขับปาด และประกบรถตนเองมาตลอดทาง ซึ่งลักษณะของเขากร่างมากๆ ส่วนสาเหตุเขาพูดว่ารถตนไปขับปาดหน้าเขา
ซึ่งก่อนที่แฟนตนจะขับรถออกมาก็ไม่เห็นรถเขามาก่อน เขาจะเอาแต่หาเรื่องและบอกให้แฟนตนจอดรถ และขู่อยู่ตลอดทางว่าจะยิ่ง ซึ่งดูจากลักษณะเขาแล้วดูไม่ใช่คนเมา เพราะรถตนไม่มีการบีบแตรใส่เขา หรือเร่งเครื่องใส่ ตอนที่อยู่ในรถตนรู้สึกกลัวมาก เพราะเขาบอกว่าจะยิ่ง ตนได้แต่พยายามห้ามแฟนอยู่ตลอดเวลาว่าอย่าไปเถียงหรือไปมีเรื่องกับเขา เพราะในรถตนไม่ได้มีอาวุธหรือของป้องกันตัว ถ้าวันนั้นแฟนจอดรถลงไปปะทะคารมณ์กับเขาตนคาดว่าอาจจะมีเรื่องบานปลายที่หนักกว่านี้ เพราะดูแล้วเขาไม่น่ากลัวเรื่องกฎหมาย
ตนจึงอยากให้ตำรวจช่วยตามเรื่อง เพราะคนอื่นอาจจะโดนแบบตนอีก ป้ายทะเบียนรถเขาก็ไม่ติด ที่ตนออกสื่อไปเพราะอยากเตือนภัยสังคม และเห็นว่าด้านหลังเสื้อของเขาคาดว่าน่าจะเป็นชื่อแก๊ง จึงอยากให้ตำรวจช่วยตาม แต่ตนไม่คาดหวังว่าจะจับได้หรือไม่ แต่ก็อยากให้เขาถูกจับมากกว่าเพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ซึ่งตนไม่ได้ว่าเหมารวมเกี่ยวกับแก๊งนั้น เพราะคนดีๆ ก็มีอยู่เยอะ แต่ที่ตนมาเจอกับคู่กรณีคนนี้ เขาจะทำให้ชื่อเสียงของแก๊งเสื่อมเสียเพราะเขาคนเดียว
โดย : สุรสิทธิ์ สินประเสริฐ