โอปอล นิพิฐพนธ์ สภาพอิดโรย อ่วม! โดนแจ้ง 9 ข้อหา ตำรวจหิ้วฝากขังศาล
โอปอล นิพิฐพนธ์ สภาพอิดโรย แต่ยังปิดปากเงียบ อ่วม! โดนแจ้ง 9 ข้อหา ตำรวจหิ้วฝากขังศาลจังหวัดเชียงใหม่ ด้าน นักวิชาการสุขภาพจิต ห่วงผู้ต้องหาคิดสั้น แนะเฝ้าระวังทำร้ายตัวเอง
10 ก.ค. 2567 ตำรวจ สภ.แม่ปิง คุมตัวนายนิพิฐพนธ์ สมบูรณ์สุขยิ่ง หรือ โอปอล อายุ 26 ปี ผู้ต้องหายิงว่าที่ร้อยโทสุเทพ และชิงทองในห้างเชียงใหม่ ออกจากห้องควบคุมเพื่อนำตัวไปฝากขังศาลจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากเมื่อช่วงเช้าได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ระหว่างนั้นมีพ่อแม่และน้องสาว มารอพบให้กำลังใจ แต่นายนิพิฐพนธ์ ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย และไม่ยอมพูดคุยตอบคำถามใดๆ ทั้งสิ้น
พ.ต.อ.ญาณพล พัฒนชัย ผกก.สภ.แม่ปิง เปิดเผยว่า สำหรับสภาพของผู้ต้องหานั้น ในเวลานี้พบว่าร่างกายค่อนข้างอิดโรย จากการถูกสอบปากคำอย่างต่อเนื่องและถูกควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่วนทองคำของกลางยังอยู่ระหว่างติดตามคืนอีกจำนวนหนึ่ง โดยผู้ต้องหายังไม่ยอมบอกว่านำไปไว้ที่ใด ส่วนเงินที่ได้จากการจำนำทอง ประมาณ 3 แสน 1 หมื่นบาท ได้โอนเข้าบัญชีของญาติและซื้อตั๋วเครื่องบิน สามารถติดตามอายัดคืนเกือบทั้งหมด จากการสอบสวนพบว่าผู้ต้องหามีการวางแผนหลบหนีนำเงินไปใช้ชีวิตในต่างประเทศจริง ส่วนเรื่องการตรวจสภาพจิตของผู้ต้องหานั้น น่าจะต้องดำเนินการหลังจากการฝากขังแล้วตามคำร้องขอของญาติ
ทั้งนี้ นายนิพิฐพนธ์ ถูกดำเนินคดีทั้งสิ้น 9 ข้อหา แยกเป็น สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ พื้นที่ฆาตกรรมว่าที่ร้อยโทสุเทพ 8 ข้อหา และ สภ.แม่ปิง พื้นที่ชิงทอง 1 ข้อหา
- 1. ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ป.อาญา มาตรา 289(4)
- 2. ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการที่ จะกระทำความผิดอย่างอื่น ป.อาญา มาตรา 289(6)
- 3. ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบัง การตายหรือเหตุแห่งการตาย มาตรา 199
- 4. ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ป.อาญา มาตรา 339 วรรคท้าย
- 5. ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนหรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ป.อาญา มาตรา 340 ตรี
- 6. มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา
- 7. พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิ
- 8. ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน ป.อาญา มาตรา 376
- 9. วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะโดยมีอาวุธ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ่อแม่และน้องสาวของนายนิพิฐพนธ์ นำอาหารมื้อเช้า เป็นโจ๊ก 2 ถุง พร้อมด้วยไข่พะโล้อีก 3 ฟอง เข้าไปให้ลูกในห้องคุมขัง และใช้เวลาพูดคุยสั้นๆ ก่อนที่จะเดินออกมา โดยแม่ของผู้ต้องหาบอกว่า ลูกชายไม่ได้มีความเครียดมากจนผิดปกติ ไม่ได้ร้องขออะไร ทางครอบครัวปลอบใจลูกขอให้ลูกให้การกับตำรวจตามความจริง สิ่งที่ทางครอบครัวห่วง คือ กลัวลูกจะคิดสั้น ได้ขอร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลลูกชายอย่างใกล้ชิด และได้ติดต่อกับทางญาติของว่าที่ร้อยโทสุเทพ เพื่อที่จะเข้าไปกราบขอขมาศพและครอบครัว เพื่อขออโหสิกรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นักวิชาการสุขภาพจิต แนะเฝ้าระวังทำร้ายตัวเอง
ดร.วุฒิพงษ์ ถายะพิงค์ นักวิชาการสุขภาพจิตอิสระ กล่าวถึงกรณีนายนิพิฐพนธ์ ว่า จากข้อมูลที่ครอบครัวของผู้ต้องหา อ้างว่าลูกชายติดเกมนั้น ในทางสุขภาพจิต คือ เป็นโรคทางสมอง ที่สามารถนำผู้ติดเกมมาพบนักจิตแทย์ เพื่อทำการรักษาได้ ด้วยการให้กินยาให้กายได้ แต่ที่ผ่านมา สังคมไทยมักจะไม่ได้ใส่ใจปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะครอบครัวซึ่งรู้สถานการณ์ภายในดีที่สุด ทำให้ที่ผ่านมา มักจะเกิดปัญหาการก่ออาชญากรรม และฆ่าตัวตายมากลายกรณีแล้ว
ส่วนประเด็นที่ทางครอบครัวบอกว่า ไปลงทุนเทรดทองและทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงทางครอบครัวนั้น เชื่อว่าเป็นเพียงปัจจัยกระตุ้นที่อาจทำให้ผู้ต้องหา ไม่ทำร้ายตัวเอง ก็ไปทำร้ายคนอื่นได้ และเท่าที่ติดตามข่าว กรณีที่ผู้ต้องหามีการวางแผนได้สลับซับซ้อนมาเป็นเวลาร่วมปีนั้น คนกลุ่มนี้ถือว่าเป็นคนไอคิวดีในระดับหนึ่งที่สามารถคิด และวางแผนได้ถึงขนาดนี้ แต่อีคิวต่ำ คือ ไม่สามารถที่จะยับยั้งชั่งใจในสิ่งที่ไม่ควรกระทำได้
และทุกวันนี้ พบว่าสังคมไทยมีกลุ่มคนแบบนี้เพิ่มมากขึ้น ทางออกคือ ครอบครัวต้องใส่ใจ หากเกิดการผิดปกติต้องพบจิตแพทย์ ไม่ใช่สิ่งที่น่าอาย ในทางตรงกันข้าม เมื่อเรานำผู้ที่ติดเกม หรือแม้แต่การพนันเข้ามารับการรักษาอย่างถูกวิธี เมื่อได้รับยาไปกินแล้ว เคมีในสมองที่เป็นพลังลบจะได้รับการแก้ไขเป็นพลังบวก แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์เดิมๆ ก็ตาม หรือที่ทางจิตวิทยา จะเรียนว่าโรคสมอง ไม่สบายทางสุขภาพจิต
ประการสำคัญกรณีของนายนิพิฐพนธ์ ที่ทางครอบครัวมีความกังวลว่าเสี่ยงต่อการคิดสั้นนั้น และขอให้มีการตรวจสุขภาพจิตนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะคนกลุ่มนี้ อีกสักระยะหนึ่งภาวะจิตใจจะเศร้าอย่างหนัก และเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายได้ การเฝ้าระวังจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และประเมินจิตใจ เป็นการเคารพในความเป็นมนุษย์ ส่วนการกระทำความผิดของเขานั้นก็ถือว่า เป็นความผิดตามกฎหมาย