โอปอล นิพิฐพนธ์ เล่านาทีก่อนลั่นไก พูดเสียงเบา นี่คือการปล้น | คมชัดลึก

10 ก.ค. 2567 มีรายงานว่าหลังจากตำรวจเค้นสอบ โอปอล นิพิฐพนธ์ สมบูรณ์สุขยิ่ง แบบมาราธอน เจ้าตัวจึงยอมเปิดปากเล่าไทม์ไลน์ก่อเหตุชิงทอง พบว่ามีการกระทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยผู้ต้องหาก่อเหตุประมาณตี 5 เรียกรถผ่านแอปพลิเคชันฯ ผู้ตายตื่นเช้า จึงได้รับผู้โดยสาร ผู้ต้องหาบอกจะไปชมวิวดอยสุเทพ และยิงผู้ตายที่จุดชมวิวดอยสุเทพ ก่อนยิงบอกนี่คือการปล้น ผู้ตายไม่เชื่อ เพราะนึกว่าล้อเล่น และผู้ก่อเหตุพูดเสียงเบา ยิงเสร็จนำศพใส่รถมาจอดบริเวณใกล้กับวัดผาลาด ลากศพ 50 เมตร ทิ้งเหวลึก 50 เมตร คือจุดที่พบศพ

จากนั้นขับรถไปเปลี่ยนเสื้อผ้า บริเวณปั๊มข้างทาง โดยการใส่เสื้อของไรเดอร์บริษัทหนึ่ง เพราะผู้ต้องหาเคยเป็นไรเดอร์ เพื่ออำพรางตัว ตั้งใจจะไปปล้นร้านทอง ที่ห้างบิ๊กซีดอนจั่น เวลา 9.30 น. แต่ร้านทองยังไม่เปิด และขับรถวนหลายรอบ เปลี่ยนแผนมาปล้นร้านทอง ที่เซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ เวลา 10.00 น. ใช้เวลาปล้นเพียง 5 นาที รวมเวลาเดินมาที่รถ ประมาณ 5 นาที ขับรถออกไปและรถชนบริเวณแยกข่วงสิงห์ ขับรถมาจอดที่บริเวณ จุดที่เรียกผู้ตายมารับ และเดินเท้าทางสำรวจธรรมชาติ เปลี่ยนรถเป็นของตัวเอง และช่วงบ่ายตระเวนนำทองไปขายตลาดวโรรส 3 ร้าน

โดยร้านแรกบอกเอาทอง 8 บาท แต่ร้านชั่งน้ำหนักจริง 10 บาท และสงสัยอายุน้อยทำไมมีทองขนาดนี้ ร้านทองทราบจากกลุ่มสมาคมผู้ค้าทองว่ามีทองถูกชิงที่ห้างสรรพสินค้า จึงแจ้งเตือนร้านต่างๆ ไม่ให้รับซื้อทอง ผู้ต้องหานำทองไปขายและจำนำ อำเภอรอบนอกเชียงใหม่ ได้เงิน 3.1 แสนบาท โอนให้กับคนในครอบครัว คือ 4 คน รวม 2.1 แสนบาท

ผู้ต้องหานำเงินไปซื้อตั๋วเครื่องบิน เชียงใหม่-กรุงเทพฯ-โอซาก้า (ญี่ปุ่น) เตรียมบิน 3 ทุ่ม ตำรวจสืบจากรถที่ไปขายร้านทอง เลยทราบรถจริงที่ก่อเหตุ และตามไปที่บ้าน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เวลา 17.00 น. นำมาสอบ 2 ชั่วโมง และพาไปชี้จุดที่ทิ้งศพ

โดยจุดสำคัญที่ทำให้ตำรวจสามารถจับผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็ว คือผู้ต้องหาใช้รถส่วนตัวไปขายทอง ตำรวจตรวจสอบทะเบียนรถจึงตามไปจับกุมตัวได้อย่างรวดเร็ว