พ่อช้ำใจ ตามคดีลูกชายถูกทำร้ายดับ ตำรวจบอกไปหาหลักฐานเอง
พ่อช้ำใจ ตามคดีลูกชายถูกทำร้ายดับ ตำรวจบอกไปหาหลักฐานเอง ด้าน ผกก.สภ.บางบัวทอง ยืนยัน ไม่เป็นความจริง
12 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นนทบุรี ได้รับการร้องเรียนจาก นายอิทธิศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ว่า เมื่อ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ลูกชายชื่อนายดุ๊ก อายุ 15 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายจนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณโป๊ะเรือหลังวัดละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายพานายดุ๊ก ไปส่งโรงพยาบาล ด้วยสภาพใบหน้าฟกช้ำ ลำคอบวมปูด โดยอ้างว่าเห็นคนเจ็บนอนสลบอยู่ จึงพามาส่งโรงพยาบาล หลังจากนั้นก็พากันหนีหายไปทั้งกลุ่ม โดยแพทย์ลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิตว่า "เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง"
นายอิทธิศักดิ์ ให้ข้อมูลว่า ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางบัวทอง เมื่อ 6 ก.ค. ต่อมา 10 ก.ค. ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าคดี จึงทราบว่าตำรวจสามารถติดตามตัวนายโอม อายุ 15 ปี มาได้เพียงคนเดียว โดยตำรวจบอกว่า ถ้าอยากให้หาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีเพิ่มอีก ก็ให้ตนไปหาหลักฐานกล้องวงจรปิดและหาพยานหลักฐานมาเอง ตนเป็นประชาชนธรรมดาๆ คนหนึ่ง จะให้วิ่งไปขอหลักฐานกล้องวงจรปิดที่ไหน หรือให้ไปหาใครมาเป็นพยาน ทั้งที่เป็นหน้าที่ตำรวจกินเงินเดือนจากภาษีประชาชน ควรจะช่วยเหลือตนมากกว่านี้
จากการสอบถามจากกลุ่มเพื่อนลูกชาย ได้ความว่า เมื่อ 5 ก.ค. ลูกชายไปฉลองวันเกิดของเพื่อน มีกลุ่มเพื่อนสนิทแถวบ้านไปด้วย จนเวลาประมาณ 04.00 น. นายโชค อายุ 15 ปี เพื่อนที่ไปด้วยกัน ได้พาลูกชายซ้อน จยย. 3 คน ออกไปบริเวณที่เกิดเหตุ โดยลูกชายนั่งกลาง นายโชคประกบหลัง ส่วนคนขับไม่ทราบเป็นใคร เพื่อไปท้าต่อยกับนายโอม ซึ่งเป็นเพื่อนในกลุ่ม โดยเมื่อ 10 ก.ค. นายโอม ได้มางานศพลูกชาย และมายอมรับว่ามีเรื่องชกต่อยกับลูกชายจริง และลูกชายสะดุดล้มหัวฟาดพื้น ที่ลูกชายตัวเปียก เพราะเอาผ้าชุบน้ำมาลูบให้ตื่น
นายอิทธิศักดิ์ กล่าวอีกว่า ไม่เชื่อว่านายโอม จะทำลูกชายเพียงคนเดียว เพราะนายโอมตัวเล็กกว่ามาก และมีเพื่อนๆ บอกว่าตอนนายโชค พาลูกซ้อนท้ายออกไป ก็มีอาการเหม่อลอย จึงสงสัยว่าลูกโดนทำร้ายมาก่อนหรือไม่ ตอนนี้กุญแจสำคัญอย่างนายโชค ก็หนีไปแล้ว คาดว่าจะเอาโทรศัพท์ของลูกตนไปด้วย เพราะพบว่ามีการใช้งานเฟซบุ๊กเป็นช่วงๆ
ด้าน พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวชี้แจงประเด็นตำรวจบอกให้พ่อคนตายไปหาวงจรปิดเอง ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะกรณีที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเป็นคนติดตาม และได้ภาพจากกล้องวงจรปิดมา และพบว่าคนก่อเหตุเป็นใคร จึงนำตัวมาสอบสวน และพาไปจำลองเหตุการณ์ โดยเอกสารบันทึกคำรับสารภาพ นายโอม เขียนด้วยลายมือตัวเอง 2 ฉบับ ยืนยันว่าได้ชกต่อยกัน 1 ต่อ 1 โดยไม่มีคนอื่นร่วมทำร้ายผู้ตายด้วย ซึ่งตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสืบหาตัวผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด มาดำเนินคดีเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเปิดเผยคลิปที่คาดว่าเป็นชนวนเหตุ เมื่อ 28 มิ.ย. ในคลิป นายดุ๊ก ผู้ตาย สวมเสื้อสีดำ กางเกงยีนส์ นั่งคุกเข่า และมีกลุ่มเพื่อนๆ อีก 5 คนยืนล้อม ซึ่งนายดุ๊กต้องการแหวนรุ่น 66 ของโรงเรียนนันทนวรวิทย์ แต่ตัวนายดุ๊ก ไม่ได้เรียนโรงเรียนนี้ ถ้าอยากจะได้จะต้องโดนรับน้องด้วยการให้เพื่อนเตะบริเวณหน้าอกครบทุกคน วันดังกล่าวนายโอม ที่ถูกจับกุม เป็นคนเตะคนแรก