เปิดปมเหตุ แม็ก ชิงทองแม่ค้าส้มตำ รับสารภาพหมด เอาทองไปทำอะไร | คมชัดลึก

นานกว่า 4 ชั่วโมงที่ตำรวจปิดล้อมจับกุม แม็ก ชิงทองแม่ค้าส้มตำ ภายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งจากข้อมูลพบเป็นห้องเช่าของ นายนิธิรัตน์ หรือ แม็ก ผู้ต้องหาในคดียิงขู่ แม่ค้าส้มตำ ก่อนบังคับให้แม่ค้าส้มตำถอดสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท แล้วหลบหนีไป โดยคดีนี้อยู่ในพื้นที่ของ สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม 

 

 

• ด่วน! ตำรวจเข้าชาร์จ นายแม็ค โจรชิงทอง ขณะซ่อนตัวอยู่บนฝ้าเพดาน : คลิก
• ลูกชายรุดเจรจา "คนร้ายชิงทอง" บอกพรุ่งนี้มีสอบ ไม่มีกำลังใจอ่านหนังสือ : คลิก

 

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 18 ก.ค. 2567 ขณะชุดสืบสวน สภ.โพธิ์แก้ว พยายามเข้าจับกุม นายนิธิรัตน์ หลังศาลจังหวัดนครปฐมอนุมัติออกหมายจับแล้ว แต่ปรากฏว่าเจ้าตัวหลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้อง และภายหลังทราบว่าผู้ต้องหามีอาวุธปืน จึงประสานให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายหน่วยงานเข้ามาในที่เกิดเหตุ รวมถึงให้ญาติเดินทางเข้ามาพูดจาเกลี้ยกล่อม มีทั้งพี่สาว และลูกชายของผู้ต้องหา

 

ซึ่งญาติพยายามสื่อสารเจรจาอยู่นาน พร้อมทั้งขอร้องให้ผู้ต้องหามอบตัว โดยหากเข้ามอบตัวญาติจะประสานทนายเพื่อขอประกันตัวให้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาพ่นเข้าไปภายในห้องพัก 1 ครั้ง จากนั้นจึงโยนระเบิดแฟลชแบงอีก 1 ครั้ง เพื่อเคลียร์พื้นที่ พร้อมทั้งใช้โดรนบินสำรวจว่าตัวผู้ต้องหาอยู่จุดไหนของห้อง แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนอง และเบื้องต้นคาดว่าเจ้าตัวหลบอยู่ภายในห้องน้ำ

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงพยายามขอหน่วยสนับสนุน เพื่อเปิดฝ้าเพดาน โดยเปิดประตูห้อง 2 ห้องที่อยู่ซ้าย-ขวาของห้องผู้ต้องหา กระทั่งพบว่าผู้ต้องหาหนีขึ้นบนฝ้าเพดานปีนผ่านไป 2 ห้อง ก่อนที่เวลา 23.54 น. ตำรวจจะสามารถจับกุมตัว นายนิธิรัตน์ ได้ที่ห้อง 238 ถัดจากห้องของตัวเอง ก่อนตำรวจจะคุมตัวลงมาชี้รถจักรยายนต์ที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึงเสื้อผ้า รองเท้า และหมวกกันนอค ในสภาพที่ถอดเสื้อ หลังมีรอยแผลที่เกิดจากการปีนฝ้าเพดาน โดยจังหวะนี้ แฟนสาว ได้สวมกอด นายนิธิรัตน์ ทั้งน้ำตาด้วย

 

 

 

หลังจากนั้นตำรวจได้พา นายแม็ก ไปยัง สภ.โพธิ์แก้ว ทีมข่าวจึงได้สอบถามเจ้าตัว บอกว่า ตัวเองไม่ได้ขัดขืนการจับกลุ่มของทางเจ้าหน้าที่ เพียงแต่กลัว ตกใจเสียงระเบิด และยอมรับว่าเครียด เนื่องจากติดพนันออนไลน์ ส่วนทองที่ชิงมา นำไปขายที่ ร้านทอง แล้ว ย่านสนามหลวง 2 ได้เงินมามากกว่า 100,000 บาท โดยยอมรับกับความผิดพลาด และรู้สึกผิด ต้องรับกรรมต่อไป ตอนนี้สงสารพี่สาวและแฟน

 

ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุขโมยมาจากลูกค้า พร้อมทั้งฝากขอโทษทุกคน โดยเฉพาะแม่ค้าส้มตำด้วย ยืนยันว่าตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจจะเอาชีวิต ไม่ได้วางแผน เพียงแค่อยากได้ทองไปปลดหนี้พนันที่เสียไปหลายล้านบาท 

 

 

 

 

ขณะที่ พ.ต.อ.สร ซื่อตรงพานิช ผู้กำกับการ สภ.กระทุ่มแบน เปิดเผยว่า ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาขณะหลบอยู่บนฝ้า หลังหนีข้ามไป 2 ห้อง ซึ่งตอนตำรวจเข้าไปเจอตัว เจ้าตัวก็ยอมลงมาด้วยดี ไม่มีท่าทีขัดขืน หลังจากนี้จะส่งตัวไปที่ สภ.โพธิ์แก้ว 

 

โดยยืนยันว่าก่อนเกิดเหตุชุดสืบสวนของ สภ.โพธิ์แก้ว ได้เข้าปิดล้อมเพื่อจับกุมคนร้ายตามปกติ ซึ่งยืนยันว่าไม่มีการยิงต่อสู้กัน เพียงแต่ผู้ต้องหาไม่ยอมออกมามอบตัว และหลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้อง โดยเชื่อว่าเจ้าตัวน่าจะมีความเชี่ยวชาญ เนื่องจากเป็นช่างไฟ

 

 

 

 

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ของ สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม นายนิธิรัตน์ ก่อเหตุชิงสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท จาก แม่ค้าส้มตำ เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2567 เหตุเกิดบริเวณซอยกระทุ่มล้ม 9 หมู่ 1 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม

 

โดยคาดว่าหลังก่อเหตุได้หนีมาหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องพักดังกล่าว ก่อนที่ศาลจังหวัดนครปฐมได้อนุมัติหมายจับ นายนิธิรัตน์ ใน 5 ข้อหา ได้แก่ พยายามฆ่าผู้อื่น, ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืนหรือโดยใช้พาหนะเพื่อหลบหนี, มีเครื่องกระสุนปืนและอาวุธปืนไว้ในครอบครอง, พาอาวุธปืนไปในเมืองหรือในที่สาธารณะ และยิงปืนในเมืองหรือในที่ชุมชน

 

 

ภาพ : น.ส.ณัฏฐนันท์ ศิริสันติวรกุล