ครอบครัว ผอ.เหมียว ทำใจไม่ได้ หารือเตรียมรื้อบ้าน ชนวนเหตุสังหารยกครัว

25 ก.ค. 2567 ความคืบหน้าคดีฆ่ายกครัว 4 ศพ "ผอ.เหมียว" ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปโรงเรียนบ้านโนนอีปังโพนวัว ต.หนองแก้ว อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ คณะครูได้พาเข้าไปดูห้องทำงาน ผอ.เหมียว เป็นห้องเล็กๆ ไม่มีแอร์ มีเพียงพัดลม 2 ตัว ในห้องมีโต๊ะทำงานของ ผอ.เหมียว และครูธุรการ อีกฝั่งของห้องทำเป็นห้องประชุม ภายในมีตู้เก็บเอกสาร ใบประกาศเกียรติคุณ และรางวัลต่างๆ ที่ ผอ.เหมียว ได้รับมา และรางวัลของโรงเรียนด้วย

สำหรับรางวัลที่เป็นความภาคภูมิใจของ ผอ.เหมียว คือ รางวัลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 มอบเกียรติบัตรฉบับนี้ ให้ไว้เพื่อแสดงว่า น.ส.ดวงเดือน โกกะพันธ์ ผอ.โรงเรียนบ้านในนอีปังโพนวัว ได้รับรางวัล SSK1 AWARDS ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ซึ่งรางวัลสำหรับ ผู้อำนวยการสถานศึกษาดีเด่น กลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาแบบบูรณาการเมืองหลวงพ่อโต

คณะครูโรงเรียนบ้านโนนอีปัง กล่าวว่า ผอ.เหมียว ย้ายมาอยู่เมื่อ 11 ม.ค. 2562 ตั้งแต่ย้ายมาก็สร้างผลงานและความดีให้กับโรงเรียน และชุมชน เยอะแยะมากมาย จนเป็นที่รักของคุณครูและนักเรียนทุกคน เราอยู่กันด้วยความรักสามัคคี และเข้าใจกัน ผอ.เหมียวเป็นคนกระตือรือร้น เป็นคนมีความรับผิดชอบสูง ก่อนเกิดเหตุเราคุยกันไว้ว่า ช่วงหยุด 3 วัน (27-29 ก.ค.) จะไปเที่ยวด้วยกัน เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว ทั้งรถและที่พัก มาถึงวันนี้ฝันของพวกเราล่มสลาย และสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดบ้านหอย ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นที่จะจัดงานศพของ ผอ.เหมียว นายบุญเลื่อน และนางหยกมณี ได้พูดคุยกับ ภรรยานายบุญเลื่อน เปิดเผยว่า ก่อนหน้าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น ผอ.เขี้ยว มาแจกใบปลิวขู่จะฆ่าล้างโคตร ตนคิดว่า ผอ.เขี้ยวพูดเล่น เพราะ ผอ.เขี้ยว หน้าตาหล่อ ไม่น่าจะมาก่อเหตุแบบนี้ได้

หลังเกิดเหตุมีคนโพสต์ด่า ผอ.เหมียว เหมือนหมูเหมือนหมา บอก ผอ.เหมียว อย่าได้ไปผุดไปเกิด และเมื่อวานช่วงเที่ยงคืนกว่าๆ ก็มีคนหน้าตาแปลกๆ เข้ามาในงาน มาไหว้ศพตอนเที่ยงคืนมันผิดปกตินิสัยคนที่จะเข้ามาไหว้ศพตอนดึก ครอบครัวรู้สึกหวาดกลัวเพราะเพิ่งเกิดเหตุสะเทือนขวัญ ฝากบอกคนที่โพสต์ว่าอย่าโพสต์ หรือข่มขู่ ขอให้เลิกแล้วต่อกันไป ต่างคนต่างสูญเสีย ส่วนตัวรู้สึกสงสารพ่อแม่ ผอ.เขี้ยว เพราะทั้งสองคนแก่แล้ว และไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น 

ภรรยานายบุญเลื่อน เล่าวอีกว่า มีลางบอกเหตุช่วงก่อนวันที่ตาเลื่อนจะเสียชีวิต 1 อาทิตย์ ตนเอาชุดข้าราชการที่ตาเลื่อนเคยใส่มาซักรีดไว้ ติดเครื่องหมายราชการเรียบร้อย และพูดกับตาเลื่อนว่าเผื่อตายปุบปับจะได้นำมาใส่เลย ตาเลื่อนจึงตอบกลับบว่าอยากให้กูตายเหรอ สิ่งที่ตนทำตนไม่นึกว่าจะเป็นลางบอกเหตุ จนตาเลื่อนมาเสียชีวิตจริงๆ

ทั้งนี้ ตนได้คุยและปรึกษากับหลานๆ และครอบครัวของ ผอ.เหมียว หลังจากทำพิธีฌาปนกิจเสร็จ จะเอาแบ็คโฮมารื้อบ้านหลังเกิดเหตุทิ้ง เพราะทนเห็นไม่ได้ ไม่อยากเห็นบ้านที่ ผอ.เขี้ยว สร้างอีกแล้ว ถ้าไม่รื้อตนจะตายตามสามีและครอบครัว ผอ.เหมียวไป เวลาผ่านบ้านหลังดังกล่าว มันทำให้รู้สึกว่า ผอ.เขี้ยว มาทำกับครอบครัวเราทำไม
 

ด้าน นายเสกสรร อายุ 40 ปี หลานของนางหยกมณี กล่าวว่า คืนสวดอภิธรรมคืนแรก หลังสวดเสร็จ เวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่งมีคนโทรไปบอกตน ว่ามีคนขับรถเก๋งเข้ามาภายในวัด บอกว่ามาไหว้ศพผู้ใหญ่เลื่อน แต่กลับไปไหว้ศพ ผอ.เหมียว เพียงคนเดียว ทุกคนที่อยู่ในงานเลยงง ตนไม่รู้ว่ามาในรูปแบบไหน ถ้าคนที่จะมาไหว้ศพจริงๆ จะมาทำไมเวลากลางคืนแบบนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทุกคนขวัญเสียและหวาดระแวงอยู่แล้ว จึงประสานไปยังผู้กำกับ สภ.เมือง ให้เข้ามาช่วยดูแลด้วย

ผู้สื่อข่าวได้ภาพกล้องวงจรปิดซึ่งติดตั้งอยู่ที่วัดบ้านหอย พบว่าช่วงเวลา 23.40 น. มีรถเก๋งต้องสงสัย มาจอดที่หน้าวัด ก่อนจะมีคนสวมเสื้อสีขาว สวมกางเกงสีดำ ลงมาจากรถยนต์เก๋ง เดินเข้าไปภายในวัดด้วยอาการคล้ายคนเมา ก่อนที่เวลา 23.50 น. จะเดินออกไปเข้าห้องน้ำด้านหลังศาลา แล้วเดินออกมาที่หน้าประตูวัด ก่อนขึ้นรถกลับออกไป

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปที่ญาติ ผอ.เหมียว อีกครั้ง พบว่าชายปริศนาคนดังกล่าวไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเหตุการข่มขู่ทางญาติ แต่น่าจะเมาแล้วมางานศพเท่านั้น