ข่าว

อดีตกำนัน ร้องสื่อ-ยุติธรรมจังหวัด เครนล้มทับลูกชาย ผ่านไป 2 เดือน ไร้เยียวยา

อดีตกำนัน ร้องยุติธรรมจังหวัดฯ สูญเสียลูกชายคนเดียว จากเหตุเครนล้ม ภายในไซต์งานก่อสร้างสะพานไทย-ลาว แห่งที่ 5 ผ่านไป 2 เดือน ไร้เยียวยา

26 ก.ค. 2567 ที่สำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ นายอุทัย เศรษฐนันท์ อายุ 64 ปี อดีตกำนัน ต.หนองกุง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนางสมัย เศรษฐนันท์ อายุ 63 ปี ภรรยา นำเอกสารหลักฐานบันทึกแจ้งความ และบันทึกการตกลงค่าสินไหมทดแทน ร้องขอความช่วยเหลือกับฝ่ายกฎหมายสำนักงานยุติธรรมและสื่อมวลชน กรณีนายจิตติชัย เศรษฐนันท์ ลูกชาย อายุ 32 ปี ลูกชาย เสียชีวิตจากเหตุเครนทับ ผ่านไป 2 เดือน ยังไร้เยียวยา

นายอุทัย เล่าว่า ลูกชายไปทำงานก่อสร้างสะพานไทย-ลาว แห่งที่ 5 ต.วิศิษฐ์ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ต่อมาวันที่ 3 พ.ค. 2567 เกิดอุบัติเหตุเครนของไซต์งานล้มทับเสียชีวิต พร้อมเพื่อนคนงานอีก 2 คน จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับสินไหมชดเชย จากบริษัทรับเหมาดังกล่าว มีเพียงค่าจัดการงานศพเพียง 4 หมื่นบาท เท่านั้น
 

อดีตกำนัน ร้องสื่อ-ยุติธรรมจังหวัด เครนล้มทับลูกชาย ผ่านไป 2 เดือน ไร้เยียวยา
 

ต่อมา 11 มิ.ย. ได้มีการทำบันทึกตกลงค่าสินไหมกันที่ สภ.เมืองบึงกาฬ ระหว่างตัวแทนบริษัทรับเหมาใหญ่ กับญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย โดยญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมดเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ศพละ 500,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,500,000 บาท ก่อนที่จะมีการต่อรองราคากันใหม่ ตนยอมลดจำนวนเงินลงเหลือ 400,000 บาท

ซึ่งตัวแทนบริษัทคู่กรณียินยอมรับข้อเสนอ และจะจ่ายเงินให้ระยะเวลาไม่เกิน 45 วัน ซึ่งจะครบกำหนด 27 ก.ค. นี้ แต่ฝ่ายบริษัทฯ ยังนิ่งเฉย จึงอยากขอความช่วยเหลือจากยุติธรรมจังหวัดฯ ช่วยประสานบริษัทฯ คู่กรณี ให้มารับผิดชอบด้วย

นางสมัย กล่าวว่า นายจิตติชัย เป็นลูกชายคนเดียวของตน เคยมีภรรยาแต่ได้หย่าร้างกัน ต้องรับภาระหาเลี้ยงครอบครัว และส่งเสียลูกสาว 1 คน ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.2 ทั้งนี้ ลูกชายเป็นกำลังหลักสำคัญหาเลี้ยงครอบครัว ทุกวันนี้รู้สึกไม่สบายใจ นอนร้องไห้ทุกคืน เกรงว่าทางบริษัทฯ จะไม่ยอมจ่ายเงิน จึงได้มาร้องขอความช่วยเหลือกับฝ่ายกฎหมายสำนักงานยุติธรรมฯ และร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชน หวังจะได้เงินส่วนนั้นมาเป็นค่าเลี้ยงดูหลาน
 

อดีตกำนัน ร้องสื่อ-ยุติธรรมจังหวัด เครนล้มทับลูกชาย ผ่านไป 2 เดือน ไร้เยียวยา

 

 

ด้าน ดร.นฤพล เมนไธสง ที่ปรึกษากฎหมาย สำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้ให้คำแนะนำว่าให้รอการประสานจากพนักงานสอบสวน ซึ่งหากทางบริษัทคู่กรณีไม่ทำตามข้อตกลง และไม่ยอมเยียวยา จะได้มีการสั่งฟ้องบริษัทรับเหมาถึงอัยการ และอัยการส่งฟ้องศาลตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งจะเป็นการฟ้องร้องค่าอุปการะบิดา-มารดา และบุตรที่กำลังศึกษาอยู่ ส่วนขั้นตอนต่อไปหากจำเป็นต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ทางสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ มีกองทุนช่วยเหลือดูแลค่าใช้จ่ายให้ ไม่ต้องกังวลใดๆ



ร.ต.อ.รัฐพล เดชนรสิงห์ รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.เมืองบึงกาฬ ระบุว่า พนักงานสอบสวนไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามติดต่อคู่กรณีมาเจรจา ตกลงหาข้อยุติ กระทั่งเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยเบื้องต้น และมีการบันทึกข้อตกลงค่าสินไหมทดแทนร่วมกัน ระหว่างบริษัทเจ้าของเครน กับญาติผู้เสียชีวิต แต่ถึงวันนี้เท่าที่ทราบว่ายังไม่มีการจ่ายเงินกันแต่อย่างไร หากสัปดาห์หน้ายังไม่มีความคืบหน้า พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อกล่าวหากับทางบริษัท และดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อให้ความเป็นธรรมกับญาติผู้เสียชีวิต

ข่าวยอดนิยม