ความคืบหน้าคดีฆ่ายกครัว ผอ.โรงเรียน 4 ศพ ล่าสุดวันนี้ (26 ก.ค. 2567) ครอบครัว และญาติ ได้ช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ และจัดทำเมรุลอย สำหรับพิธีเผาศพ ผอ.เหมียว นางหยกมณี และนายบุญเลื่อน ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ค.)
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.เอ นามสมมุติ เปิดใจในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทกับ ผอ.เหมียว เล่าถึงความสัมพันธ์ ผอ.เหมียว และ ผอ.เขี้ยว ระยะเวลา 7 ปี ที่ผ่านมาว่า ช่วงแรกที่คบกัน ฝ่าชายไม่มีพฤติกรรมทำร้าย แต่หลังจากทำบ้านเสร็จ ผอ.เขี้ยว ก็เริ่มเปลี่ยนไป ขี้หึง ขี้หวง ชอบดุด่า ตบตี ผอ.เหมียว ซึ่งพยายามประคับประคองชีวิตคู่
จนกระทั่ง ปี 2566 ผอ.เหมียว ตัดสินใจจะเลิกกับ ผอ. เขี้ยว เพราะเอาปืนมาขู่ ผอ.เหมียว กับลูกชาย ทำให้ น้องฟงฟง หวาดกลัวจนตัวสั่น ผอ.เหมียว เลยตัดสินห่าง และยืนยันว่า ผอ.เหมียว ไม่ได้คบซ้อน อย่างที่กระแสสังคมพูดถึง
"เพื่อนตนมีแฟนคนที่ 1 คนที่ 2 จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายแต่ ผอ. เหมียว โดนแฟนทั้ง 2 คนนอกใจ ผอ.เหมียว เลยบอกกับเพื่อนๆ ว่า ชีวิตนี้จะไม่จดทะเบียนสมรสอีก และที่อยู่กินกับ ผอ.เขี้ยว ก็ไม่ได้จดทะเบียนสมรส อย่างที่ฝั่ง ผอ. เขี้ยว กล่าวอ้าง" น.ส.เอ กล่าว
น.ส.เอ ฝากให้สังคมรู้ว่า ไม่มีใครอยากได้สามีหลายคน บางคนสมหวังในชีวิต แต่บางคนไม่สมหวัง บางคนเจอผู้ชายเลว ส่วนเงินที่สร้างบ้านก็ไม่ใช่เงินของ ผอ.เขี้ยว เพียงคนเดียวอย่างที่สังคมคิด เป็นเงินของแม่ ผอ.เหมียว ด้วย เพราะแม่ ผอ.เหมียว มีเงินเดือนของสามีพี่เป็นข้าราชการตำรวจได้เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่
ส่วน ผอ.เขี้ยว เองก็มีเมียหลายคน ทำไมสังคมถึงให้ฆาตกรเป็นคนถูก ตนอยากบอกสังคมว่าให้ใช้ปัญญาและสติ ไตร่ตรองข่าว ถึงใครจะผิด ผอ.เขี้ยว ก็ไม่มีสิทธิ์ไปฆ่าคนอื่น ควรให้กฎหมายดำเนินการเอง ไม่ใช้มาฆ่าถึง 4 คน แบบนี้ คนดีที่ไหนเขาใช้ความอาฆาต มาฆ่าคนแบบนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง