"หลวงพาน" มอบตัว ปฏิเสธเป่าขมับเพื่อนบ้าน ลั่น! ขอให้การชั้นศาลเท่านั้น
"หลวงพาน" มอบตัว ปฏิเสธเป่าขมับเพื่อนบ้าน ลั่น! ขอให้การชั้นศาล ด้าน ภรรยา เชื่อสามีห่วงหมาโดนทำร้าย แต่กระสุนพลาด
28 ก.ค. 2567 เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.ท.สนธยา ด้วงเพ็ชร สว.สส.สภ.เมืองตรัง นำกำลังเข้ารับมอบตัว "หลวงพาน" นายสำราญ (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงศีรษะ นางประเกี่ยว หรือป้าดาว อายุ 61 ปี เสียชีวิต เพราะทะเลาะกันเรื่องหมา เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) เวลาประมาณ 18.28 น. บริเวณห้องเช่า (ซอยวังมังกร) ถนนเวียนกะพังซอย 10 หมู่ 4 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง
ตำรวจใช้เวลาสอบสวน นานกว่า 3 ชั่วโมง เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ไม่พูดถึงอาวุธปืน และสุนัขตัวดังกล่าว ต่อมาตำรวจได้ควบคุมหลวงพาน ออกจากห้องสืบสวนไปเข้าห้องขัง ผู้ต้องหาใช้กระดาษปิดบังใบหน้า และพูดกับสื่อมวลชนที่มาติดตามข่าวคำเดียวว่า "ขอให้การชั้นศาลเท่านั้น"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ด้าน นางเพียร อายุ 62 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ บอกว่า สามีรักหมามาก เลี้ยงดูแลเป็นอย่างดี ตนไม่รู้เกิดเหตุการณ์อะไรบ้าง เพราะไม่อยู่ แต่เท่าที่ฟังสาเหตุมาจากทะเลาะวิวาทกันเรื่องสุนัข และมีปากเสียงด่าทอกับผู้ชายอีกคน แต่กระสุนพลาดไปโดนผู้เสียชีวิต ปกติสามีจะไม่ค่อยยุ่งสุงสิงกับใคร เป็นคนเงียบๆ ไม่พูดมาก ไม่จู้จี้จุกจิกกับใคร และจะไม่นั่งบ้านของคนอื่น ที่รู้ๆ หมาของสามีก็ไม่เคยทำร้ายใคร หมาที่เลี้ยงไว้ก็ไม่เคยไปยุ่งกับใครเช่นกัน
"เหตุการณ์นี้ตนคิดว่าสามีห่วงหมา เพราะมีคนมาทำร้าย ส่วนคนตายตนไม่รู้จัก เพราะเขามาเช่าอยู่ รู้สึกเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่สามีก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะยิงถูกผู้ตาย ขอโทษครอบครัวผู้ตายด้วย ตอนนี้ยังไม่ได้คุยเรื่องที่เกิดเหตุเลย" นางเพียร กล่าว
จากแนวทางการสืบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขับรถ จยย. ผ่านหน้าบ้านเช่า นายสมส่วน (คู่กรณี) และบ้านผู้ตาย ซึ่งเป็นห้องเช่าติดกัน ระหว่างนั้นหมาของนายสำราญ วิ่งตามหลังรถมา ได้วิ่งเข้ามาหานายสมส่วน ภรรยา และหลาน ภรรยานายสมส่วน จึงได้ไล่หมา ส่วนหลานได้ใช้ก้อนหินเขวี้ยงใส่หมา ทำให้ผู้ก่อเหตุโมโหจนมีปากเสียงกัน โดยผู้ต้องหาถึงขั้นด่าถึงบุพการี ก่อนจะขับรถกลับบ้านไป
ต่อมาผู้ต้องหาได้ขับรถวกกลับมาอีกครั้ง และได้ถามนายสมส่วน ว่ามีปัญหาอะไร ก่อนจะมีปากเสียงกันอีกครั้ง ผู้ก่อเหตุหวังจะยิงนายสมส่วน ซึ่งตกใจวิ่งเข้าบ้านและปิดประตู จากนั้นผู้ต้องหาได้ลั่นไก ปรากฏว่ากระสุนทะลุประตูบ้าน เข้าศีรษะของผู้ตายดังกล่าว
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน , พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน และทำให้เสียทรัพย์
อย่างไรก็ตาม ญาติผู้ต้องหาได้เตรียมหลักทรัพย์ 5 แสนบาท ขอยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งตำรวจจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป