ข่าว

"พระยิ้ม" พระพุทธรูปโบราณ 1,000 ปี สุดทึ่ง ส่งสายตามองตามเมื่อเดินผ่าน

"พระยิ้ม" พระพุทธรูปโบราณ 1,000 ปี สุดทึ่ง ส่งสายตามองตามเมื่อเดินผ่าน

30 ก.ค. 2567

"พระยิ้ม" พระพุทธรูปโบราณ ปางมารวิชัย อายุกว่า 1,000 ปี ชาวบ้านสุดทึ่ง ส่งสายตามองตามเมื่อเดินผ่าน เคยโดนขโมยแต่เอาไปไม่ได้

ผู้สื่อข่าวได้ไปที่ พิพิธภัณฑ์เวียงพยาว (วัดลี) ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา มี พระพุทธรูปหินทรายแกะสลักโบราณ "พระยิ้ม" ปางมารวิชัย ศิลปะสกุลช่างพะเยา อายุกว่า 1,000 ปีขนาดหน้าตักกว้าง 46 เซนติเมตร สูง 62 เซนติเมตร ที่ทางท่านเจ้าคุณพระวิมลญาณมุนี "ครูบาบุญชื่น" ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดพะเยา เจ้าอาวาสวัดลี ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา ได้นำมาประดิษฐานไว้ในพิพิธภัณฑ์เวียงพยาว 

 

 

"พระยิ้ม" องค์นี้มีความพิเศษ กว่า พระพุทธรูป องค์อื่นๆ ที่ได้สร้างความแปลกแก่ผู้ที่มากราบไหว้ขอพรและชมกันเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากองค์ พระพุทธรูป มีใบหน้ายิ้ม และสายตาจะจ้องคอยสอดส่องดูแลพระพุทธรูปทุกองค์ และโบราณวัตถุที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ โดยสายตาของ พระยิ้ม จะชำเลืองสายตามองตามผู้คนที่เดินผ่าน และเดินเข้ามา เที่ยวชมในพิพิธภัณฑ์ ไม่ว่าจะเดินผ่านไปทางซ้ายหรือทางขวา สายตาท่านจะมองตามจนคลาดสายตา 

 

สำหรับพระยิ้มในพิพิธภัณฑ์ที่ทาง พระวิมลญาณมุนี (ครูบาบุญชื่น) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดพะเยา เจ้าอาวาสวัดลี เป็นพระนักอนุรักษ์ได้ นำมาจากวัดโบราณที่ล่มสลาย นำมาเก็บรวบรวมไว้ที่ วัดลี พร้อมด้วยโบราณวัตถุและศิลปวัตถุอีกเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งต่อมาทางหลวงพ่อก็ได้ทำการสร้างพิพิธภัณฑ์เวียงพยาว (วัดลี) ขึ้นมา เพื่อให้ผู้คนมาท่องเที่ยวศึกษาค้นคว้าด้านประวัติศาสตร์ท้องถิ่น 

 

 

พระยิ้ม

พระยิ้ม

 

"พระยิ้ม" องค์นี้มีลักษณะเด่นใบหน้าจะยิ้ม มีประกายสายตาสดใส สิ่งที่เกิดขึ้นและได้พบเห็นก็คือมีสีทองเกิดบนใบหน้าและจมูก และยังมีสายตาที่สอดส่องดูผู้คนที่เข้ามาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ด้วย ไม่ว่าจะไปทางซ้ายหรือขวา พระยิ้ม ก็จะมองตามอยู่ตลอดเวลา จนเป็นที่ฮือฮาของชาวบ้านที่มาเที่ยวชมดูพระยิ้มองค์นี้ 

 

ในอดีต มีประวัติเล่าขานว่า สมัยโบราณได้มีขโมยแอบเข้ามาวัดลี แล้วยกเอา พระยิ้ม ขึ้นบรรทุกใส่เกวียนไปตามถนน แต่วัวเทียมเกวียนไม่ยอมเดิน จนขโมยต้องยก พระยิ้ม ลงจากเกวียนทิ้งไว้ข้างทางห่างจากวัดลีเพียง 100 เมตร เท่านั้น จนชาวบ้านพบและแจ้งเจ้าอาวาสวัดลีมาอัญเชิญกลับมาไว้วัดจนถึงปัจจุบัน 

 

 

 

 

โดย : จรัสพงษ์ เสมอเชื้อ