ข่าว

เปิดข้อต่อสู้พรรคอนาคตใหม่ 'ไม่ได้ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม'

เปิดข้อต่อสู้พรรคอนาคตใหม่ 'ไม่ได้ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม'

21 ก.พ. 2563

พรรคอนาคตใหม่ได้เปิดเผยเอกสารคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาจำนวน 19 หน้าที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีสาระสำคัญที่เป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ของพรรคอนาคตใหม่ด้วยเหตุผล 8 ประการ

              1. คำขอให้พิจารณาวินิจฉัยของผู้ร้อง (คณะกรรมการการเลือกตั้ง) เป็นความเท็จทั้งสิ้น

              ผู้ถูกร้อง (พรรคอนาคตใหม่) มิได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 62 มาตรา 66 และมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ดังที่ผู้ร้องกล่าวหาแต่อย่างใด

 

              2. สถานะของผู้ถูกร้อง

              ผู้ถูกร้องมีสถานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย นายทะเบียนพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560

 

              3. บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่จะนำมาใช้บังคับแก่คดีนี้ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ

              ศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญและเป็นศาลที่มีเขตอำนาจเฉพาะ ศาลรัฐธรรมนูญจักมีอำนาจพิจารณาวัตถุแห่งคดีย่อมต้องบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ไม่ได้มีบทบัญญัติอื่นใดที่ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยยุบพรรคการเมือง การที่ผู้รองจะขอให้ศาลรัฐธรรมนูญใช้อำนาจตามมาตรา 92 และมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาบังคับใช้ในคดีนี้ จึงไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

 

 

 

              4. กระบวนการยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรคผู้ถูกร้องไม่ชอบด้วยกฎหมาย

              ผู้ร้องกระทำผิดกระบวนการขั้นตอนสำคัญก่อนการยื่นคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยตดีนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวคือ เมื่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนคณะที่ 13 ของผู้ร้อง มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยกคำร้องเสีย คณะกรรมการการเลือกตั้งผู้ร้องมีหน้าที่และอำนาจที่จะต้องสั่งยุติเรื่องเสียตามมาตรา 41 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 อีกทั้งปรากฏว่าคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนคณะที่ 13 หรือผู้ร้องไม่เคยแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ถูกร้องแต่อย่างใด อันเป็นกรณีที่ฝ่าฝืนข้อ 54 แห่งระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวนและการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561

 

 

 

              5. พรรคการเมืองสามารถกู้เงินได้และไม่มีกฎหมายห้าม

              พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคการเมือง ซึ่งเป็นนิติบุคคลเอกชน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง พรรคอนาคตใหม่ไม่ใช่ฝ่ายปกครองหรือเป็นองค์กรเจ้าหน้าที่ของรัฐ การใช้การตีความกฎหมายต่อพรรคอนาคตใหม่ย่อมต้องอยู่บนหลักการพื้นฐานของเสรีภาพในการแสดงเจตนา พรรคอนาคตใหม่ย่อมมีสิทธิเสรีภาพในการก่อนิติสัมพันธ์ใดๆ ก็ได้ตรายเท่าที่ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายกำหนดห้ามมิให้พรรคการเมืองกระทำ

 

              6. พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นหนี้สินมิใช่รายได้

              นายธนาธร ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจริงและนายธนาธรแสดงเจตนาต่อสาธารณชนด้วยความสุจริตว่านายธนาธรผู้ให้กู้ประสงค์จะได้เงินกู้ดังกล่าวคืนจากพรรคอนาคตใหม่ทุกบาททุกสตางค์ ดังนี้การที่นายธนาธร ให้ผู้ถูกร้องกู้ยืมเงินโดยมีกำหนดชำระหนี้แน่นอนตามวันเวลาแห่งปฏิทินและมีดอกเบี้ย ย่อมมิใช่เป็นการให้โดยเสน่หาแต่ประการใด จึงไม่อาจเป็นกาารบริจาตตามนัยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560

 

 

 

              เมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมการแถลงต่อสาธารณะของนายธนาธรแล้วจะเห็นได้ว่านายธนาธร มีเจตนาที่แท้จริงคือการให้กู้ยืมเงินตามนัยมาตรา 653 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ นอกจากนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผู้ถูกร้องได้ทยอยชำระหนี้เงินกู้คืนนายธนาธรเป็นระยะๆ พร้อมดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ

 

              7. การใช้และตีความบทบัญญัติมาตรา 72 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ของผู้ร้องขัดหรือแย้งกับเจตนารมณ์แห่งกฎหมาย

              บทบัญญัติแห่งกฎหมายนี้มีเจตนารมณ์มุ่งหมายมิให้พรรคการเมืองรับบริจาคเงินหรือทรัพย์สินจากเงินสกปก เช่น เป็นเงินที่ได้มาจากการค้ามนุษย์ ค่ายาเสพติด หรือฟอกเงิน เป็นต้น และโดยเหตุที่นายธนาธร เคยเป็นนักธุรกิจมีแหล่งรายได้มาจากการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ ไม่ปรากฏเหตุอันน่าสงสัยว่าเงินกู้ของนายธนาธร มีที่มาจากการค้ามนุษย์ ค้ายาเสพติด หรือฟอกเงิน แต่ประการใด ประกอบกับการทำนิติธรรมเป็นการกู้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และที่ผ่านมาได้มีการทยอยชำระเงินกู้จริง

 

 

 

              8. ผู้ถูกร้องและนายธนาธร มิได้ทำนิติกรรมอำพรางการบริจาคแต่อย่างใด

              ตามที่ผู้ร้องกล่าวหาว่า “ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกร้องมีหลักประกันที่น่าเชื่อถือว่าสามารถชำระหนี้กู้ยืม 191,200,00 บาท กับดอกเบี้ยตามที่กำหนดไว้ในสัญญาได้..” ผู้ถูกร้องขอเรียนต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าพรรคผู้ถูกร้องมีศักยภาพในการหารายได้เพื่อชำระหนี้เงินกู้คืนแก่นายธนาธร และหลักประกันสถานะของผู้ถูกร้อง คือตามงบการเงินของพรรคอนาคตใหม่ประจำปี 2561 ซึ่งระยะเวลาในการหารายได้ของพรรคอนาคตใหม่ตามงบการเงินดังกล่าว เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2561 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 นับเป็นเป็นระยะเวลา 2 เดือน 28 วัน พรรคอนาคตใหม่สามารถหารายได้เป็นเงินทั้งสิ้น 71,173,168 บาท หากพรรคอนาคตใหม่มีระยะเวลาหารายได้ 12 เดือน นายธนาธร ผู้ให้กู้ย่อมคะเนได้ว่าพรรคอนาคตใหม่ย่อมมีศักยภาพที่จะชำระหนี้เงินกู้ตามสัญญาได้เป็นอย่างแน่แท้

 

 

 

              อาศัยข้อเท็จจริงและเหตุผลประกอบกับข้อกฎหมายดังที่ผู้ถูกร้องได้บรรยายชี้แจงดังกล่าวทั้งปวงข้างต้น ผู้ถูกร้องขอศาลรัฐธรรมนูญได้โปรดยกคำร้องและจำหน่ายคดีออกจากสารบบความด้วย